Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

101

 

 

AT THE OPEN (#ATO)

SET Index แกว่งสร้างฐาน 1275-1295
กลยุทธ์หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว


Market Strategy
SET Index คาดแกว่งออกข้าง 1275-1295 จุด ผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีนยังจำกัด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีท่าทีประนีประนอมและยังเปิดช่องเจรจา ด้านในประเทศลุ้นมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวเมืองรองและการรายงานงบ 3Q68 ของ TISCO หุ้นวันนี้เลือก ERW ส่วนหุ้นประจำสัปดาห์ชอบ TRUE

ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ –จีน อยู่ในจุดที่กลับมาให้ความสำคัญ หลังจากวันที่ 10 ต.ค. คุณทรัมป์ประกาศเตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 100% มีผลวันที่ 1 พ.ย. และออกมาตรการควบคุมการส่งออกเพิ่มเติม เพื่อตอบโต้ที่จีนเข้มงวดกฎควบคุมการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและกลาโหมของสหรัฐฯ ด้านจีนชี้แจงว่ามาตรการดังกล่าวเป็นเพียงระบบใบอนุญาตปกติ ไม่ใช่การห้ามส่งออก ก่อนที่ล่าสุดจะมีท่าทีเบาลง และตามมาด้วยความเห็น รมว.คลังสหรัฐฯ ออกมาเผยว่าการประชุมระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ –จีน จะยังมีขึ้นในช่วง ปลายเดือน ต.ค. นี้

ประเมินท่าทีทั้งสองฝ่ายยังไม่ต้องการให้ความขัดแย้งบานปลายและเปิดช่องการเจรจาระหว่างกัน เพื่อปูทางให้ 2 ผู้นำยังประชุมได้ในช่วงปลายเดือนนี้ ทำให้การขึ้นภาษี 100% ที่คุณทรัมป์ขู่ยังไม่น่าจะเกิดขึ้น ด้านผลต่อตลาดหุ้นดัชนี S&P500 วานนี้ดีดกลับ 1.6% จากวันศุกร์ที่ปรับลง -2.7% ตลาดหุ้นภูมิภาคปรับลงเป็นส่วนใหญ่ แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าตลาดหุ้นที่มีน้ำหนักกลุ่มเทคฯ สูงเช่น ไต้หวัน-1.4% เกาหลีใต้ -0.7% ปรับลงแรงกกว่าตลาดหุ้นกลุ่ม ASEAN ที่ปรับลงในช่วง -0.4% ถึง +1% จึงประเมินผลกระทบต่อหุ้นไทยในภาพรวมยังจำกัด แต่ยังคงต้องติดพัฒนาการต่อไป ในเชิงกลยุทธ์ เรามองเป็นบวกหุ้น China+1 อย่าง WHA AMATA สวนทางกลุ่มอิเล็คฯที่ความผันผวนในระยะสั้นยังสูงขึ้น โดยเรายังคงแนะนำ Underweight

ปัจจัยในประเทศวันนี้การประชุม ครม. ลุ้นคลังเสนอมาตรการกระตุ้นภาคท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งเป็น Sentiment บวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวโรงแรม ซึ่ง ERW คาดจะได้ประโยชน์ เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ท่องเที่ยวเมืองรองคิดเป็นสัดส่วน 5% นอกจากนี้ติดตามการรายงานงบ 3Q68 ของ TISCO ซึ่งเราคาดกำไร 1.67 พันล้านบาท ขยายตัว 2%QoQ แต่หดตัว -2%YoY


Market Summary
SET Index ปรับลง 27 จุด หรือ 2% แรงกดดันหลักมาจากกลุ่มอิเล็คฯ จาก DELTA -9% จากติด Trading Alert กดดันดัชนีไป 18 จุด กลุ่มพลังงาน -1% จาก PTTEP -1% TOP -3% กดดันจากราคาน้ำมันดิบจากตกลงสัญญาหยุดยิงระหว่างอิสราเอล-ฮามาส กลุ่มขนส่ง -3.7% จาก THAI -5.2% จากความกังวลต่อการปรับบอร์ดบริหาร AOT -4.7% หลังเก็งข่าวขึ้นค่า PSC ไปมาก ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นสวนตลาด กลุ่ม Defensive อย่าง BH +1.5% TRUE +0.9% กลุ่ม High Dividend Yield อย่าง TISCO +0.5% และ KKP +0.4% นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 1.7 พันล้านบาท

 


DAILY Stock Pick
ERW
ลุ้นมาตรการเที่ยวเมืองรอง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.00 บาท
ประชุม ครม. วันนี้ คาดกระทรวงคลังเสนอมาตรการเที่ยวเมืองรอง พร้อมกับมาตรการภาษี สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่มีการปรับปรุงโรงแรมที่พัก ซึ่ง ERW มีสัดส่วนรายได้จากเมืองรองที่ 5% สูงที่สุดในกลุ่ม
ERW YTD -31% เทียบ SET Index YTD -8% ยังคง laggard ในขณะที่ ณ ปัจจุบัน ERW ถูกซื้อขาย PE ปี 68 ที่ 15 เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่มโรงแรมที่เรา cover (ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 22.6เท่า)

 

WEEKLY Stock Pick
TRUE
กำไรฟื้น 3Q68 ส่วนปี 69 โตต่อ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 14.40 บาท
เราคาดกำไร 3Q68 ที่ 4.8 พันลบ. (+67%YoY, +15%QoQ) ฟื้นตัวจากรายจ่าย OPEX ที่ลดลงผ่านการลดจำนวนเสา และ Cost Saving ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. ที่ผ่านมา
เราชอบ TRUE เนื่องจาก PE’69 อยู่ที่ 17.4 เท่า เทียบกับ ADVANC ที่ 18.8 เท่า ในขณะที่กำไรปี 69 TRUE เติบโต 18%YoY เทียบกับ ADVANC ที่เติบโตเพียง 8%YoY ในขณะที่ TRUE มี upside เพิ่มเติมจาก Cost saving

 

KEY FACTOR
ปธน. ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มอีก 100% มีผลวันที่ 1 พ.ย. พร้อมกับมาตรการ ควบคุมการส่งออกซอฟต์แวร์เชิงยุทธศาสตร์ทุกประเภท เพื่อกดดันจีนที่ขู่ว่าจะจำกัดการส่งออกแร่หายาก (rare earths) ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง มาตรการดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงแรงที่สุดในรอบ 6 เดือน (S&P 500 -2.71%, Nasdaq -3.56%) เช่นเดียวกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ถั่วเหลือง และทองคำ ปรับลงทันทีเช่นกัน ส่วนตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในช่วง 0.44% - 1.52%

ในสัปดาห์นี้ ตลาดการเงินโลกจึงน่าจะจับตาไปที่ท่าทีของจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การยกระดับของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน รอบใหม่ นอกจากนี้การปิดหน่วยงานรัฐ (Government Shutdown) ที่ยังยืดเยื้อ น่าจะส่งผลให้การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทั้งเงินเฟ้อ ยอดค้าปลีก รวมถึงตัวเลข ภาคอสังหาฯ น่าจะถูกเลื่อนออกไป และอาจไม่ทันก่อนการประชุม FOMC 28-29 ต.ค. อย่างไรก็ตาม มุมมองตลาดคาดว่าเงินเฟ้อเดือน ก.ย. (ที่กำหนดรายงาน 15 ต.ค.) น่าจะยังเป็นโทนผ่อนคลายลงต่อเนื่อง คาด +0.3% MoM และ +3.0% YoY ส่วน Core CPI +0.23% MoM จึงน่าจะยังคงมุมมองเชิงผ่อนคลายต่อนโยบายการเงินของ Fed เช่นเดิม


EYES ON
ในสัปดาห์ จับตาประเด็น Government Shutdown, การตอบโต้สงครามการค้าของจีน, รายงานงบฯ 3Q68 กลุ่มธนาคารฯ
15 ต.ค. CPI เดือน ก.ย. ของจีน
16 ต.ค. ยอดค้าปลีก และ PPI ของสหรัฐฯ
17 ต.ค. CPI เดือน ก.ย. ของ Eurozone (รายงานครั้งสุดท้าย)

 

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้