Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล. โกลเบล็ก (GBS) จับจังหวะลงทุนหุ้น MSCI ประกาศปรับดัชนีรอบใหม่

96

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (10 พฤศจิกายน 2568 )-----บล. โกลเบล็ก (GBS) ประเมินดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้ แกว่งตัวในกรอบจำกัดที่ 1,280–1,350 จุด จากความกังวลหุ้นเทคโนโลยี AI สหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะฟองสบู่ ส่วนปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ที่จะสิ้นสุดในสัปดาห์นี้ พร้อมแนะกลยุทธ์เก็งกำไรหุ้นเข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่มีผล 24 พ.ย. นี้

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยมีโอกาสแกว่งตัวในลักษณะ Sideway หลังจากปรับตัวขึ้นแรงในช่วงก่อนหน้า โดยนักลงทุนยังคงเผชิญแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี AI ในสหรัฐฯ ที่อาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่จากการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา หลังดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้น 8.27%

ขณะเดียวกัน ปัจจัยภายในประเทศยังคงต้องติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะทยอยสิ้นสุดในสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนให้ความสนใจกับการรายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2568 จึงคาดการณ์ดัชนีจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,280 – 1,350 จุด

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้ ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน อาทิ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่าในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (8M68) มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของไทยอยู่ที่ 60,245.93 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน , การจัดเก็บภาษีนำเข้าใหม่ ซึ่งจะเริ่มวันที่ 1 มกราคม 2569 เป็นต้นไป กรมศุลกากรจะเริ่มจัดเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าที่สั่งจากแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างประเทศตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป พร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้รัฐไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท, การส่งออกเติบโตต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับประมาณการการเติบโตของมูลค่าการส่งออกปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 9.5–10.5% จากเดิมที่คาดไว้ต่ำกว่านี้ พร้อมผลักดันนโยบายสนับสนุน SME และสินค้า Made in Thailand เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจ ประกอบกับ กกร. ลุ้น Quick Big Win หนุนเศรษฐกิจไทยปี 2568 เติบโตใกล้เคียงกับปีก่อน 2.5% ปรับประมาณส่งออกโตดีกว่าที่คาด 9.5-10.5% ชี้เหตุส่งออกทองคำสูง แต่ไม่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจ, การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ฟื้นตัว โดย ADP รายงานว่าการจ้างงานภาคเอกชนในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 42,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 22,000 ตำแหน่ง สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากลดลงในเดือนก่อนหน้า และ จีนประกาศระงับการเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติม 24% สำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ เป็นเวลา 1 ปี แต่จะยังคงเก็บภาษีในอัตรา 10% ต่อไป โดยเป็นมาตรการที่เกิดขึ้นหลังการพบปะระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน ยังคงต้องเฝ้าระวังปัจจัยในประเทศที่อาจจะส่งผลต่อการลงทุนได้เช่นกัน อาทิ สัปดาห์ที่ 2 ตลท. แถลงสรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์, สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและอัพเดตสถานการณ์ลงทุน, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย, สรท. แถลงสถานการณ์การส่งออก, วันที่ 14 พ.ย. กำหนดวันสุดท้ายส่งงบการเงินรายไตรมาสงวดสิ้นสุด 30 ก.ย. 2568, สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์, วันที่ 17 พ.ย. สภาพัฒน์ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/68 และแนวโน้มปี 2568, สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคและวันที่ 17 ธ.ค. กำหนดประชุมกนง. ครั้งที่ 6/2568

ส่วนปัจจัยต่างประเทศที่ยังเฝ้าติดตาม อาทิ คำสั่งศาลฎีกาสหรัฐเพื่อชี้ขาดว่าประธานาธิบดีมีอำนาจในการประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจเพื่อจัดเก็บภาษีศุลกากรโดยไม่ต้องผ่านสภาคองเกรสได้หรือไม่หลังการไต่สวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา, วันที่ 10 พ.ย. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงาน Summary of Opinions, วันที่ 11 พ.ย. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนพ.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.

นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ปรับอานสิสงส์จากการ MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นที่มีการปรับน้ำหนักในดัชนีรอบใหม่ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 โดยในรอบนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในดัชนี MSCI Thailand Index ขณะที่ดัชนี MSCI Global Small Cap มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญ โดยหุ้นที่มีการนำเข้าคำนวณได้แก่  M ส่วนหุ้นที่นำออกจากการคำนวนดัชนี ได้แก่  AAV, CKP, JTS, QH, TPIPP ซึ่งส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่จะปรับเข้า และระวังแรงขายหุ้นที่ถูกปรับออก 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

กังวล By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นนักลงทุน ยังคงมีเรื่องราวความกังวล รบกวนจิตใจการลงทุน สะท้อนได้จาก ปริมาณการซื้อขาย....

มีแต่ขายออก By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เห็น กระแสทุนนอก นักลงทุนต่างชาติ มีแต่ขายหุ้นออก อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อ เศรษฐกิจ...

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้