Company Note
ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง
คาดกำไรสุทธิ Q3 ลดลง YoY และบวกเล็กน้อย QoQ จากค่าใช้จ่ายการตลาดที่เพิ่มขึ้น
เราคาดกำไรสุทธิ 3Q25F จะอยู่ที่ 132 ล้านบาท (-19% YoY, +2%QoQ) จากรายได้รวม 3Q25F เราคาดทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ โดย 1) ยอดขายตลาดในประเทศ (Domestic) เติบโตเล็กน้อย +2% YoY และ 5% QoQ (สัดส่วนยอดขายในประเทศคิดเป็นประมาณ 75% ถึงเกือบ 80% ของรายได้ทั้งหมด) 2) ตลาดต่างประเทศ คาดยังคงลดลง จากกลุ่ม CLMV ที่ลดลง โดยเฉพาะกัมพูชาที่มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 3% ของรายได้ และเวียดนามคาดใกล้เคียง QoQ โดยในไตรมาสนี้สินค้ากลุ่ม Snack ยอดขายเติบโตขึ้น QoQ เนื่องจาก Q3 เริ่มเข้าสู่ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นฤดูกาลขายของกลุ่ม Snack สำหรับกลุ่ม Beverage ยอดขายลดลงเล็กน้อย QoQ เพราะไม่ใช่ช่วงหน้าขาย
ยอดขายเวียดนาม ยอดขาย Sell-out (จากตัวแทนจำหน่ายไปยังผู้บริโภค) ของเวียดนามดีขึ้นและเห็นการฟื้นตัว ใน Q3 สต๊อกสินค้าของตัวแทนจำหน่ายน้อยลง และมีการหมุนเวียนสินค้าเร็วมากขึ้น สำหรับยอดขาย Sell-in (ยอดขายที่ส่งเข้าตัวแทนจำหน่าย) ใน Q3 ใกล้เคียงกับ Q2 และไม่ได้เพิ่มขึ้นมาก โดยทางบริษัทได้บริหารด้วยการไม่โหลดสต๊อกเพิ่มเข้าไปในตัวแทนจำหน่ายใน Q3 เพื่อให้ตลาดฟื้นตัวและสต๊อกของคู่ค้าลดลงต่ำกว่า 30 วัน ซึ่งเป็นสัญญาณบวก การผลิตในโรงงานที่เวียดนามสินค้าหลักคือ “เบนโตะ” ได้มีการเพิ่มกะการผลิตเป็น 2 กะ ตั้งแต่เดือน ก.ย./ต.ค. จากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น
อัตรากำไรขั้นต้น (GP Margin) และค่าใช้จ่าย (SG&A) GP Margin Q3 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากยอดขายของกลุ่ม Snack ซึ่งมี GP Margin สูงกว่ากลุ่มเครื่องดื่ม เติบโตขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล สำหรับ SG&A/S คาดเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังมีการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องสำหรับแคมเปญและการตลาด ประกอบกับยอดขายยอดขายที่คาดไม่เติบโตส่งผลให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายเพิ่มขึ้น
ปรับประมาณการกำไรปีนี้ลดลง สะท้อนแนวโน้มกำไร 9M25F ต่ำกว่าคาด
เราคาดกำไรสุทธิ 9M25F ลดลง 11% YoY และคาดแนวโน้มกำไร 4Q25F จะทรงตัว YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ จากเข้าสู่ช่วย High Season สำหรับธุรกิจ Snack ประกอบกับมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ "คนละครึ่ง" หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะช่วยกระตุ้นความต้องการและทำให้การใช้จ่ายดีขึ้นทางอ้อม
เราปรับประมาณการกำไรปี 2025-26F ลดลงจากคาดเดิมปีละ 9%
เราคาดกำไรสุทธิปีนี้ลดลง 8% และปีหน้าจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ 8% จากยอดขายในประเทศปี 2025-26F คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3% และ 4% ตามลำดับ คาดยอดส่งออกปีนี้ลดลง 15% และปีหน้าจะกลับมาเพิ่มขึ้นคาด +5% โดยกลุ่ม CLMV จากประเทศเวียดนามกลับมาปกติ และฟิลิปปินส์ที่มีตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น 2 ราย ทำการตลาดเข้ากลุ่ม modern trade เพิ่มขึ้น สำหรับยอดขายในสหรัฐฯมีผลกระทบน้อยจากยอดขายไม่ถึง 1% และบริษัทมีโรงงานในกัมพูชา ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาคาดจะกระทบยอดขายจากกำลังซื้อลดลงของผู้บริโภคในกัมพูชา โดยยอดขายในกัมพูชาปีที่ผ่านมาประมาณ 180 ล้านบาท หรือ 3% ของรายได้รวม และปีนี้เราคาดจะลดลงมาที่ 160 ล้านบาท
สำหรับบริษัทร่วมทุนสิริโปรคาดจะเริ่มจุดคุ้มทุน คาดอัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการดำเนินไลน์ผลิตในเวียดนามที่มีต้นทุนต่ำกว่าช่วยเพิ่มอัตราทำกำไร และคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 17.7% จากการทำการตลาดสินค้าใหม่
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายเป็นปี 2026 จากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ปัจจัยฤดูกาลจากช่วงฤดูฝนยาวนานกระทบต่อยอดขาย ผลประกอบการปีนี้คาดลดลงและปีหน้าจะกลับมาเพิ่มขึ้น ราคาเป้าหมายที่ 8.7 บาท อ้างอิง PER forward -1.5SD ของบริษัท SNNP ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 13X (จากเดิม PER forward -1SD ย้อนหลัง 5ปี ที่ 17X), Div.Yield 26F คาดที่ 6.3% ปัจจัยเสี่ยง 1) สภาวะเศรษฐกิจ 2) ยอดขายไม่เป็นตามคาด