Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

SCGP เผยผลงานไตรมาส 3 เดินแผนขยายบรรจุภัณฑ์เพื่อผู้บริโภค เติบโตตลาดอาเซียน คงกลยุทธ์การเงิน-ซัพพลายเชนแกร่ง พร้อมรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

121

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(28 ตุลาคม 2568)----------SCGP แถลงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 ทำรายได้จากการขาย 30,438 ล้านบาท EBITDA 4,154 ล้านบาท และกำไรสำหรับงวด 953 ล้านบาท จากปริมาณการขายเพิ่มขึ้นและบรรจุภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคที่เติบโตในอาเซียนตามแผน วางกลยุทธ์บริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ บูรณาการห่วงโซ่อุปทานของโรงงานในภูมิภาค พร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ คาดไตรมาส 4 ได้รับผลบวกจากการเติมสต๊อกสินค้าช่วงปลายปี การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของรัฐบาล

นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 ตลาดบรรจุภัณฑ์อาเซียนขยายตัวต่อเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศและการส่งออก จากการเตรียมพร้อมสำหรับเทศกาลปลายปีเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนด้านราคายังคงมีความผันผวน โดยราคาขายเฉลี่ยของกระดาษบรรจุภัณฑ์และเยื่อกระดาษปรับลดลงตามแนวโน้มตลาดภูมิภาค

SCGP ได้เพิ่มศักยภาพการทำกำไรและความสามารถการแข่งขันด้วยกลยุทธ์การเติบโตภายในประเทศกลุ่มอาเซียน การวางโมเดลธุรกิจแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าและสภาพตลาดที่หลากหลาย ตลอดจนการขยายตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย ส่งผลให้ปริมาณการขายบรรจุภัณฑ์เพื่อผู้บริโภคในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจรและกลุ่มธุรกิจเยื่อและกระดาษเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาเฉลี่ยยังปรับลดลงตามแนวโน้มของตลาด

นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งจัดการต้นทุนและการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เช่น เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนเป็นร้อยละ 38.6 นำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning มาปรับใช้ อีกทั้งยังเน้นการบริหารต้นทุน และบูรณาการห่วงโซ่อุปทานของโรงงานต่าง ๆ ในภูมิภาคทั้งด้านการผลิตและการใช้วัตถุดิบอย่างยืดหยุ่น (Regional Optimization)

การปรับกลยุทธ์เชิงรุกท่ามกลางความท้าทาย ทำให้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568 SCGP มีรายได้จากการขายรวม 30,438 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลงร้อยละ 4 จากไตรมาสก่อน ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 4,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปีก่อน ลดลงร้อยละ 2 จากไตรมาสก่อน และมีกำไรสำหรับงวด 953 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับปีก่อนจากผลการดำเนินงานของธุรกิจบรรจุภัณฑ์กระดาษในอินโดนีเซียที่ดีขึ้น ขณะที่ลดลงร้อยละ 6 จากไตรมาสก่อนสอดคล้องกับรายได้ ส่วน EBITDA margin ปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารจัดการต้นทุนพลังงานและสาธารณูปโภคในกระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ

นายวิชาญ กล่าวว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในอาเซียนและการใช้จ่ายของผู้บริโภคในไตรมาสที่ 4 ปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตจากการเตรียมเพิ่มสต๊อกสินค้าช่วงปลายปี โดยเฉพาะอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อเตรียมรับการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลเฉลิมฉลอง และปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น มาตรการคนละครึ่ง มาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว ฯลฯ จะส่งผลดีต่อความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์เพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาขายบรรจุภัณฑ์กระดาษและบรรจุภัณฑ์พอลิเมอร์คาดว่าจะทรงตัว ส่วนราคาขายกระดาษบรรจุภัณฑ์และเยื่อเคมีละลายได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่มีแนวโน้มฟื้นตัว

SCGP ยังคงเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งในตลาดอาเซียน ล่าสุด ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นแบบมีเงื่อนไขเพื่อเข้าถือหุ้นสามัญในสัดส่วนร้อยละ 100 ใน PT Prokemas Adhikari Kreasi (MYPAK) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษคุณภาพชั้นนำในอินโดนีเซีย มีฐานการผลิตตั้งอยู่ที่เมือง Bekasi ทางตะวันตกของเกาะชวา ที่ใกล้กับฐานการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ของ PT Fajar Surya Wisesa Tbk. และมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทข้ามชาติและแบรนด์สินค้าชั้นนำในตลาดอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ มูลค่ากิจการไม่เกิน 455 พันล้านรูเปียห์ (ประมาณ 956 ล้านบาท) ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการตามกระบวนการเข้าซื้อกิจการ คาดปิดดีลภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568 นับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาส Cross-selling จากฐานลูกค้ากลุ่มสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งในและต่างประเทศ สามารถนำเทคโนโลยีของ MYPAK มาช่วยผลักดันการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงที่ตั้งเชิงกลยุทธ์จะช่วยสร้างประสานประโยชน์ (Synergy) กับเครือข่ายธุรกิจ และเสริมศักยภาพการบูรณาการห่วงโซ่อุปทานกับธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์ (Value Chain Integration) ของ SCGP ในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถการแข่งขัน และรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการบรรจุภัณฑ์ในอินโดนีเซีย

อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนตามเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 25 ภายในปี 2573 และมุ่งสู่ Net Zero ภายในปี 2593 ด้วยการพัฒนากระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ รีไซเคิล รวมถึงการขยายความร่วมมือกับลูกค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำจำนวน 6 ราย ในการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (CFP) โดย SCGP ที่แสดงข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันของทั้ง SCGP และลูกค้าในตลาด และสร้างการเติบโตบนแนวทางธุรกิจที่ยั่งยืนร่วมกัน

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไปต่อไม่ไหว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ พบแรงขายเข้ามาในหุ้นใหญ่หลายตัว หลายธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลง .....

สู่ความจริง By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง สรรพสิ่งในโลกของตลาดหุ้น ล้วนคืนสู่ความจริง กำไรแท้จริง คือ บรรทัดสุดท้าย เมื่อราคาหุ้น ...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้