ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook

สรุปภาพตลาดวานนี้ SET ย่อ แต่พอรับได้ โดยนอกจาก DELTA ที่กดตลาด (แค่เล็กน้อย) ก็มีแรงขายในกลุ่มพลังงาน ไอซีที คอมเมิร์ช ที่วันก่อนปรับตัวขึ้นมา ขณะที่แรงซื้อ หมุนกลับไปงัดหุ้น เช่น THAI AOT BEM MINT

แนวโน้มตลาดวันนี้ SET ขึ้นอยู่กับฤดูกาลประกาศงบ.

จากราคาหุ้นที่แข็งแกร่ง-ราคาหุ้นไม่ค่อยลงแม้งบแย่ หลังจากแจ้งงบการเงินเมื่อวานนี้ เช่น HMPRO SCGP ตรงข้ามเรายังคงเห็นแรงซื้อสวน และราคาหุ้นประคองตัวได้ดี สะท้อนบรรยากาศลงทุนหุ้นไทยที่ดีกว่าช่วงไตรมาสที่ 2/25

แม้งบที่ทยอยประกาศเมื่อวานไม่มีข่าวดี แต่เราพบแรงขายไม่ได้รุนแรง ดังนั้นเรายังคงต้องลุ้นต่อไปกับหุ้นที่จะประกาศงบตัวที่เหลือของฤดูกาลนี้ ซึ่งเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อ บรรยากาศลงทุนหุ้นไทยช่วงฤดูประกาศงบ (งบดีเกินคาด ตลาดพร้อมเล่น งบไม่ดี ตลาดไม่เท)

เราคงคาดแนวโน้มสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวเชิงบวก โดยยกฐานแนวรับสูงขึ้น เป็น 1290 จุด และแนวต้าน 1320 จุด (ต้านใหม่ 1350 จุด) อิงตามพัฒนาการเชิงบวก ของกำไรบริษัทจดทะเบียนไทยที่มีลุ้นกำไรดีเกินคาด ช่วยเพิ่มแรงซื้อเก็งกำไรงบ เช่นเดียวกับที่เกิดกับ ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร และ DELTA ในช่วงที่ผ่านมา
กอปรกับ ความชัดเจน 2 เรื่องจากปัจจัยมหภาค ที่คาดว่าจะมีข้อสรุปเชิงบวก ได้แก่ ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ตลาดคาดลดดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.75-4% พร้อมส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธค. (อาจมีแถมเรื่อง กรอบระยะเวลาที่จะยุติโครงการ QT) โดยประเด็น “เฟด” เรามองเป็นกลางถึงบวก ไม่มีประเด็นสร้างความประหลาดใจเชิงลบ และไม่น่าจะมีแรงขาย Sell on fact ตามมา / ดีลการค้าจีนสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะบรรลุข้อตกลงกันได้ และในวันพรุ่งนี้จะมีการพบปะนอกรอบของผู้นำทั้ง 2 ประเทศ ก่อนเริ่มประชุม เอเปก วันที่ 31 ตค.

คาดหุ้นกลุ่มเด่นระยะสัปดาห์: โรงไฟฟ้า พลังงาน สื่อสารฯ ค้าปลีก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

คาดหุ้นกลุ่มด้อย: ธนาคาร (คาดมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น Sell on fact งบออก) สินเชื่อ

กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้-รอสะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลงมาตามแนวรับ เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค ดัชนีลบเป็นไปตามทรงกราฟ “Shooting star” เตือนการปรับฐานแม่นยำ! อย่างไรก็ตามหากมองภาพระยะกลางดัชนียังคงรักษารูปแบบขาขึ้นเนื่องจากไม่หลุดเส้น EMA 10, 25, 75, 200 วัน หรือนำทั้ง 4 เส้นมาหาค่าเฉลี่ยอีกชั้นนึงจะได้โซนรับที่ 1,280 ขณะที่โมเมนตัม MACD ยังดูดี cross เส้น signal line สำเร็จ นอกจากนี้ price pattern “Bullish rectangle” ชี้เป้าที่ 1,250 จุด ก็ขึ้นไปถึงแล้ว มองว่า “เทรนด์ขาขึ้น....ยังไม่จบง่ายๆ อาจต้องใช้เวลาในการทะลุตำแหน่ง Fibo 61.8% ซึ่งถือเป็นโซนต้านที่มีนัยสำคัญ สำหรับภาวะตลาดเกิดการเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนโฉมหน้าหุ้นผู้นำกลุ่ม Sector rotation (เปลี่ยนจากแบงค์ & DELTA) หมุนมายังกลุ่มสื่อสาร โรงไฟฟ้า และปิโตรเคมี ตามที่เคยได้ให้มุมมองไว้ครับ

ไฮไลท์หุ้นเด่น: หุ้นปิโตรฯ PTTGC & IVL ฟื้น...ตามแผน/ โรงกลั่น TOP & SPRC ยังไปได้/ AOT สู้ที่โซนรับ/ ITC ขาขึ้น ยังไม่จบง่ายๆ/ AMATA “ Head & Shoulder Top”.....

What to watch
คาดวันประกาศงบสัปดาห์นี้ อังคาร 28 SCGP GLOBAL HMPRO พุธ 29 SCC พฤหัส 30 ITC PTTEP
เบสเซนต์รับ สหรัฐฯ-จีนบรรลุกรอบข้อตกลงการค้า ก่อนพบปะ "ทรัมป์-สี"เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุกรอบข้อตกลงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในวันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) ที่เกาหลีใต้ เบสเซนต์กล่าวหลังประชุมกับคณะผู้แทนจีนว่า ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือประเด็นสำคัญ ทั้งการค้า แร่หายาก สารเฟนทานิล ติ๊กต๊อก (TikTok) สินค้าเกษตร และความสัมพันธ์ทวิภาคี นอกจากนี้ เบสเซนต์ยังระบุว่า การเจรจาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์และครอบคลุมทุกมิติ และเสริมว่า การขยายระยะเวลาพักรบทางการค้าน่าจะเดินหน้าต่อไปได้ แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทรัมป์
สงครามการค้า จีน สหรัฐฯ ที่ได้ข้อยุติลงชั่วคราวเมื่อเดือน พ.ค. (โดยระงับการเก็บภาษีตอบโต้กันในอัตราเลขสามหลัก) กำลังจะถึงเส้นตายใหม่ วันที่ 10 พย. ซึ่งต้องเร่งหา ข้อยุติชั่วคราวครั้งใหม่ให้ทัน...

กสทช.จ่อเสนอดีอีชง"เน็ตคนละครึ่ง"160 บาทเล่น 40GB เข้าครม.สัปดาห์หน้า โครงการ "อินเทอร์เน็ตคนละครึ่ง" ช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและยกระดับทักษะดิจิทัล โดยผลของการหารือร่วมกับค่ายมือถือ ผู้ร่วมโครงการจะได้บริการอินเทอร์เน็ตราคา 160 บาท ( รวม VAT) ความเร็วที่ 40 GB ระยะเวลา 30 วัน หลังจากสิ้นสุดกำหนดเวลา ให้ใช้ได้ความเร็ว 512 MB ทั้งนี้บริการนี้ไม่รวมบริการเสียง non voice

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนต.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 89.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือนธ.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้
AOT คาดกำไรไตรมาส 4/25 (งวด 30 กย.) ที่ 3,587 ล้านบาท -16% y-y, -7% q-q แต่จะฟื้นตัวบวกแรงในไตรมาสถัดไป พลิก+ 61% q-q (เดือนหน้ามีลุ้นได้อนุมัติขึ้นค่าภาษีสนามบิน)
แนวรับ 39.25 ต้าน 42 Stop loss 38

Tactical port
ถอด CPAXT เพิ่ม AOT

รายงานพื้นฐานวันนี้

SYNEX
ซินเน็ค (ประเทศไทย)
กำไรเร่งตัวต่อเนื่อง หนุนการ Re-rating
เราคาดกำไรหลัก 3Q25 ราว 170 ลบ. (+19% YoY, +3% QoQ) หนุนจาก 1) ยอดขายสมาร์ทดีไวซ์ (52% ของยอดขาย) เติบโตแข็งแกร่งตามกระแสโมเดลใหม่ทั้ง iPhone/Huawei และการเพิ่มช่องทางขายเพิ่มเติมในลูกตู้ต่างจังหวัดและจุดขายในห้างของร้านหัวเว่ย ควบคู่กับ 2) ส่วนแบ่งกำไร NCAP กระโดดแรงจากคุมหนี้เสียได้ดี รายจ่าย ECL ลดลง
เรายังคงประมาณการกำไรหลักปี 2025 โต 25% YoY สูงสุดในกลุ่มค้าปลีก IT โดยคาดกำไร 4Q25 โต YoY เร่งขึ้นจากฤดูกาลขาย , การรับรู้ยอด iPhone 17 เต็มไตรมาส อีกทั้ง คาดมีแรงหนุนเกมใหม่ของ switch 2 ที่จะทยอยเปิดตัวท่ามกลางแนวโน้มค่าใช้จ่าย ECL ที่มีสัญญญาณลดลงตั้งแต่ 3Q25 หนุน SG&A/sales ลง YoY และ margin ดีขึ้น YoY
Fundamental view: คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 14.0 บาท ราคาหุ้นปรับฐาน 20% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเหลือซื้อขายที่ PER ปี 2026 เพียง 12.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 20 เท่า สะท้อนความกังวลด้านกำลังซื้อและตั้งสำรองมากเกินไป เมื่อพิสูจน์การเติบโตใน 3Q25 และเร่งตัวใน 4Q25 ได้ เราคาดเห็นราคาหุ้นจะ Re-rating

รายงานผลประกอบการวันนี้

(0) SCGP รายงานกำไรสุทธิ 3Q25 ที่ 953 ล้านบาท หักรายการพิเศษ กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,021 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% YoY (หนุนโดยธุรกิจแพ็คเกจจิ้ง รวมทั้ง Fajar ที่ EBITDA turnaround และธุรกิจ recycling) แต่ลดลง 5% QoQ เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้มกำไรหลัก 4Q25 คาดเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ (ตามฤดูกาล) โดยจากการเข้าซื้อสัดส่วนธุรกิจ PT Prokemas Adhikari Kreasi (MYPAK) เพิ่ม ในระยะยาวมี Upside กำไรราว 2% และราคาเป้าหมาย 0.60 บาท ซึ่งคาดดีลจะจบใน 4Q25 ทั้งนี้ ปัจจุบัน เรายังคงคำแนะนำนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 21 บาท

สรุปประเด็นจาก Quick take

AMC
เอเซีย เมทัล
แบงก์ชาติเตรียมประกาศเกณฑ์ JV AMC สัปดาห์นี้
ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมประกาศเกณฑ์จัดตั้ง JV AMC ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อช่วยบริหารหนี้เสียในระบบให้คล่องตัวขึ้น โดย BAM กำลังเจรจากับธนาคารพาณิชย์ 3 ราย ซึ่งหาก BAM มีการจัดตั้ง JV AMC ได้ในปี 2026 เราประเมินผลบวกต่อประมาณการกำไรปี 2026 ของ BAM ราว 1% ต่อการจัดตั้ง JV AMC 1 แห่ง (บนสมมติฐานบริหารหนี้เสียมูลค่า 1 หมื่นล้านบาทต่อ JV AMC)
View from fundamental: เรามองเป็น sentiment เชิงบวกต่อกลุ่มบริหารสินทรัพย์ เช่น BAM, JMT และ CHAYO เพราะจะมีโอกาสในการบริหารสินทรัพย์มากขึ้น ทั้งนี้ เราประเมินว่าผลบวกน่าจะไม่เร็ว เพราะการบริหารหนี้จะต้องใช้เวลาราว 6 เดือน ถึงจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ โดยประเมินว่า BAM, JMT และ CHAYO มีโอกาสได้รับผลบวกทางอ้อม จากการรับจ้างบริหารหนี้สียต่อจาก SAM และ ARI AMC ส่วนกลุ่มธนาคารและนอนแบงก์ จะได้ผลบวกทางอ้อม จากช่องทางในการระบายหนี้เสียมากขึ้น

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน