คาด SET Index แกว่งตัว Sideways to sidewaysup: แรงหนุนจากมาตรการภาครัฐ รวมถึง Sentimentหนุนจากความคลายกังวลสถานการณ์ชัตดาวน์ของสหรัฐฯและสงครามการค้า หากแต่มองทางขึ้นจำกัดอยู่บ้าง ท่ามกลางความไม่มั่นใจของนักลงทุนบางส่วนและความน่าดึงดูดใจของราคาทองคำ

แนวรับ-ต้าน
1,280 –1,295

กลยุทธ์การลงทุน
1) หวังมาตรการภาครัฐ: AOT, BJC, CPALL,CPAXT, CENTEL, ERW, ICHI, OR, PTG, TNP
2) China play: HANA, IVL, PTTCG, SCC, SCGP3) เก็งงบ 3Q68: ADVANC, BH, KBANK, KCE,
MAJOR, MTC, PR9, PRM, PSL, TIDLOR,SCB, TRUE, TTW
4) Anti-comm.: AAV, BA, BGRIM, GPSC, GULF,TASCO, TOA

หวังรัฐขับเคลื่อน + คลายกังวลภายนอก

หวังมาตรการรัฐขับเคลื่อนเศรษฐกิจ:คาดแรงหนุนมาตรการภาครัฐสอดรับกับการตอบรับของประชาชนต่อโครงการคนละคร่งึพลัสซ่งึเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวานนี้จำนวน 20 ล้านสิทธิ์และมีผู้ลงทะเบยีนครบตามวงเงินสิทธิภายในวันแรก โดยโครงการข้างต้นจะเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.-31 ธ.ค.68 ส่วนเฟส 2 โฆษกประจำสำนักนายกฯเผยว่ารองนายกฯและรมว.คลังได้ยืนยันแล้วว่า จะมีอย่างแน่นอนซึ่งคาดว่าจะเรมิ่ ได้ในเดือนม.ค.69 นอกจากนี้ ติดตามการประชุมครม.ในวันนี้ซึ่งจะมีการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมตามที่ได้เข้าสู่ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นมาตรการด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ 1) มาตรการลดหย่อนภาษีค่าที่พักสูงสุด 2 หมื่นบาทสำหรับบุคคลธรรมดา 2)มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายด้านการฝึกอบรมของหน่วยงานรัฐ 3) การขยายระยะเวลาปรับลดอัตราภาษีสถานบันเทิงและ 4) มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก

คลายกังวลชัตดาวน์สหรัฐฯและสงครามการค้า: คาด Sentimentภายนอกเป็นอีกแรงหนุน ท่ามกลางความคลายกังวลต่อสถานการณ์ชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังคุณแฮสเซ็ตต์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวเผยว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลมีแนวโน้มสิ้นสุดลงในสัปดาห์นี้แต่หากยังไม่เกิดข้ึนรฐั บาลของปธน.ทรัมป์อาจใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น เพื่อบังคับให้พรรคเดโมแครตให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ยังมีความหวังว่าสงครามการค้าจะคลี่คลายลงยังนับเป็นอีก Sentimentเชิงบวก โดยในสัปดาห์นี้ติดตามการพบกันของรมว.คลังสหรัฐฯและรองนายกฯจีน ก่อนที่ปธน.ของสหรัฐฯกับจีนจะพบกันช่วงปลายเดือนนี้

SET Index ข้ึนแบบ Volume หาย + ทองแย่งความน่าสนใจ:มองทางขึ้นจา กัดอยู่บ้าง เนื่องจากวานนี้แม้SET Index จะปรบั ตัวข้ึน0.77%แต่มี Volumeเพียง 2.66 หมื่นล้านบาท นับว่าลดลงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับ 3.68 หมื่นล้านบาท ในวันศุกร์ และถือว่าต่าสุดในรอบประมาณ 4 เดือน ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนบางส่วน ประกอบกับมองสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึง SET Index มีแนวโน้มถูกบดบังจากความน่าดึงดูดใจของสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำสอดรับกับราคาทองคำ COMEX ที่ปรับตัวข้ึน 3.47% ปิดที่$4,359.4 ต่อออนซ์ณ วานนี้ซ่งึนับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ปัจจัยเพิ่มเติม
(+)เมื่อวานนี้รมว.พลังงานเผยว่าได้สั่งการให้มีการประชุมกบน.เพื่อปรับลดราคาน้ามันดีเซลลง 50 สตางค์/ลิตร และน้ามันเบนซินลง 30 สตางค์/ลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค.68 หรือวันนี้ทันทีเพื่อดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชน
(+)Grabจัดแคมเปญ GrabFood Xคนละคร่งึพลัสโดยหัน่ ค่าคอมมิชชันเหลือ7%สำหรับร้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯในวันที่ 3 พ.ย.68 พร้อมอัดแคมเปญ“แกร็บช่วยลด” โดย Grabร่วมสมทบแจกโค้ดส่วนลดให้ร้านค้าสูงสุด 1 หมื่นบาท
(-) คุณฮาจิเมะ ทาคาตะ กรรมการ BoJ เผยถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมองข้ามความไม่แน่นอนทางการเมือง และย้ำจุดยืนหลังจากที่เขาเคยลงมติไม่เห็นด้วยกับการคงนโยบายการเงินในการประชุมเดือนก่อน

ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน
ธรีดา ชาญยิ่งยงค์- นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ และทางเทคนิค #9501
ชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน และทางเทคนิค #37928
ภัทรดนัย จตุรพร – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #094041
พศุตม์ โงวิวัฒน์ชัย, CISA – นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน #127632
ฐนพงษ์ แซ่โล้ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
ชนพัฒน์ สุวิยานนท์ – ผู้ช่วยนักวิเคราะห์