ภาวะตลาด SET Index วานนี้ พุ่งขึ้นขานรับความเชื่อมั่นของรองนายกฯและรมว.คลังว่าเศรษฐกิจไทยใน 4Q25 จะเติบโตสูงกว่า 1%YoY หลังจากใช้มาตรการกระตุ้นระยะสั้น 5 เสาหลัก ดัชนีปิดตลาดที่ 1288.29 (+13.26 จุด หรือ +1.04%) มูลค่าซื้อขาย 3.5 หมื่นลบ. นักลงทุนสถาบันในปท.และต่างชาติขายสุทธิเล็กน้อยที่ -181 ลบ. และ -178 ลบ. ตามลำดับ

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: ฟิทช์ฯ ระบุการชัตดาวน์ไม่กระทบอันดับเครดิตระยะสั้น เนื่องจากมองว่ากระทบศก.เพียงเล็กน้อย ล่าสุดมีข่าวว่าทรัมป์ ระงับงบประมาณราว 2.6 หมื่นล้านUS$ สำหรับรัฐที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต และขยายอำนาจควบคุมงบประมาณรัฐบาลกลาง 7 ล้านล้านUS$ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ กำหนดให้เป็นอำนาจของสภาคองเกรส
• สหรัฐ: เลื่อนรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ออกไป (จากเดิม 3 ต.ค.นี้ ) เพราะมีการชัตดาวน์ หน่วยงานรัฐบาล...อย่างไรก็ดี ตลาดประเมินว่าตัวเลข NPF ยังอ่อนแอ (ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.ที่รายงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมาลดลง 3.2 หมื่นตำแหน่ง ลดลงมากสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง สวนทางกับตลาดคาดว่าจะเพิ่ม 5.2 หมื่นตำแหน่ง) ด้วยตัวเลขภาคแรงงานที่ซบเซา ทำให้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.9% ว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ในการประชุมวันที่ 28-29 ต.ค.25
• ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้น หนุนโดยหุ้นเทคโนโลยี สัญญาน้ำมันดิบร่วงต่ออีก -2% เป็น 60-64 US$/bbl กังวลว่ากลุ่มโอเปกพลัสอาจจะเพิ่มการผลิต 5 แสนบาร์เรลในเดือนพ.ย.25 (จะมีประชุมกลุ่มฯ 5 ต.ค.นี้) สัญญาทองคำลดลง -29.4 US$ สู่ 3,868.10 US$/ออนซ์ จากการขายทำกำไร หลังทำ new high ไปวันก่อน ด้านดัชนีค่าเงิน US$ ทรงที่ 97.8 ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.4 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี ทรงที่ 4.09% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) อ่อนเป็น 104.85 ดัชนี Baltic Dry Index ลดสู่ 1,909

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ไทย: คาดอัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในทิศทางลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจต้องการแรงกระตุ้น และอัตราเงินเฟ้อของไทยยังต่ำมาก
• ไทย: รัฐบาลใหม่เร่งเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ 1.13 แสนล้านบาท…เป็นข่าวบวกกับ CK, STECON ส่วนการยุบตัวของถนนหน้าร.พ.วชิรพยาบาลได้สะท้อนไปในราคาหุ้นพอควรแล้ว ขณะที่กระทบกระแสเงินสดระยะยาวไม่มาก เพราะมีประกันคุ้มครอง

กลยุทธ์ : ระยะสั้นแกว่งในกรอบ 1280-1270 ถึง 1290-1300...SET มีสัญญาณแกว่งตัวในทางบวก นักลงทุนติดตามการเดินหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและมีความหวังกับมาตรการ Big Quick Win ของรัฐบาลใหม่ แนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1280, 1270, 1265-1260 และแนวต้าน 1290-1300 หรือสูงกว่า

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : CPALL – คาดกำไรหลัก 3Q25F ขยายตัว YoY หนุนโดยการขยายสาขาและ GPM เพิ่มขึ้นจากการปรับ product mix รวมทั้งได้อานิสงค์จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งทำให้ยอดขายร้าน 7-Eleven ในพื้นที่ท่องเที่ยวดีขึ้น แนวโน้ม 4Q25F จะดีขึ้น QoQ และโต YoY จากเป็นช่วง high season ของการท่องเที่ยว การขยายสาขา ผลประกอบการ CPAXT ดีขึ้น (ได้ประโยชน์จากโครงการ คนละครึ่งพลัส) ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง ส่วนค่าแรงงานที่เพิ่มขึ้นได้ชดเชยจากค่าไฟฟ้าที่ลดลง แนะนำซื้อให้ราคาพื้นฐาน 69 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829