Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

TEGH จับมือ “กยท.” ลงนาม MOU บริหารจัดการผลผลิตยางพาราพร้อมดันไทยสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางในภูมิภาค

355



สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 16 ตุลาคม 2568)--------บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ผนึกกำลังกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันบริหารจัดการผลผลิตยางพาราให้มีความสมดุล สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่เสถียรภาพด้านราคายางได้ในระยะยาว และเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางและผลิตภัณฑ์ยางพาราในภูมิภาค เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ขณะที่ตั้งเป้าผลิตภายใต้ความร่วมมือไม่น้อยกว่า 5,000 ตันต่อเดือน ตลอดระยะสัญญา 5 ปีเต็ม ฟากผู้บริหาร"เกริกกุล โภกนุทาภรณ์ "ระบุความร่วมมือในคร้ังนี้ เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงให้เกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมทั้งสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทยให้แข่งขันได้ในระดับโลกอย่างยั่งยืน

นายเกริกกุล โภกนุทาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ-สายธุรกิจยางพาราและปาล์มน้ำมัน บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (TEGH) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อร่วมมือด้านการบริหารจัดการผลผลิตยางพาราให้มีความสมดุลอย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยมี นายเพิก เลิศวังพง รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม ณ สำนักงานใหญ่ การยางแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร

"ความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายสำคัญเพื่อ สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่มั่นคงให้เกษตรกรชาวสวนยาง พร้อมทั้ง สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทยให้แข่งขันได้ในระดับโลกอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดการผลผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดจริง ลดความผันผวนด้านราคา มีการตรวจสอบแหล่งผลิตและประเมินความเสี่ยงตามมาตรการ EUDR หรือมาตรฐานอื่นๆ และสร้างเครือข่ายระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น"

สำหรับสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจ (MOU) ดังกล่าว จะมุ่งเน้นการ รวบรวมผลผลิตยางพาราอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง รวมกลุ่มกันเพื่อให้มีกลไกกลางในการบริหารจัดการผลผลิตยางพาราให้มีความสมดุล สอดคล้องกับความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่เสถียรภาพด้านราคายางได้ในระยะยาว รวมถึงมีแหล่งรับซื้อในราคาที่เป็นธรรม โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้

บทบาทของ TEGH ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ได้แก่ ดำเนินการผลิตยางพาราให้ได้ตามมาตรฐานตามที่ กยท. รวบรวมมา เพื่อรองรับการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศสนับสนุนให้เกษตรกรมีช่องทางจำหน่ายผลผลิตที่เป็นธรรมและยั่งยืน ดำเนินงานภายใต้หลักธรรมาภิบาลและกฎระเบียบของการยางแห่งประเทศไทย

ขณะที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จะรับหน้าที่รวบรวมผลผลิตยางพาราไม่น้อยกว่า 5,000 ตันต่อเดือน จากตลาดกลางยางพาราจังหวัดและตลาดเครือข่ายทั่วประเทศ พร้อมดำเนินการตรวจสอบแหล่งผลิต ประเมินความเสี่ยงตามมาตรการ EUDR (EU Deforestation Regulation) รวมถึงออกเอกสารข้อมูลการซื้อขายยางให้แก่ผู้ซื้ออย่างครบถ้วน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในระบบการค้า


ความร่วมมือครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่ลงนาม และอาจมีการขยายระยะเวลาเพิ่มเติมในอนาคต โดยทั้งสองฝ่ายมีเจตนาร่วมกันในการ พัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจไทยโดยรวม

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

NER รับรางวัล CAC Change Agent Award 2025

NER รับรางวัล CAC Change Agent Award 2025

NTF เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

NTF เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ วันแรก

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้