สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (7 ตุลาคม 2568 )-----บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ โดยการสนับสนุน "Lee Kuan Yew Global Business Plan Competition" (LKYGBPC) ครั้งที่ 12 ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ (Singapore Management University - SMU)

การแข่งขัน LKYGBPC เป็นโครงการแข่งขันสตาร์ทอัพระดับมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มุ่งเน้นการแก้ปัญหาในเมืองและความยั่งยืน โดยมีผู้สมัครเข้าร่วมมากกว่า 1,500 ราย จาก 6 ทวีป โดยมีผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศ 57 ทีมเข้าร่วมการแข่งขันในรอบ Grand Finals Week ที่ประเทศสิงคโปร์ นางสาวคาเทีย เชซารี หุ้นส่วนผู้จัดการของ Volta Circle เป็นตัวแทนจากอินโดรามา เวนเจอร์ส ในการร่วมเป็นคณะกรรมการตัดสิน โดย Volta Circle เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนภายในสำนักงานของครอบครัวโลเฮีย ดำเนินการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นที่มุ่งสร้างนวัตกรรมในด้านเคมีภัณฑ์สีเขียว การรีไซเคิลขั้นสูง และห่วงโซ่คุณค่าการจัดการของเสีย แม้จะดำเนินงานอย่างอิสระ แต่พันธกิจของ Volta Circle ก็สอดคล้องและเสริมสร้างยุทธศาสตร์ความยั่งยืนในภาพรวมของอินโดรามา เวนเจอร์ส

อินโดรามา เวนเจอร์ส ยังได้มอบรางวัล "Future of Sustainable Materials Award" เพื่อยกย่องโครงการจากมหาวิทยาลัยที่มีผลงานโดดเด่นในด้านเส้นใยและพอลิเมอร์ขั้นสูง วัตถุดิบชีวภาพ การรีไซเคิลขั้นสูง และโซลูชันเศรษฐกิจหมุนเวียน รางวัลนี้สนับสนุนสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นที่มีระดับความพร้อมด้านเทคโนโลยี (TRL) ระดับ 3 ขึ้นไป พร้อมเงินรางวัลมูลค่า 50,000 เหรียญสิงคโปร์ สำหรับสาย Beta และ 75,000 เหรียญสิงคโปร์ สำหรับสาย Infinity ผู้ชนะได้รับการพิจารณาจากเกณฑ์ด้านคุณค่าทางวิทยาศาสตร์ ความสามารถในการขยายผล ศักยภาพในการทดสอบการใช้จริงในอุตสาหกรรม และผลกระทบต่อโครงสร้างพื้นฐานและการผลิตในเมือง

ในปีนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส ได้เสนอชื่อ 6 ทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ครอบคลุมตั้งแต่การค้นพบวัสดุด้วยเทคโนโลยี AI การพัฒนากระบวนการเคมีที่ปล่อยมลพิษต่ำ และทางเลือกชีวภาพสำหรับอุตสาหกรรมที่ลดการปล่อยมลพิษได้ยาก โดยผู้ชนะรางวัล Future of Sustainable Materials Award  จากอินโดรามา เวนเจอร์ส ในปีนี้ ได้แก่ Synmetabio สตาร์ทอัพด้านวัสดุชีวภาพจากเซี่ยงไฮ้ผู้พัฒนาโซลูชันหนังสังเคราะห์ชีวภาพสมรรถนะสูง (ได้รับเงินรางวัล 75,000 เหรียญสิงคโปร์) และ Micromelt สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเชิงลึกจากสหราชอาณาจักร ผู้พัฒนานวัตกรรมการรีไซเคิลพลาสติกผสมแบบวงจรปิดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเทคโนโลยีไมโครเวฟ (ได้รับเงินรางวัล 50,000 เหรียญสิงคโปร์)

นายยาช โลเฮีย ประธานบริหารด้านปิโตรเคมี และประธานคณะกรรมการด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล กล่าวว่า "ที่อินโดรามา เวนเจอร์ส ความยั่งยืนเป็นแรงขับเคลื่อนกลยุทธ์นวัตกรรมของเรา เราร่วมมือกับสตาร์ทอัพเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลและวัสดุชีวภาพที่สามารถขยายผลจากห้องแล็บสู่ภาคอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนให้มากขึ้น เราตระหนักดีว่าสตาร์ทอัพถือเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโซลูชันที่ก้าวล้ำและช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ด้วยโครงการอย่าง LKYGBPC เราสามารถเชื่อมโยงผู้ประกอบการรุ่นใหม่เข้ากับแพลตฟอร์มระดับโลกของเรา เพื่อเร่งการพัฒนาโซลูชันที่สร้างคุณค่าในระยะยาวให้แก่สังคมและธุรกิจของเรา"

 

ในสัปดาห์การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ดร.แอนโทนี วาตานาเบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืนของอินโดรามา
เวนเจอร์ส ได้เข้าร่วมกิจกรรม CSO Conversations เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับแนวทางที่ภาคธุรกิจสามารถสร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใช้ประโยชน์จากการกำกับดูแลดิจิทัล และการระดมทุนเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก ทั้งนี้
ดร. วาตานาเบ ได้แบ่งปันความคิดเห็นเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนของอินโดรามา เวนเจอร์ส ด้านเทคโนโลยีการรีไซเคิล PET  ขั้นสูง กระบวนการพัฒนานวัตกรรม วัตถุดิบเชิงชีวภาพ และความสำเร็จด้าน ESG ร่วมกับผู้นำด้านความยั่งยืนระดับแถวหน้าที่เข้าร่วมการเสวนาโต๊ะกลมในครั้งนี้

ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย SMU และอินโดรามา เวนเจอร์ส สะท้อนถึงความเชื่อร่วมกันว่า การขยายผลนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนโดยมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งสำคัญในการเร่งการพัฒนาด้านความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียนข้ามพรมแดน ผ่านการให้คำปรึกษา การสนับสนุนด้านเงินทุน และการสร้างระบบนิเวศ อินโดรามา เวนเจอร์ส ยังคงมุ่งสร้างอนาคตที่วัสดุมีความเป็นนวัตกรรมมากขึ้น หมุนเวียนได้มากขึ้น และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น