Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

K-ESGBF-ThaiESGเปิดเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 11-18 พฤศจิกายน 2568 เริ่มลงทุนเพียง 500 บาท

119

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(11 พฤศจิกายน 2568)------บลจ.กสิกรไทย ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) อันดับ 1 ของไทย ภายใต้แนวคิด “Insight to Impact” ล่าสุดเปิดตัวกองทุน ThaiESG น้องใหม่ “K-ESGBF-ThaiESG” เน้นลงทุนในพันธบัตรและหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนที่มีคุณภาพระดับ Investment Grade พร้อมกลยุทธ์ปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด เปิดเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 11-18 พฤศจิกายน 2568 เริ่มลงทุนเพียง 500 บาท

นายฐานันดร โชลิตกุล CFA, Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จากัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า แม้ว่าการปรับลดดอกเบี้ยไทยอาจจะล่าช้าลงกว่าคาดการณ์เดิม แต่ท่ามกลางโลกที่ผันผวน แนวโน้มเศรษฐกิจที่แผ่วลง อัตราเงินเฟ้อที่ต่ำ และสินเชื่อที่ชะลอตัวต่อเนื่อง จำเป็นที่ต้องมีนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ดอกเบี้ยนโยบายของไทยจึงยังอยู่ในวัฎจักรขาลง ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีที่ยังคงเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing) อันดับ 1 ของไทย ภายใต้แนวคิด “Insight to Impact” โดยได้เพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุนผ่านกองทุน ThaiESG น้องใหม่ชื่อว่า กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ ESG ชนิดไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ K-ESGBF-ThaiESG เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 11-18 พฤศจิกายน 2568

นายฐานันดรกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบัน บลจ.กสิกรไทย ยังคงสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มกองทุน ESG Fund และ SRI Fund เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย ด้วยมูลค่าสินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการ (AUM) กว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยกองทุน ThaiESG กสิกรไทย มี AUM สูงที่สุดในอุตสาหกรรมเช่นกัน ด้วยมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 31 ต.ค. 2568) ทั้งนี้ สาหรับกองทุนน้องใหม่ K-ESGBF-ThaiESG มีนโยบายกระจายการลงทุนผ่านพันธบัตรและหุ้นกู้ที่เป็นตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) และ/หรือ ตราสารเพื่อความยั่งยืน โดยมีโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมจากส่วนต่างเครดิต (Credit Spread) ผ่านการลงทุนในหุ้นกู้ในสัดส่วน 30-70% พร้อมความยืดหยุ่นในการปรับเพิ่มและลดดูเรชั่นให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด โดยผสานการลงทุนทั้งในพันธบัตรด้านความยั่งยืนที่มีดูเรชั่นมากกว่า 7 ปี และหุ้นกู้ความยั่งยืนที่มีดูเรชั่นสั้นกว่า 7 ปี เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการสร้างผลตอบแทน และควบคุมความผันผวน/ความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเน้นมุ่งเน้นถึงปรัชญาการลงทุนพื้นฐานของ บลจ.ในการคัดเลือกลงทุนหุ้นกู้อย่างเข้มข้น เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพของสินทรัพย์ให้กับพอร์ตของกองทุน

“การลงทุนในตราสารหนี้ยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการลดดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า บลจ.กสิกรไทย ประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้อีก 1-2 ครั้งในช่วง 12 เดือนข้างหน้า จากเศรษฐกิจไทยที่เผชิญความท้าทายจากความไม่แน่นอนจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ นอกจากนี้การปรับเพิ่มของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยในช่วงที่ผ่านมาได้ทำให้ valuation ของตราสารหนี้ไทยน่าสนใจขึ้นมาก สังเกตได้จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อตราสารหนี้ไทยช่วงที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทย คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1.40%-1.80% ในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ กองทุน K-ESGBF-ThaiESG มีโอกาสได้รับประโยชน์จากจากการผสมผสานพันธบัตรและหุ้นกู้ความยั่งยืนที่สนับสนุนโอกาสสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะกลางถึงยาว โดยเฉพาะในสภาวะดอกเบี้ยในขาลงที่เอื้อต่อการลงทุนในตราสารหนี้” นายฐานันดรกล่าว

นายฐานันดรกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนในกองทุน K-ESGBF-ThaiESG เริ่มต้นเพียง 500 บาท ซื้อง่ายอย่างปลอดภัยผ่าน App K PLUS และ K-My Funds หรือ ผ่านทางธนาคารกสิกรไทยและผู้แทนสนับสนุนการขาย ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกช่องทางของกสิกรไทย หรือ ผู้แทนสนับสนุนการขาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 และศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองได้ที่ www.kasikornasset.com

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้