สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 28 ตุลาคม 2568)---- บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) GLOBAL เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ(เฉพาะกิจการ) เท่ากับ 367.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ช่วงเวลาเดียวกันของปี2567 จำนวน 79.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.40% เมื่อรวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าผ่านบริษัท โกลบอลเฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และการลงทุนในบริษัทย่อย บริษัทฯมีผลกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมเท่ากับ 388.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 27.74 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.69%
โดยมีปัจจัยหลัก ดังนี้
1) รายได้จากการขายประจำไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 7,416.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 234.28 ล้านบาท หรือ 3.26% และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 23,972.66 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลา เดียวกันของปี 2567 จำนวน 691.97 ล้านบาท หรือ 2.81% เป็นผลมาจากยอดขายของสาขาเดิมที่ปรับตัวลดลงตามภาวะ เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
2) รายได้อื่นประจำไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 181.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 43.59 ล้านบาท หรือ 31.64% และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 598.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกัน ของปี 2567 จำนวน 41.17 ล้านบาท หรือ 7.39% เนื่องจากรายได้ค่าบริการที่ได้รับจากลูกค้าและรายได้ส่งเสริมการขายที่ได้รับ จากคู่ค้าเพิ่มขึ้น
3) กำไรขั้นต้นประจำไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 1,964.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 106.35 ล้าน บาท หรือ 5.72% และคิดเป็นอัตรา 26.49% ของรายได้จากการขาย มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น 0.61% เนื่องจากการปรับนโยบายบริหาร จัดการสินค้าHouse Brand และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 6,150.28 ล้านบาท ลดลงจากงวด เดียวกันของปี 2567 จำนวน 218.26 ล้านบาท หรือ 3.43% คิดเป็นอัตรา 25.66% ของรายได้จากการขาย มีสัดส่วนลดลง 0.16%
4) ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายการบริหาร(ไม่รวมค่าเสื่อมราคา กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เกิดขึ้นจริง และ กำไร (ขาดทุน)จากเงินลงทุนชั่วคราวที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง) ประจำไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 1,284.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลา เดียวกันของปี 2567 จำนวน 64.92 ล้านบาท หรือ 5.32% โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็น 17.32% ของยอดขาย และคิดเป็นต้นทุน ในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเฉลี่ยต่อสาขา เท่ากับ 13.81 ล้านบาท ลดลง 1.50% จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ ผ่านมา และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 3,747.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2567 จำนวน 181.44 ล้านบาท หรือ 5.09% โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวคิดเป็น 15.63% ของยอดขาย และคิดเป็นต้นทุนในการจัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายในการบริหารเฉลี่ยต่อสาขา เท่ากับ 40.30 ล้านบาท ลดลง 1.68% จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผล มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินเดือนพนักงาน และค่าใช้จ่ายของสาขาที่เปิดใหม่ 6 สาขา
5) ต้นทุนทางการเงินประจำไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 59.37 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลาเดียวกันของปี2567 จำนวน 23.17 ล้านบาท หรือ 28.07% และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุด วันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 183.05 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกัน ของปี 2567 จำนวน 55.97 ล้านบาท หรือ 23.42% เนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของสถาบันการเงิน และการจ่ายชำระ คืนเงินกู้ระยะยาวที่ครบกำหนด
6) ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ประจำไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 87.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 17.25 ล้านบาท หรือ 24.43% และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 347.84 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกัน ของปี2567 จำนวน 80.36 ล้านบาท หรือ 18.77% เป็นผลจากกำไรก่อนหักภาษีลดลง
7) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา(EBITDA) ประจำไตรมาส 3/2568 เท่ากับ 885.19 ล้านบาท ลดลงจากระยะเวลา เดียวกันของปี 2567 จำนวน 24.11 ล้านบาท หรือ 2.65% และสำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 เท่ากับ 3,101.18 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปี 2567 จำนวน 443.18 ล้านบาท หรือ 12.50%
ในขณะที่ผลประกอบการสะสมสำหรับงวดเก้าเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2568 บริษัทฯมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม เท่ากับ 1,524.96 ล้านบาท ลดลงจากช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 323.56 ล้านบาท หรือลดลง 17.50% จากยอดขายที่ ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงผันผวน ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงและระมัดระวัง การใช้จ่ายมากขึ้น
ทั้งนี้ ณ 30 กันยายน 2568 บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) มีสาขาที่เปิดให้บริการในประเทศรวม 93 สาขา เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 6 สาขา และมีสาขาของบริษัทย่อยในประเทศกัมพูชาอีก 2 สาขา