Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ไทยคม รายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 3/2568 จำนวน 500 ล้านบาท ลดลงจำนวน 35 ล้านบาท หรือลดลง 6.5% จากรายได้จำนวน 535 ล้านบาทในไตรมาส 2/2568 (QoQ)-มีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2568 จำนวน 0.9 ล้านบาท

151


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 4 พฤศจิกายน 2568)--------1. บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเฉพาะธุรกิจด้านดาวเทียม จำนวน 21 ล้านบาท ในช่วงเปลี่ยนผ่านของบริษัท

2. บริษัทในเครือของไทยคม บริษัท สเปซเทค อินโนเวชั่น จำกัด (“STI”) ร่วมกับธนาคารดอยซ์แบงก์ และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ลงนามสัญญาสินเชื่อที่ได้รับการค้ำประกันจาก Bpifrance Assurance Export หน่วยงานส่งเสริมการส่งออก Export Credit Agency (“ECA”) ของประเทศฝรั่งเศส สำหรับโครงการดาวเทียมไทยคม 10 มูลค่า 184 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

3. บริษัทและ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ (“เอไอเอส”) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (“กสทช.”) ส่งรถสื่อสารผ่านดาวเทียมเคลื่อนที่ (Satellite-on-the-Move) เพื่อสนับสนุนภารกิจของกองทัพไทยในพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

4. บริษัท กรมควบคุมมลพิษ และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ฯ ร่วมลงนาม MOU พัฒนาแพลตฟอร์มการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศด้วยเทคโนโลยีดาวเทียมและ AI


บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (“บริษัท” หรือ “ไทยคม”) ผู้นำธุรกิจดาวเทียมแห่งเอเชียและผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีอวกาศ รายงานผลประกอบการไตรมาส3/2568
รายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 3/2568 จำนวน 500 ล้านบาท ลดลงจำนวน 35 ล้านบาท หรือลดลง 6.5% จากรายได้จำนวน 535 ล้านบาทในไตรมาส 2/2568 (QoQ) เนื่องจากในไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจ Space Tech เข้ามาจำนวนหนึ่ง ประกอบกับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยแม้ว่าบริษัทจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เนื่องจากดาวเทียมไทยคม 4 ใกล้สิ้นอายุการใช้งาน บริษัทยังคงสามารถรักษาฐานรายได้หลักได้อย่างต่อเนื่อง ผ่านการบริหารจัดการโครงสร้างของลูกค้าตามแผนงาน นอกจากนี้ ต้นทุนขายและการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลประกอบการโดยรวมยังคงมีเสถียรภาพในช่วงเปลี่ยนผ่านดังกล่าว ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2567 (YoY) รายได้จากการขายและการให้บริการปรับตัวลดลง 18.6% จากการสิ้นสุดของโครงการUSO ระยะที่ 2 และรายได้จากการให้บริการดาวเทียมแบบทั่วไปที่ปรับตัวลดลงสอดคล้องกับอุปสงค์ของตลาดที่ชะลอตัวลง


แม้จะเผชิญกับความท้าทายจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและภาวะเศรษฐกิจในไตรมาส3/2568 บริษัทสามารถสร้างกำไรจากการดำเนินงาน¹ จำนวน 7 ล้านบาท สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะธุรกิจด้านดาวเทียม บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับดาวเทียมและส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจโทรคมนาคมจำนวน 21 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติ 14 ล้านบาท สะท้อนถึงศักยภาพในการทำกำไรที่แข็งแกร่งของธุรกิจหลัก


บริษัทมีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2568 จำนวน 0.9 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 207 ล้านบาทในไตรมาส 2/2568 สาเหตุหลักมาจากปัจจัยด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งค่าเงินบาทในไตรมาส 3/2568 แข็งค่าในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2/2568 โดยสถานการณ์การแข็งค่าของค่าเงินบาทดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก รวมถึงบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากต่างประเทศ บริษัทตระหนักถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบ เช่น การบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ
สำหรับธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์ในต่างประเทศ ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในการร่วมค้าในไตรมาส 3/2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2568 (QoQ) แม้ว่ารายได้ของ บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ มหาชน (“LTC”) ในไตรมาส 3/2568 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยส่วนแบ่งขาดทุนที่เพิ่มขึ้น เป็นผลมาจากสกุลเงินกีบที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้บริษัทยังคงรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้า ทั้งนี้ ในระยะยาว บริษัทได้รับปัจจัยเชิงบวกจากนโยบายการปรับโครงสร้างราคาค่าบริการโทรคมนาคมของกระทรวงคมนาคมและการสื่อสารสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จะส่งผลให้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้าฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

บริษัทลงนามสัญญาสินเชื่อ Export Credit Agency (“ECA”) วงเงินรวม 184 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับโครงการดาวเทียมไทยคม 10 ผ่านบริษัทในเครือบริษัท สเปซเทค อินโนเวชั่น จำกัด (“STI”) ร่วมกับธนาคารดอยซ์แบงก์ และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ภายใต้การค้ำประกันวงเงินสินเชื่อจาก Bpifrance Assurance Export หน่วยงานส่งเสริมการส่งออกของรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อใช้ในการจัดสร้างดาวเทียมไทยคม 10 ซึ่งผลิตและออกแบบโดย บริษัท Airbus Defense and Space of France ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนความเชื่อมั่นจากสถาบันการเงินชั้นนำ และเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของไทย รองรับบริการด้านอินเทอร์เน็ต ความมั่นคง และการสื่อสารในพื้นที่ห่างไกล ทั้งในประเทศและภูมิภาค

บริษัท และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ (“เอไอเอส”) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (“กสทช.”) ส่งรถสื่อสารผ่านดาวเทียมเคลื่อนที่ (Satellite-on-the-Move) เพื่อสนับสนุนภารกิจของกองทัพไทยในพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยรถสื่อสารผ่านดาวเทียมเคลื่อนที่ของบริษัทได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการสื่อสารที่เสถียรและรวดเร็วในพื้นที่ห่างไกล โดยเฉพาะตามแนวชายแดน เพื่อสนับสนุนการประสานงานของหน่วยงานทหาร

บริษัท กรมควบคุมมลพิษ และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ร่วมลงนามพัฒนาแบบจำลองคาดการณ์ฝุ่น PM2.5 โดยใช้ข้อมูลดาวเทียมร่วมกับเทคโนโลยี Artificial Intelligence และ Machine Learning เพื่อยกระดับการบริหารจัดการคุณภาพอากาศของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพแบบรายพื้นที่ ซึ่งสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ถึง 7 วัน โดยมีการแสดงผลผ่านเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษเพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนรับมือได้อย่างทันท่วงที

[1] กำไรจากการดำเนินงาน (Core Profit) หมายถึง กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ ไม่รวมกำไร (ขาดทุน) จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้น (unrealized gain (loss) on exchange rate) ของบริษัทและการร่วมค้า และไม่รวมผลกระทบจากรายการพิเศษ

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ยังดี มีสตอรี่ให้เล่น By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ สถานการณ์ตลาดหุ้นไทย อยู่ในสภาวะไม่คึกคัก ด้วย ตอนนี้ นักลงทุน อยู่ระหว่าง...

SSP หุ้นคุณภาพดี! คว้า CGR "ดีเลิศ" 5 ดาว 2 ปีซ้อน

SSP หุ้นคุณภาพดี! คว้า CGR "ดีเลิศ" 5 ดาว 2 ปีซ้อน

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้