Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ก.ล.ต. ลงนาม MOU กับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์

89

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(6 พฤศจิกายน 2568)----------สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระหว่าง 15 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีเป้าหมายเพื่อประกาศเจตนารมย์ในการต่อต้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Scammer) ยับยั้งการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางการฟอกเงิน และให้คำปรึกษาภัยหลอกลงทุน

ในพิธีลงนาม MOU ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานและสักขีพยาน มีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมลงนามจำนวน 15 แห่ง ได้แก่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ

นางสาวจอมขวัญ คงสกุล รองเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ก.ล.ต. ได้ดำเนินมาตรการป้องกันและยับยั้งการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางการฟอกเงินอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน ในการกำหนดมาตรฐานป้องกันและจัดการบัญชีม้า รวมถึงมีส่วนร่วมผลักดันการออกพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และผลักดันการออกพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ซึ่งช่วยยกระดับมาตรการสกัดกั้นบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มความชัดเจนของกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องมีความรับผิดร่วม (shared responsibility) ต่อความเสียหายของผู้ใช้บริการหากไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานหรือมาตรการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

รวมทั้งยกระดับมาตรการป้องกันการใช้แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศเป็นช่องทางฟอกเงิน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เพื่อดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศที่มีพฤติกรรมการชักชวนหรือโฆษณาการให้บริการ (solicit) กับผู้ลงทุนในประเทศไทย ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตลอดจนขยายความร่วมมือในการจัดการปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีระหว่างภาคธนาคาร ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จากการดำเนินมาตรการดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถระงับบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลได้กว่า 32,671 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดประมาณ 228 ล้านบาท (ยอดสะสม ณ วันที่ 30 กันยายน 2568) และ ก.ล.ต. ได้นำส่งข้อมูลแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้แก่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อดำเนินการปิดกั้นช่องทางการเข้าถึงแพลตฟอร์มดังกล่าวแล้ว จำนวน 5 แพลตฟอร์ม

พร้อมทั้ง ก.ล.ต. ได้เดินหน้านโยบายการป้องกันเชิงรุก หรือ Preventive Anti-Scam for All มุ่งลดความสูญเสียของประชาชนจากภัยหลอกลงทุน ด้วยการดำเนินงานผ่าน “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน 1207 กด 22” ซึ่งให้คำปรึกษาและรับแจ้งเบาะแสอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 โดยในเดือนตุลาคม 2568 ได้รับแจ้งและให้คำปรึกษามากกว่า 1,500 ครั้ง สะท้อนว่าประชาชนตระหนักและต้องการความช่วยเหลือมากขึ้น

ก.ล.ต. ยังใช้เทคโนโลยีตรวจจับและปิดกั้นการชักชวนหลอกลงทุนบนสื่อโซเชียล เช่น Facebook Instagram TikTok และ LINE โดยทำงานร่วมกับผู้ให้บริการสื่อโซเชียลและสามารถปิดกั้นได้ภายในระยะเวลา 7 นาที ถึง 48 ชั่วโมง และปิดกั้นได้ครบ 100% ขณะที่ได้พัฒนาเครื่องมือออนไลน์เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ด้วยตนเองเช่นกัน ได้แก่ SEC Check First ตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจหรือผู้แนะนำที่ได้รับอนุญาต SEC Investor Alert ตรวจสอบรายชื่อบุคคลหรือองค์กรที่ไม่ได้รับอนุญาต เว็บไซต์ Scam Center ศูนย์รวมข้อมูลการหลอกลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้ร่วมมือกับหน่วยงานในและต่างประเทศ เช่น เผยแพร่ข้อมูลการหลอกลงทุนผ่าน I-SCAN ขององค์กรกำกับดูแลตลาดทุนระหว่างประเทศ (IOSCO) และเชื่อมต่อผู้เสียหายที่โทรเข้ามาปรึกษาไปยังศูนย์ AOC 1441 เพื่อแจ้งความและอายัดบัญชีได้ทันท่วงที

“การลงนาม MOU ครั้งนี้ จึงตอกย้ำบทบาทของ ก.ล.ต. ในการเป็นศูนย์กลางให้บริการเรื่องภัยหลอกลงทุนแบบครบวงจร มุ่งยกระดับมาตรการป้องกันและยับยั้งการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางการฟอกเงิน เพื่อให้ตลาดทุนไทยปลอดภัยจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน” รองเลขาธิการกล่าว

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

สร้างภาพ By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็น นักลงทุนบางกลุ่ม พยายามสร้างภาพ สร้างเส้นเทคนิค ด้วยการใช้หุ้นDELTA ตัวเดียว....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้