Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

106

 

ตลาดหุ้นวิ่งต่อ แต่ก็เริ่มๆเสียวสันหลัง

HORIZON MARKET VIEW
• ความคาดหวังปรับลดดอกเบี้ยของ FED ที่เหลืออีก 2 ครั้งในปี้นี้ ดูชัดเจนขึ้น ด้วย แรงหนุน 2 ปัจจัยๆ หลัก
• เริ่มจากความกังวล GOVERNMENT SHUTDOWN ในสหรัฐฯ (กำลังเข้าสู่วันที่ 2) หลังในสภาฯ ยังตกลงกันไม่ได้ ซึ่งกรณีที่สถานการณ์ลากยาว อาจส่งผลกระทบ ต่อภาครวมเศรษฐกิจ ตลอดจนการจ้างงาน รวมถึงการประกาศตัวเลขสำคัญ ต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่ข้อมูลมีผลต่อการตัดสินใจลงทุน
• ประเด็นถัดมาเป็นราคาน้ำมันดิบที่ชะลอตัวลงมาต่อเนื่อง โดยล่าสุดเดือน ต.ค. 68 ราคาน้ำมัน WTI เฉลี่ยปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 61 เหรียญฯ/บาเรล (-14.8%YOY) ซึ่งอาจน่าช่วยลดแรงกระตุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ ให้อยู่ภายใต้การควบคุม สังเกตุจาก ค่า CORRELATION ที่สูงถึง 0.81

 

REGION RADAR
• ยอดส่งมอบรถ EV ในเดือน ก.ย. เติบโตต่อเนื่อง นำโดย XIAOMI มี ยอดส่งมอบรถยนต์อยู่ที่ 40,000 คัน +200%YOY, XPENG มียอด ส่งมอบอยู่ที่ 41,581 คัน +149%YOY แนะนำเก็งกำไร XIAOMI และ XPENG จากตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ในเดือน ก.ย. ที่โดดเด่น
• OPENAI เปิดตัวโครงการ "STARGATE" มูลค่า $5 แสนล้านเพื่อ ลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั่วโลก โดยเลือก SK HYNIX และ SAMSUNG ELECTRONICS เป็นซัพพลายเออร์หลักของชิป HBM (HIGH-BANDWIDTH MEMORY)

 

THAI FOCUS

• ADB ปรับลดคาดการณ์ GDP GROWTH ไทยในปี 25-26 ลงเหลือ 2.0% และ 1.6% ตามลำดับ สาเหตุหลัก คือ การส่งออกที่เติบโตช้าลง และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่ต่ำกว่าที่คาด
• ทำให้ไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ควรดำเนินนโยบายการเงินแบบ ผ่อนคลาย สะท้อนจาก BOND YIELD อายุ 10 ปีอยู่ที่ 1.4% ซึ่งต่ำ กว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน (สะท้อนการลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง ประเมินว่าการปรับลดดอกเบี้ย 25 BPS. จะหนุนระดับ P/E ขึ้น 0.67 เท่า และดัน TARGET SET INDEX จะขยับขึ้นมาได้ราว 55-57 จุด

 

SYNAPSE STRATEGY
• แม้ตลาดหุ้นสหรัฐทำ ATH แต่เริ่มเห็นระดับการขึ้นช้าลง เมื่อเทียบกับ การใช้ LEVERAGE ที่สูง ทั้งจากระดับ MARGIN 1.06 ล้านล้าน เหรียญ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมี PUT CALL RATIO เฉลี่ยต่ำ กว่า 0.5 ตลอด 3 เดือน อีกทั้งเริ่มเห็นสภาพคล่องสลับเข้าหุ้นเอเชีย
• ส่วน SET ปัจจุบันมีการใช้ MARGIN ระดับที่ต่ำ 4.9 หมื่ล้านบาท เดือนนี้มี PUT CALL RATIO จากต่างชาติระดับที่ดี0.78 แนะสะสม MTC, SIRI, TISCO, AP, ICHI, BCH, CPALL, BJC, CPN

 

HORIZON MARKET VIEW

ปัจจัยแวดล้อมปูทางไปสู่ความหวังลดดอกเบี้ย
ความคาดหวังปรับลดดอกเบี้ยของ FED ที่เหลืออีก 2 ครั้งในปี้นี้ ดูชัดเจนขึ้น ด้วยแรงหนุน 2 ปัจจัยๆ หลัก เริ่มจาก ความกังวล GOVERNMENT SHUTDOWN ในสหรัฐฯ (กำลังเข้าสู่วันที่ 2) หลังในสภาฯ ยังตกลงกันไม่ได้ โดย พรรคเดโมแครตต้องการให้รวมเงินอุดหนุนด้านสุขภาพไว้ในงบประมาณ ขณะที่พรรครีพับลิกันใช้การขู่ปลด ข้าราชการเป็นเครื่องมือในการต่อรอง ซึ่งกรณีที่สถานการณ์ลากยาว อาจส่งผลกระทบต่อภาครวมเศรษฐกิจ ตลอดจนการจ้างงาน รวมถึงการประกาศตัวเลขสำคัญต่างๆ ของสหรัฐฯ ที่ข้อมูลมีผลต่อการตัดสินใจลงทุน

 

ประเด็นถัดมาเป็นราคาน้ำมันดิบที่ชะลอตัวลงมาต่อเนื่องโดยล่าสุดเดือน ต.ค. 68 ราคาน้ำมัน WTI เฉลี่ยปรับตัว ลดลงมาอยู่ที่ 61 เหรียญฯ/บาเรล (-14.8%YOY) ซึ่งอาจน่าช่วยลดแรงกระตุ้นเงินเฟ้อสหรัฐฯ ให้อยู่ภายใต้การ ควบคุม สังเกตุจากค่า CORRELATION ที่สูงถึง 0.81

 

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันอาจมีการขยับขึ้นได้บ้างในระยะถัดไป จากปัจจัยหนุนของแนวโน้มดอลลาห์ที่อ่อนค่าลง หาก FED ลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้บวกกับกระแสข่าว OPEC+ ได้เตรียมประกาศเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือน พ.ย. (ประชุมวันที่ 5 ต.ค. 68) ได้กดดันราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงมากกว่า 7% ซึ่งน่าจะตอบรับกับกระแสข่าวนี้ไปใน ระดับหนึ่งแล้ว

 

REGION RADAR

XPENG และ XIAOMI รายงานยอดส่งมอบรถยนต์แข็งแกร่ง
ยอดส่งมอบรถยนต์ EV ในเดือน ก.ย. ยังมีการเติบโตต่อเนื่อง นำโดย XIAOMI มียอดส่งมอบรถยนต์อยู่ที่ 40,000 คัน +200% YOY, XPENG มียอดส่งมอบอยู่ที่ 41,581 คัน +149% YOY อย่างไรก็ตาม ด้าน BYD และ LI AUTO มียอดการส่งมอบรถยนต์ที่ชะลอตัว YOY

 

แนะนำเก็งกำไร XIAOMI และ XPENG จากตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ในเดือน ก.ย. แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่โดด เด่นของทั้งสองบริษัท

 

OPENAI เปิดตัวโครงการ "STARGATE" มูลค่า $5 แสนล้าน
OPENAI เปิดตัวโครงการ "STARGATE" มูลค่า $5 แสนล้านเพื่อลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั่วโลก โดย เลือก SK HYNIX และ SAMSUNG ELECTRONICS เป็นซัพพลายเออร์หลักของชิป HBM (HIGH-BANDWIDTH MEMORY) โดย SAMSUNG: ผู้ผลิตเมมโมรีรายใหญ่ที่สุดในโลก ครองตลาด DRAM & NAND ขณะที่ SK HYNIX เป็นผู้นำอันดับ 2 ในตลาด DRAM แต่ยังครองความเป็นผู้นำในตลาด HBM

 

จากประเด็นนี้คาดเป็น SENTIMENT บวกต่อ SAMSUNG ELECTRONICS และ SK HYNIX

 

THAI FOCUS

แม้ ADB หั่นคาดการณ์ GDP ไทยลง แต่มีนโยบายการเงินเข้ามาช่วยพยุง
วานนี้ธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) มีมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยที่เปลี่ยนไป โดยได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโต ของ GDP ประเทศไทยในปี 2025 ลงเหลือ 2.0% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% ในเดือนเม.ย.68 และปรับลด คาดการณ์ปี 2026 ลงเหลือ 1.6% จากเดิม 2.9% มาจากสาเหตุหลัก คือ การส่งออกที่เติบโตช้าลงและการฟื้น ตัวของนักท่องเที่ยวที่ต่ำกว่าที่คาด อีกทั้งยังมีแรงกดจากอุปสงค์ในประเทศ สะท้อนผ่านภาวะเงินฝืด(CPI ติดลบ ต่อกัน 5 เดือน) อาจเป็นสัญญาณของอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ

 

โดย ADB คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยในปี 2025 จะอยู่ที่ 0.5% และปี 2026 จะอยู่ที่ 0.8% ซึ่งเงินเฟ้อของ ไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าเป้าหมายของ ธปท. ราว 1%-3% ทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศที่ควรดำเนิน นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย โดยมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต สะท้อนจาก BOND YIELD อายุ 10 ปีอยู่ที่ 1.4%ซึ่งต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบัน(สะท้อนการลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง) เพราะว่าโดยปกติ แล้ว BOND YIELD อายุ 10 ปีมักสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายเสมอ

 

โดยประเมินว่าการปรับลดดอกเบี้ย 25 BPS. จะหนุนระดับ PE ขึ้น 0.67 เท่า และดัน TARGET SET INDEX จะ ขยับขึ้นมาได้ราว 55-57 จุด ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นได้ประโยชน์หากอัตราดอกเบี้ยลดลง แนะนำ หุ้นกลุ่มเช่าซื้อ MTC TIDLOR กลุ่มอสังหา AP SPALI และกลุ่ม HIGH YIELD ADVANC SCC

 

SYNAPSE STRATEGY

ตลาดหุ้นโลกวิ่งต่อ แต่ก็ต้องคอยระวังหลัง แม้ตลาดหุ้นสหรัฐทำ ATH
แต่เริ่มเห็นระดับการขึ้นช้าลง โดยตลอด 5 วัน ดัชนี S&P500 บวกทุกวัน แต่ขึ้นมาเพียง 1.45% เท่านั้น

 

เมื่อเทียบกับการใช้ LEVERAGE ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งจากระดับ MARGIN 1.06 ล้านล้านเหรียญ สูงสุดเป็น ประวัติการณ์ (เดือน ส.ค.) และมี PUT CALL RATIO เฉลี่ยต่ำกว่า 0.5 ตลอด 3 เดือน (หากต่ำ 0.7 แสดงให้เห็น นักลงทุนคาดหวังว่าตลาดจะขึ้นได้ร้อนแรงกว่าปกติ) อีกทั้งเริ่มเห็นสภาพคล่องสลับเข้าหุ้นเอเชีย

 

ส่วน SET ปัจจุบันมีการใช้ MARGIN ระดับที่ต่ำ 4.9 หมื่นล้านบาท เดือนนี้มี PUT CALL RATIO จากต่างชาติ ระดับที่ดี 0.78 แนะสะสม MTC, SIRI, TISCO, AP, ICHI, BCH, CPALL, BJC, CPN

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้