Equality for All
PTTGC : บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล

คาด 3Q25 ยังขาดทุน 3 พันลบ. ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่หดตัว : หลัก ๆ ยังได้รับผลจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่อ่อนแอตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง แม้โรงกลั่น GRM จะดีขึ้นแต่ก็ไม่สามารถชดเชยได้

โรงกลั่น : การใช้กำลังการผลิตคาดเพิ่มเป็น 104% จาก 103% ไตรมาสก่อน และจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ดีขึ้นโดยดีเซล +2.89 Jet +1.75 เหรียญ แต่ LSFO -4.4 เหรียญ/บาร์เรล แม้ Crude premium จะเพิ่มขึ้นแต่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นทำให้ GRM เพิ่มเป็น 5.5 เหรียญ/ บาร์เรล จาก 5.3 เหรียญ/ บาร์เรลไตรมาสก่อน
อะโรเมติกส์ : คาดการใช้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 80% จาก 77% ไตรมาสก่อน ส่วนต่างราคา BZ ลดลง -35 เหรียญ ส่วน PX +12 เหรียญ แต่ได้ส่วนช่วยจากราคา By product ที่ดีขึ้นทำให้การดำเนินงานทรงตัว q-q

โอเลฟินส์ : คาดการใช้กำลังการผลิต PE เพิ่มเป็น 85% จาก 80% จากไตรมาสก่อน แต่ในส่วน Polymer คาดการใช้กำลังการผลิตลดลงจาก 109% เป็น 104% ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ HDPE-นาฟทา หดตัว -31 เหรียญ/ตัน จากการเพิ่มการผลิตในเอเชียมากขึ้น อีกทั้งการใช้อีเทนลดลง -2% q-q จากการปิดซ่อมของโรงแยกแก๊ส แม้ไตรมาสนี้ราคา LPG จะลดลงราว 80 เหรียญก็ตาม แต่ราคาขายที่ลดลงและส่วนต่างราคาที่ลดลงทำให้การดำเนินงานหดตัว

Performance : คาดการดำเนินงานหดตัว q-q จากปริมาณขาย Allnex ที่ลดลงจากผ่านช่วงฤดูกาลขายในครึ่งปีแรกแล้ว

คาดไตรมาสนี้รายการพิเศษจะไม่มีนัยมากนักโดยมีขาดทุนสต็อกราว -1 เหรียญ/บาร์เรล แม้จะมีโอนกลับ NRV เข้ามาทำให้สุทธิคาดมีขาดทุนราว -100 ลบ. ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนคาดจะมีกำไรไม่มากเช่นกัน อย่างไรก็ตามจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่อ่อนแอ คาดจะยังมีขาดทุนราว 3,161 ลบ. จาก -3,616 ลบ. ไตรมาสก่อน

แนวโน้ม 4Q25 ยังอ่อนแอจากการปิดซ่อม : เราคาดว่าการดำเนินงาน 4Q25 ยังอ่อนแอจากการปิดซ่อมโรงกลั่นและโรงอะโรเมติกส์ราว 50 วัน และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ยังไม่ฟื้นตัว ขณะที่ Allnex การดำเนินงานยังอ่อนแอตามปัจจัยฤดูกาลส่งผลให้ปริมาณขายหดตัวต่อ

การทำ Asset monetization มีความคืบหน้า : ช่วงก่อนหน้า PTTGC มีแจ้งการทำ Asset monetization (การแปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดรายได้) ประกอบด้วย
การขายหุ้นบริษัท TTT ให้กับ PTT tank จำนวน 35.43% ในมูลค่า 4,403 ลบ. และยังคงเหลือถืออยู่ 1% ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรจากการขายหลังภาษีราว 1,103 ลบ. ซึ่งในส่วนนี้ PTTGC อาจได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติมจากการต่อสัญญาถังบรรจุอีเทนที่ระหว่างปี 2044-52 เป็นจำนวนไม่เกิน 604 ลบ.

ขายสินทรัพย์ที่มีอยู่ประกอบด้วยท่าเทียบเรือ และคลังเก็บผลิตภัณฑ์ให้กับ PTT tank ในมูลค่า 4,840 ลบ. และคาดจะมีกำไรจากการขายหลังภาษี 1,217 ลบ. ซึ่งในส่วนนี้จะมีการเช่าสินทรัพย์กลับมาเพื่อใช้ดำเนินงาน

ซึ่งคาดว่าดีลดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ โดยในส่วน asset monetization นั้นมูลค่ารวมอยู่ที่ราว 30,000 ลบ. ซึ่งคาดว่ายังมีการทำธุรกรรมดังกล่าวอีกในช่วงที่เหลือของปี และคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะสิ้นสุดทั้งหมดปีหน้า

เล่นเกาะข่าวไปพลางๆ
“ แนวโน้ม 3Q25 คาดยังติดลบต่อจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ยังอ่อนแอ แม้ว่ากลุ่มโรงกลั่นจะฟื้น แต่ไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมดและคาดแนวโน้ม 4Q25 ยังอ่อนแอต่อ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าตลาดอาจให้ความสำคัญต่อการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มว่าจะช่วยให้การดำเนินงานดีขึ้นต่อจากนี้ รวมถึงนโยบาย Anti-Involution ของจีนซึ่งจะส่งผลให้อุปทานลดลงและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
กลยุทธ์การลงทุนในกลุ่มนี้ยังเน้นเกาะไปกับการฟื้นตัวของราคาผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะล้อไปกับเศรษฐกิจจีน ขณะที่ Valuation ซื้อขายบน P/B25E เพียง 0.4x ทำให้มองว่า downside จำกัด สามารถเก็งกำไรเกาะไปกับข่าวได้ ”

นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th