Equality for All
SCC : บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย

3Q25 พลิกขาดทุนสุทธิ 669 ลบ. จากส่วนต่างราคาลดลง แต่ขาดทุนน้อยกว่าคาด : แยกธุรกิจได้ดังนี้
ปูนซีเมนต์ ยอดขายหด -2.3% q-q จากการอ่อนตัวของกลุ่มอสังหาฯ และปัจจัยฤดูกาล แต่จากการปรับโครงสร้างธุรกิจ และราคาปูนที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ EBITDA margin ทรงตัว q-q ที่ 16%
บรรจุภัณฑ์ ยอดขายหด -3% q-q จากผลของราคาขายที่ลดลงแต่ต้นทุนที่ลดลงด้วย ทำให้ EBITDA margin ดีขึ้นเล็กน้อยเป็น 14% จาก 13% ใน 2Q25
ปิโตรเคมี ยอดขายเพิ่ม +0.2% q-q จากการเริ่มผลิตโรงงาน LSP 2 เดือนส่งผลให้ปริมาณขายเพิ่ม +7.8% q-q แต่จากส่วนต่างราคา HDPE หด -31 เหรียญ/ ตัน และ PP หด -55 เหรียญ/ ตัน ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวจากการเริ่มผลิตของ LSP ราว 200-300 ลบ. ผนวกกับมีขาดทุนจากสต็อกรวม NRV ทั้งสิ้น -1,348 ลบ. ทำให้ธุรกิจปิโตรฯ ขาดทุนสุทธิ 3,999 ลบ.
อีกทั้งไตรมาสนี้ การรับรู้เงินปันผลรับจากบริษัทร่วมจะเหลือเพียง 4,892 ลบ. ลดลงจาก 8,086 ลบ. ใน 2Q25
ขณะที่ไตรมาสนี้ค่าใช้จ่ายขายและบริหารลดลง -18% q-q จากเน้นการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยมีรายการพิเศษสุทธิ -1,443 ลบ. มาจากขาดทุนสต็อก -1,348 ลบ. และการปรับโครงสร้างการดำเนินงาน -95 ลบ. หากไม่รวมรายการพิเศษ การดำเนินงานปกติกำไรจะอยู่ที่ 774 ลบ. จาก 3Q24 ขาดทุน 97 ลบ.แต่ลด 75% q-q

ปิโตรฯ จะเป็นจุดเปลี่ยน
“ การดำเนินงานที่ออกมาไม่ได้ผิดหวังมากนัก โดยธุรกิจอื่นกำลังเข้าสู่ฤดูกาลทำให้แนวโน้มการดำเนินงานจะดีขึ้นตามลำดับ ส่วนปิโตรฯ คงต้องตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ว่าจะเอื้อต่อการฟื้นตัวของการดำเนินงานได้หรือไม่ซึ่งหากแนวโน้มดีขึ้นจะเป็นจุดเปลี่ยนของการดำเนินงานอีกครั้ง
ราคาหุ้นย่อตัวลงมาจากแนวโน้มงบที่กลับมาขาดทุนซึ่งคาดว่าตลาดรับรู้ข่าวนี้ไปแล้ว ราคาหุ้นที่ปรับลงมาเริ่มน่าสนใจมากขึ้น เพราะคาดผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และคาดยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตปิโตรของประเทศต่างๆ รออยู่ข้างหน้า ”

นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th