SET Index แกว่งออกข้าง
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลงทุนของรัฐ

Market Strategy
SET Index คาดวันนี้แกว่งออกข้างตามกรอบ 1280-1300 จุด จากปัจจัยแวดล้อมที่เริ่มขาดปัจจัยใหม่ขับเคลื่อน สำหรับหุ้นวันนี้เลือก CK ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะจากความคืบหน้าโครงการภาครัฐฯ

รฟท. เปิดเผย TOR โครงการรถไฟฟ้าสีแดงเข้มช่วงรังสิต-ม.ธรรมศาสตร์ วงเงิน 6.6 พันล้านบาท ซึ่งเปิดรับฟังความคิดเห็นระหว่าง 1 -6 ต.ค. 68 ก่อนจะเปิดประกวดราคาผ่าน e-bidding ต่อไป เรามองเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีเพราะโครงการข้างต้นถือเป็น 1 ใน 3 โครงการที่ รมว.คมนาคมเคยเผยว่าจะผลักดันเปิดประมูลในช่วง 4 เดือนนี้ (อีก 2โครงการ คือ รถไฟฟ้าชานเมืองสีแดงตลิ่งชัน-ศาลายาวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท และโครงการทางด่วนพิเศษภูเก็ตระยะที่ 1 วงเงิน 1.7 หมื่นล้านบาท) คาดเป็น Sentiment บวก สำหรับเก็งกำไรระยะสั้นกลุ่มรับเหมาฯ CK STECON

ราคาน้ำมันดิบยังปรับลงต่อ -2% จากความกังวลต่อการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC+ ในเดือน พ.ย. โดยความชัดเจนคาดจะเกิดในการประชุม OPEC+ วันที่ 5 ต.ค. นี้ จึงเป็นแรงฉุดต่อหุ้นกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ต่อไป ส่วนประเด็น Government Shutdown ในสหรัฐฯผลต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯจำกัดเพราะถูกหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคฯ แต่จะทำให้การรายงาน NFP เดือน ก.ย. ที่เดิมกำหนดเผยวันนี้จะถูกเลื่อนออกไป
ทิศทาง SET Index เดือน ต.ค. 68 เราคาดว่าผันผวนในกรอบ 1,250–1,320 จุดมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ทั้งการเติมเงินผ่านบัตรสวัสดิการฯ, คนละครึ่ง, กระตุ้นท่องเที่ยว และนโยบายเร่งลงทุนภาครัฐ-เอกชน ผ่าน BOI และโครงการโครงสร้างพื้นฐาน แม้นโยบายบางข้อยังอยู่ระหว่างการพิจารณา แต่สะท้อนทิศทางเชิงบวกต่อการบริโภคและการลงทุน

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความไม่แน่นอนทางการเมือง เราคงเป้าดัชนี SET ที่ 1,290 จุด ณ สิ้นปี 68 โดยมองว่าการลงทุนภาคเอกชนยังเป็นปัจจัยบวกหลักต่อเศรษฐกิจในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า ท่ามกลางข้อจำกัดด้านงบประมาณและประสิทธิผลของมาตรการระยะสั้น สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในเดือนนี้ เราเลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของรัฐบาล การดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายและแนวโน้มผลกำไรไตรมาส 3Q68 เติบโต AP KTC และ TRUE

Market Summary
SET Index ปรับขึ้นราว 15 จุดหรือ 1.2% ตามทิศทางตลาดภูมิภาค หุ้นหนุนตลาดยัง นำโดย DELTA +2.7% TRUE +3.8% จากตลาดคลายกังวลกลุ่มเทเลนอร์ถอนลงทุน ส่วนกลุ่มอื่นๆ ที่บวกเด่นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงหลังรายงาน ADP Employment เดือน ก.ย.ต่ำคาด หนุนกลุ่มโรงไฟฟ้า BGRIM +5% GPSC +3% กลุ่มไฟแนนซ์ MTC +3.8% SAWAD +1.7% ส่วนกลุ่มที่ปรับลงกลุ่มอาหาร TU -1.6% จากเราปรับลดคำแนะนำเป็นถือ หลัง Upside จำกัด

DAILY Stock Pick
CK
รัฐบาลเดินหน้าโครงการก่อสร้าง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 27.50 บาท
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เผยแพร่ร่างขอบเขตของงาน (TOR) โครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต–มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มูลค่า 6 พันล้านบาท หนุน Sentiment กลุ่ม รับเหมาก่อสร้าง อย่าง CK
ณ สิ้นงวด 2Q68 CK มี Backlog อยู่ที่ 1.92 แสนล้านบาท รองรับรายได้ 3-4 ปี ข้างหน้า ส่วนงานประมูลเพิ่มเติมในระยะถัดไป อาทิ Double Desk, Motor way, high-speed train หนุน Upside ณ ราคาปัจจุบัน ซื้อขาย PE’68 ที่ 12 เท่า (-1.5SD ของเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี)

WEEKLY Stock Pick
AP
ผลประกอบการจะเร่งตัว 2H68-69
แถมปันผลที่สูงน่าจูงใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10.50 บาท
ผลประกอบการน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยเราคาด 2H68 กำไรจะเร่งตัว 50%HoH หนุนการรับรู้รายได้จาก Backlog เดิมและเปิดโครงการใหม่จำนวนมาก
ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER68/69 ที่ 6.0/5.4 เท่า พร้อมปันผลปี 68/69 ที่สูงเฉลี่ย 6.6% ต่อปี ส่วน Catalyst ในระยะถัดไปเราเชื่อว่าจะได้ Sentiment บวกต่อความคาดหวังการปรับลดดอกเบี้ยฯ ของ กนง. ซึ่งเราคาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยฯ ในปีนี้ 1 ครั้งและช่วง 1H69 อีก 1 ครั้ง

KEY FACTOR

การปิดหน่วยงานรัฐ (Government Shutdown) ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบให้การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจอาจจะต้องถูกเลื่อนออกไป ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวเลขที่ตลาดให้น้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็น การจ้างงานนอกภาคเกษตร (มีกำหนดรายงานเดิมวันนี้) และในกรณีที่สถานการณ์ยังยืดเยื้อ อาจลากยาวไปถึงตัวเลขเงินเฟ้อที่จะรายงานวันที่ 15 ต.ค. รวมถึงหากคาบเกี่ยวกับช่วงประชุม FOMC 28-29 ต.ค. อาจทำให้ Fed ต้องตัดสินใจบนข้อมูลที่จำกัด อย่างไรก็ตามภายใต้ช่วงเวลาที่ข้อมูลอย่างเป็นทางการขาดหายไป ตลาดมีแนวโน้มใช้สัญญาณจากข้อมูลล่าสุด ที่สะท้อนความอ่อนแอของภาคแรงงานเป็นจุดยึดตีความเชิงผ่อนคลายจนกว่าจะมีข้อมูลใหม่มาหักล้าง

EYES ON
2 ต.ค. อัตราการว่างงาน Eurozone
3 ต.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ