Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

105

 

 

อยู่ในช่วง เปลี่ยนทองเป็นเงิน ไหลเข้าหุ้น

HORIZON MARKET VIEW
• ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับยังตัวขึ้นต่อราว 0.8%-1.8% จากหลายปัจจัยบวก เริ่มที่ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.68 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด และ สหรัฐฯ -จีน บรรลุฉันทามติ ทางการค้า โดยแบ่งเป็น 5 ข้อหลัก คือ การซื้อถั่วเหลือง เฟนทานิล การจำกัดแร่หา ยาก ภาษีเพิ่มเติม 100% และ TIKTOK ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยที่ผ่อนคลายต่อเศรษฐกิจ ทั้ง 2 ประเทศยักษ์ใหญ่(สหรัฐฯ-จีน) รวมถึงประเทศต่างๆ ด้วย โดยดูจากความกังวล การเกิด RECESSION ของทุกประเทศลดลงเมื่อเทียบกับจุดเริ่มต้น TARIFF 2.0
• จึงทำให้เห็นเม็ดเงินโยกย้ายออกจากสินทรัยพ์ปลอดภัยอย่าง ทองคำ(วานนี้ -3.18%) มาสู่ตลาดหุ้น และสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ(CRYPTO) ซึ่งน่าจะทำให้ FLOW ต่างชาติ ทยอยไหลเข้าบ้านเราต่อทั้งในมุมของตลาดหุ้นหรือตลาดตราสารหนี้ พร้อมค่าเงิน บาทมีโอกาสกลับไปแข็งค่าในโซน 32.3-32.5 บาท/เหรียญฯ

 

REGION RADAR
• จากสถิติในอดีตที่ผ่านมา พบว่าช่วงที่ FED เริ่มมีการปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยลง ผลตอบแทนตลาดหุ้นกลุ่ม EMERGING MARKET มัก ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่า DEVELOPED MARKET นอกจากนี้ เม็ดเงิน FUND FLOW ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้
• สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรม DATA CENTER ของจีนยังมีการ เติบโตต่อเนื่องในปี 2025 ทั้งในฝั่ง DEMAND และ SUPPLY จาก ความต้องการใช้ DATA CENTER ที่มากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่ม AI และ CLOUD แนะนำเก็งกำไร BABA80 และ TENCENT80

 

THAI FOCUS
• สรุปมติสำคัญ กพช. มี 3 ข้อ 1.โซลาร์ฟาร์มชุมชน 2. ระบบส่งไฟฟ้า EEC และ DATA CENTER อนุมัติ กฟผ. ใช้งบ 3,000 ล้านบาท 3. โครงการโซลาร์เดิม เห็นชอบลงนาม PPA อัตรา 2.1679 บาท/หน่วย
• ผลเชิงบวก : ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าทั้งในมุมของผู้ประกอบการที่ ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ SOLAR เช่น GUNKUL, SOLAR และผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าที่มีความพร้อมด้านในการเสนอ คัดเลือกรับซื้อไฟฟ้า อาทิGULF, BGRIM, GPSC, GUNKUL

 

SYNAPSE STRATEGY
• กำไรงวด 3Q68 ออกมาแล้ว 18 บริษัท มีสัญญาณดี คือ ดีกว่าตลาด คาดราว 15.3% (งวด 1Q, 2Q ที่ผ่านมาก็ดีกว่าคาด)
• ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงภายนอกลดลง หนุนสภาพคล่องในเดือนนี้ ไหลเข้า กลุ่มหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง เป็นหลัก อาทิ กลุ่ม ETRON +40%, ICT +5% และ BANK +4.7% โดยทั้ง 3 กลุ่มผลักดัน SET เดือนนี้ขึ้นไปถึง 81 จุด แม้ภาพรวม SET +57จุด ก็ตาม
• กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ชอบ หุ้นสภาพคล่องสูง GULF, TRUE หุ้นอิง จีน SCGP และหุ้นดักคนละครึ่งพร้อมหมดเจ CPAXT, CPF

 

HORIZON MARKET VIEW

TRADE TARIFF จีน-สหรัฐฯ ผ่อนคลายลง หนุนเม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง
วานนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับยังตัวขึ้นต่อราว 0.8%-1.8% จากหลายปัจจัยบวก เริ่มที่ตัวเลข CPI (ดัชนีราคา ผู้บริโภค) ของสหรัฐฯ เดือน ก.ย.68 ต่ำกว่าที่ตลาดคาด และ สหรัฐฯ -จีน บรรลุฉันทามติทางการค้า โดยแบ่งเป็น 5ข้อ หลักๆ ดังนี้

 

การซื้อถั่วเหลือง (SOYBEAN PURCHASE)
• สถานะปัจจุบัน : ปักกิ่งยังไม่ได้ทำการซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เลยในฤดูกาลส่งออกปัจจุบัน
• แนวโน้ม :รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าจีนจะมีการสั่งซื้อถั่วเหลืองใน "จำนวนมาก"

 

เฟนทานิล (FENTANYL)
• สถานะปัจจุบัน : สหรัฐฯ ได้เก็บภาษี 20% เป็นการลงโทษจีน เนื่องจากล้มเหลวในการควบคุมการ ส่งออกสารตั้งต้นเฟนทานิล
• แนวโน้ม : มีรายงานว่าทั้งสองฝ่ายบรรลุฉันทามติในประเด็นนี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การยกเลิกหรือลดภาษี 20% ของสหรัฐฯ

 

การจำกัดแร่หายาก (RARE EARTHS CURBS)
• สถานะปัจจุบัน :จีนประกาศมาตรการควบคุมใหม่ ที่กำหนดให้บริษัทต่างชาติต้องขออนุมัติสำหรับการ ขนส่งแร่หายากบางชนิด
• แนวโน้ม : สหรัฐฯ คาดว่าจีนจะชะลอการบังคับใช้ระบบใบอนุญาตที่ขยายผลนี้ออกไปเป็นเวลา1 ปี

 

ภาษีเพิ่มเติม 100% (ADDITIONAL TARIFFS)
• สถานะปัจจุบัน :TRUMP เคยขู่ว่าจะเก็บภาษี 100% กับสินค้าจีน เพื่อตอบโต้มาตรการจำกัดแร่หายาก ใหม่
• แนวโน้ม :รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่าภัยคุกคามภาษี 100% นี้ "เป็นอันตกไปแล้ว"

 

TIKTOK (ติ๊กต็อก)
• สถานะปัจจุบัน : สหรัฐฯ และจีนกำลังสรุปข้อตกลงเพื่อแยกกิจการ TIKTOK ในสหรัฐฯ ออกจากบริษัท แม่ (BYTEDANCE)
• แนวโน้ม :TRUMP จะนำประเด็นนี้ไปหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการประชุมผู้นำที่กำลังจะมีขึ้น

 

อีกทั้งกระแสความกังวล TRADE TARIFF ลดลง วัดจากการค้นหาใน BLOOMBERG จากช่วงเริ่มต้นที่ TRUMP ประกาศเก็บภาษีรอบ 2 ณ 7 ส.ค.68 อยู่ที่ 24800 คำค้นหา มาสู่ระดับ 3619 คำค้นหาซึ่งต้องติดตามการเจรจา ของ 2 ผู้นำในวันพฤหัสบดีนี้ว่าจะมีผลลัพธ์เหมือนแนวทางตามที่ รมต.คลังของทั้ง 2 ประเทศคุยกันหรือไม่

 

โดยรวมถือว่าเป็นปัจจัยที่ผ่อนคลายต่อเศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศยักษ์ใหญ่(สหรัฐฯ-จีน) รวมถึงประเทศต่างๆด้วย โดยดูจากความกังวลการเกิด RECESSION ของทุกประเทศลดลงเมื่อเทียบกับจุดเริ่มต้น TARIFF 2.0 อาทิ สหรัฐฯจาก 35% มาสู่ 30% ยุโรปจาก 30% มาสู่ 25% ญี่ปุ่นจาก 35% มาสู่ 30% และไทยจาก 30% มาสู่ 25% จึงทำให้เห็นเม็ดเงินโยกย้ายออกจากสินทรัยพ์ปลอดภัยอย่างทองคำ(วานนี้ -3.18%) มาสู่ตลาดหุ้น และ สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ(CRYPTO) ซึ่งน่าจะทำให้ FLOW ต่างชาติทยอยไหลเข้าบ้านเราต่อไม่ว่าจะในมุมของตลาด หุ้นหรือตลาดตราสารหนี้และน่าจะทำให้ค่าเงินบาทมีโอกาสกลับไปแข็งค่าในโซน 32.3-32.5 บาท/เหรียญฯ

 

REGION RADAR

LIQUIDITY DRIVEN RALLY หุ้น EMERGING มักขึ้นได้ดี
จากสถิติในอดีตที่ผ่านมา พบว่าช่วงที่ FED เริ่มมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ผลตอบแทนตลาดหุ้นในฝั่ง EMERGING MARKET มักปรับตัวขึ้นได้ดีและให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นในฝั่ง DEVELOPED MARKET

 

ด้านเม็ดเงิน FUND FLOW ในช่วง 2 เดือนนี้ได้ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียอย่างต่อเนื่อง โดยเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาเม็ด เงินไหลเข้าเอเชียสูงถึง 3 หมื่นล้านเหรียญเดือน ต.ค. (MTD) 1.7 หมื่นล้านเหรียญโดยเม็ดเงินที่เข้าเอเชียนั้น ส่วน ใหญ่กระจุกตัวอยู่ในตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกงเป็นหลัก

 

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรม DATA CENTER ของจีนยังมีการเติบโตต่อเนื่องในปี 2025 โดยตลาดคาดว่า SUPPLY ของ DATA CENTER ในปี 2025 จะอยู่ที่ระดับ 30 GW (จากปีที่ผ่านมา 23 GW) ขณะที่ DEMAND มี การเติบโตสู่ระดับ 18 GW (จากปีที่ผ่านมา 14 GW) สะท้อนถึงความต้องการใช้ DATA CENTER ที่มากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม AI และ CLOUD

 

จากทั้งปัจจัยด้าน LIQUIDITY DRIVEN การไหลเข้าของ FUND FLOW สู่ตลาดหุ้นเอเชีย และการเติบโตของ อุตสาหกรรม DATA CENTER ของจีนที่เแข็งแกร่ง แนะนำเก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม CLOUD ได้แก่ BABA80 และ TENCENT80 ซึ่งเป็น 2 บริษัท TECH ในจีนที่ใหญ่ที่สุด รองรับสภาพคล่องส่วนเกินได้ดี

 

THAI FOCUS

ปัจจัยในประเทศมีอะไรที่ควรทราบบ้าง
คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติสำคัญเกี่ยวกับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์และระบบ ไฟฟ้า ดังนี้:

 

1. โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน : กพช. เห็นชอบกรอบหลักการเบื้องต้นของโครงการ โดยกำหนดให้เป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินขนาดแห่งละไม่เกิน 10 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิตไม่ เกิน 1,500 เมกะวัตต์ทั่วประเทศ อัตรารับซื้อไฟฟ้า (FIT) ไม่เกิน 2.25 บาทต่อหน่วย สัญญา 25 ปี โดย คาดจะเป็นส่วนช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าในชุมชนลงราว 40–80 สตางค์ต่อหน่วยตลอดอายุโครงการ ทั้งนี้ จะมีการเปิดช่องให้เอกชน ร่วมกับชุมชนเสนอขายไฟฟ้า โดยภาครัฐจะพิจารณาจากความพร้อมด้าน คุณสมบัติ และเทคนิค ซึ่ง กพช.ได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำหลักเกณฑ์และเงื่อนไข การเข้าร่วมให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายนนี้

 

2. การเห็นชอบแผนปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้าเพื่อรองรับ DATA CENTER และพื้นที่ EEC : โดยอนุมัติให้การ ไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ใช้งบประมาณเบื้องต้น 3,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบส่งไฟ ในภาคตะวันออก รองรับความต้องการใช้ไฟฟ้ารวมกว่า 1,750 เมกะวัตต์จากผู้ประกอบการ DATA CENTER พร้อมมอบหมายให้จัดทำแผนลงทุนเพิ่มเติมระยะยาว วงเงินรวมราว 30,500 ล้านบาท เพื่อ เพิ่มศักยภาพและความมั่นคงของระบบไฟฟ้า

 

3. โครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โครงการเดิม) : เห็นชอบแนวทางการลงนาม สัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โดยกำหนดอัตรารับซื้อไฟฟ้าไว้ที่ 2.1679 บาทต่อหน่วย ซึ่งเป็นขั้นตอน สำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกแล้วสามารถเดินหน้าโครงการและเริ่มจ่ายไฟเข้า ระบบได้เร็วขึ้น

 

ประเด็นดังกล่าว ถือเป็นมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมกลุ่มโรงไฟฟ้าทั้งกลุ่ม ซึ่งมติ กพช. ครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณ ต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าภาคเอกชน ทั้งในแง่โอกาสลงทุนใหม่ๆ จากโครงการ SOLAR ชุมชน และการขยาย ความต้องการในระบบไฟฟ้า ขณะที่การลงทุนระบบสายส่งไฟฟ้าในภาคตะวันออก คาดจะเป็นส่วนช่วยในการวาง โครงสร้างเพื่อรองรับอุตสาหกรรม DATA CENTER ซึ่งมีการใช้ไฟฟ้าในปริมาณสูง ส่งผลให้ความต้องการ ไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในอีก 2–3 ปีข้างหน้า นอกจากนี้การเร่งเซ็น PPA ของโครงการโซลาร์เดิม ที่เคย ชะลอไว้ในล่วงก่อนหน้า ถือเป็นเป็นมุมมองเชิงบวกที่ช่วยให้โครงการเดิมที่ค้างอยู่มีความคืบหน้ามากขึ้น และเพิ่ม ความชัดเจนในการรับรู้รายได้ของกลุ่มโรงไฟฟ้าในอนาคต จึงคาดจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าทั้ง ในมุมของผู้ประกอบการที่ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ SOLAR เช่น GUNKUL, SOLAR เป็นต้น และ ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้า อาทิ GULF, BGRIM, GPSC, GUNKUL ที่มีความพร้อมด้านในการเสนอคัดเลือกรับ ซื้อไฟฟ้า หรือมีการต่อยอดลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ DATA CENTER

 

SYNAPSE STRATEGY

เริ่มต้นงบ 3Q68 โอเค ปัจจัยเสี่ยงลด สภาพคล่องล้น เหมาะหากหุ้นเก็งกำไร
กำไรงวด 3Q68 ออกมาแล้ว 18 บริษัท มีสัญญาณดี คือ ดีกว่าตลาดคาดราว 15.3% ซึ่งมีโอกาสดีกว่าคาด 3 ไตรมาสติด (งวด 1Q, 2Q ที่ผ่านมาก็ดีกว่าคาด) โดยเริ่มเป็นทิศทางตามสากลมากขึ้น เพราะปกติผล ประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทยมักจะออกมาต่ำกว่าตลาดคาด

 

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงภายนอกลดลง หนุนสภาพคล่องในเดือนนี้ ไหลเข้ากลุ่มหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง เป็นหลัก อาทิ กลุ่ม ETRON +40%, ICT +5% และ BANK +4.7% โดยทั้ง 3 กลุ่มผลักดัน SET เดือนนี้ขึ้นไปถึง 81 จุด แม้ ภาพรวม SET +57 จุด ก็ตาม

 

กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ชอบ หุ้นสภาพคล่องสูง GULF, TRUE หุ้นอิงจีน SCGP, IVL และหุ้นดักมาตรการคนละ ครึ่งพร้อมหมดเทศกาลกินเจ CPAXT, CPF




จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ไปต่อไม่ไหว By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ พบแรงขายเข้ามาในหุ้นใหญ่หลายตัว หลายธุรกิจ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลง .....

สู่ความจริง By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง สรรพสิ่งในโลกของตลาดหุ้น ล้วนคืนสู่ความจริง กำไรแท้จริง คือ บรรทัดสุดท้าย เมื่อราคาหุ้น ...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้