Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

101

 

สินทรัพย์เสี่ยง CONCERN SHUTDOWN สหรัฐฯ

HORIZON MARKET VIEW
• วานนี้ จีนเผยตัวเลข PMI เดือน ก.ย. 68 โดยภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 49.8 จุด ดูดี ขึ้นกว่าคาด แต่ยังอยู่ในโซนหดตัว อย่างไรก็ดีภาคบริการยังคงอ่อนแรงหลังสิ้นสุด ฤดูท่องเที่ยว อีกทั้งการลงทุนภาครัฐอ่อนแรงลง โดยเฉพาะในภาคก่อสร้าง สะท้อน ว่ามาตรการกระตุ้นของรัฐยังไม่เพียงพอ
• ขณะที่สหรัฐฯ มี 2 ประเด็นหลักๆ ที่ต้องจับตาในวันนี้ คือ ตัวเลข PMI ภาคการผลิต เดือน ก.ย. 68 (คาด 49 จุด) และความเสี่ยง GOVERNMENT SHUTDOWN
• เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติม ในการกำหนดนโยบายการเงินของ FED หากเศรษฐกิจ สหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนแอลง อาจทำให้การลดดอกเบี้ยมีความชัดเจนขึ้น ส่วนใน แง่มุมของ FEDWATCH TOOL ล่าสุดให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 96.7% คาด FED ลด ดอกเบี้ยในการประชุม ต.ค. นี้

 

REGION RADAR
• NIKE รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปีบัญชี 2026 ออกมาดีกว่า คาด โดยรายได้พลิกกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในรอบกว่า 5 ไตรมาส หนุนจากรายได้การขายผ่านช่องทาง WHOLESALE ที่แข็งแกร่ง ขณะที่ EPS อยู่ที่ $0.49 -30% YOY (สูงกว่าคาด 75%) แนะนำเข้า เก็งกำไรระยะสั้นสำหรับ NIKE
• กลยุทธ์การลงทุนในไตรมาส 4 ฝ่ายวิจัยฯ มองตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้ น้ำหนัก SLIGHTLY UNDERWEIGHT ด้านตลาดหุ้นยุโรปให้น้ำหนัก NEUTRAL ขณะที่ตลาดหุ้นจีนให้น้ำหนัก SLIGHTLY OVERWEIGHT

 

THAI FOCUS
• รมต.คลัง แจงนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วนตั้งเป้าเห็นผล 4 เดือน ดัน GDP 4Q68 โตเกิน 0.3%YOY จาก 5 เสาหลักนโยบาย ได้แก่ การ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว, ลดภาระหนี้ประชาชน, เพิ่มสภาพ คล่องให้ SME, เพิ่มออมประชาชนลงทุนเพื่ออนาคต
• ยามที่นีกลงทุนคาดหวังนโยบายการคลังเข้ามาเสริมแบบนี้ ทำให้ บทบาทของนโยบายการเงินลดน้อยลง สังเกตได้จาก BOND YIELD ไทยที่ดีดตัวสูงขึ้น อาจสะท้อนความคาดหวังน้อยลงที่จะเห็นการลด ดอกเบี้ยเดือน ต.ค.68

 

SYNAPSE STRATEGY ตัวเลขแรงงานสหรัฐฯอ่อนแอลง
• 2 สัปดาห์ ค่าเงินบาทอ่อนค่า 2.4% ที่ 32.45 บาท/เหรียญ (อ่อนค่า สุดในรอบ 2 เดือน) พร้อมกับ FUND FLOW ไหลออกจากตลาดหุ้น ไทย 1.2 หมื่นล้านบาท กดดัน SET ย่อตัว -2.7% เหลือ 1274 จุด
• กลยุทธ์SET ผันผวนช่วงนี้ แต่นโยบายการคลังเริ่มขับเคลื่อน พร้อม กับความคาดหวังนโยบายการเงินหนุน ช่วงไตรมาส 4 นี้ แนะสะสม MTC, TISCO, AP, ICHI, BCH, CPALL, BJC, CPN

 

HORIZON MARKET VIEW

ตลาดหุ้นตกอยู่ในสภาวะทรงตัว
วานนี้จีนเผยตัวเลข PMI เดือน ก.ย. 68 โดยภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 49.8 จุด ดูดีขึ้นกว่าคาด แต่ยังอยู่ในโซนหด ตัว (PMI < 50) อย่างไรก็ดีภาคบริการยังคงอ่อนแรงหลังสิ้นสุดฤดูท่องเที่ยว อีกทั้งการลงทุนภาครัฐอ่อนแรงลง โดยเฉพาะในภาคก่อสร้าง สะท้อนว่ามาตรการกระตุ้นของรัฐยังไม่เพียงพอ และคาดหวังจะเห็นแรงผลักเพิ่มเติม

ขณะที่สหรัฐฯ มี 2 ประเด็นหลักๆ ที่ต้องจับตาในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติม ในการกำหนดนโยบายการเงิน ของ FED หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มอ่อนแอลง อาจทำให้การลดดอกเบี้ยมีความชัดเจนขึ้น ส่วนในแง่มุมของ FEDWATCH TOOL ล่าสุดให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 96.7% คาด FED ลดดอกเบี้ยในการประชุม ต.ค. นี้

 

1. การรายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือน ก.ย. 68 โดย CONSENSUS คาดไว้ที่ระดับ 49 จุด ซึ่งยังอยู่ในโซนซบเซา (PMI < 50) แต่ปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนที่48.7

 

2. ความเสี่ยง GOVERNMENT SHUTDOWN ในสหรัฐฯ หลังเดโมแครตปัดร่างกฎหมายชั่วคราว ด้วยคะแนนเสียง 55 : 45โดยผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น คือ พนักงานรัฐบาลกลางอาจถูกพักงานชั่วคราว ถึง 750,000 คน และเจ้าหน้าที่จำเป็น เช่น ทหาร จะต้องทำงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างชั่วคราว ทั้งนี้ BLOOMBERG คาดว่า หากชัตดาวน์ยาว 3 สัปดาห์อาจทำให้อัตราว่างงานสหรัฐฯ พุ่งขึ้นเป็น 4.6%– 4.7% (จาก 4.3%) ซึ่งพนักงานรัฐบาลกลางที่ถูกพักงานจะถูกนับว่า “ว่างงานชั่วคราว” แต่จะกลับมา นับเป็น “มีงานทำ” เมื่อรัฐบาลเปิดอีกครั้ง

 

REGION RADAR

NIKE รายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ปีบัญชี 2026 ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด
บริษัทรายงานรายได้รวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ $1.17 หมื่นล้าน +1.1% YOY (สูงกว่าคาด 6.4%) ซึ่งรายได้พลิก กลับมาเติบโตได้อีกครั้งในรอบกว่า 5 ไตรมาส หนุนจากรายได้การขายผ่านช่องทาง WHOLESALE ที่แข็งแกร่ง อยู่ที่ $6.8 พันล้าน +6.1% YOY (สูงกว่าคาด 8.3%) ขณะที่ EPS อยู่ที่ $0.49 -30% YOY (สูงกว่าคาด 75%) อย่างไรก็ตาม บริษัทเตือนว่าภาษีศุลกากรจะกระทบ $1.5 พันล้านในปีนี้ (เดิมคาด $1 พันล้าน) เนื่องจาก โรงงานผลิตส่วนใหญ่ตั้งในประเทศเวียดนามซึ่งถูกเก็บภาษีในระดับที่สูง

 

หุ้นต่างประเทศเด่นสำหรับงวด 4Q68
กลยุทธ์การลงทุนในไตรมาส 4 นี้ สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ให้น้ำหนัก SLIGHTLY UNDERWEIGHT แนะนำลงทุน ในหุ้นกลุ่ม DEFENSIVE เป็นหลักอย่าง BRK US (DR:BRKB80) และหุ้น TURN AROUND: GRAB US (DR: GRAB80) ด้านตลาดหุ้นยุโรปให้น้ำหนัก NEUTRAL โดยเน้นเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นกลุ่ม DEFENSE: RHM GR และ BA/ LN จากสถานการณ์ความตึงเครียดด้านภูมิศาสตร์ที่สูงขึ้น และแนะนำทยอยสะสมหุ้นในกลุ่ม LUXURY อย่าง MC FP (DR: LVMH01) เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจ LUXURY ในประเทศจีน นอกจากนี้ ด้านตลาดหุ้นจีนให้น้ำหนัก SLIGHTLY OVERWEIGHT ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นจีนต่อเนื่องใน ไตรมาส 4 โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม BIG TECH อย่าง TERRIFIC 10 ซึ่งชื่นชอบ 9988 HK (DR: BABA80), 700 HK (DR: TENCENT80), 1024 HK (DR:KUAISH80) รายละเอียดฉบับเต็ม สามารถติดตามได้ใน INVEST+ 4Q2568

 

THAI FOCUS

นโยบายการคลังเข้ามาเสริม บทบังนโยบายการเงินของ กนง.
วานนี้รมต.คลัง คุณเอกนิติแจงนโยบายเศรษฐกิจเร่งด่วน กู้เศรษฐกิจชะลอติดหล่ม ตั้งเป้าเห็นผล 4 เดือน ยึด หลัก "กระตุ้นสั้น ได้ยาว กระจายตัว" ดัน GDP 4Q68 โตเกิน 0.3%YOY ซึ่งหมายความว่า GDP 2568F มีโอกาส โตเกิน 2.2%YOY จาก 5 เสาหลักนโยบาย ดังนี้

 

1.กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เร่งโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ,ขยายสิทธิ์ บัตร สวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อย , ส่งเสริมการท่องเที่ยว เมืองรอง เพื่อลดความกระจุกตัว, เร่ง ขยาย ตลาดส่งออก หาตลาดใหม่
2. ลดภาระหนี้ประชาชน จัดตั้ง บริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) เพื่อจัดการหนี้เสีย (NPL) และเน้นลดหนี้ครัวเรือน ที่กดดันกำลังซื้อ
3. เพิ่มสภาพคล่องให้ SME จัดมาตรการ สินเชื่อ-เงินทุนหมุนเวียน และลดภาระต้นทุนทางการเงิน
4. เพิ่มออมประชาชน ส่งเสริม กองทุนออมระยะยาว/กองทุนบำนาญ
5. ลงทุนเพื่ออนาคต เร่งการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, พัฒนา ดิจิทัล-พลังงานใหม่-อุตสาหกรรมอนาคต และดึง การลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)

 

รวมถึงรมว.คลัง เห็นด้วยกับข้อเสนอหน่วยงานตลาดทุน โครงการ TISA หรือ บัญชีเงินออมการลงทุนในหุ้น โดย นักลงทุนที่ซื้อในตลาดหลักทรัพย์จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาลงทุนในหุ้นไทยมาก ขึ้น และส่งเสริมการออม-ลงทุนระยะยาว แต่อาจมี“เงื่อนไขเรื่องการถือระยะเวลาหนึ่ง” เพื่อให้ได้สิทธิ์ทางภาษีซึ่ง เป็นประเด็นที่ต้องติตตามต่อไป

 

ดังนั้นในยามที่นีกลงทุนคาดหวังนโยบายการคลังเข้ามาเสริมแบบนี้ ทำให้บทบาทของนโยบายการเงินลดน้อยลง สังเกตได้จาก BOND YIELD ไทยที่ดีดตัวสูงขึ้น อาจสะท้อนความคาดหวังน้อยลงที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยเดือน ต.ค.68

 

SYNAPSE STRATEGY

SET INDEX ยังน่าลงทุนเมื่อเทียบกับ S&P500
2 สัปดาห์ ค่าเงินบาทอ่อนค่า 2.4% ที่ 32.45 บาท/เหรียญ (อ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน) พร้อมกับ FUND FLOW ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย 1.2 หมื่นล้านบาท กดดัน SET ย่อตัว -2.7% เหลือ 1274 จุด

 

กลยุทธ์ SET ผันผวนช่วงนี้ แต่นโยบายการคลังเริ่มขับเคลื่อน พร้อมกับความคาดหวังนโยบายการเงินหนุน ช่วง ไตรมาส 4 นี้ แนะสะสม MTC, TISCO, AP, ICHI, BCH, CPALL, BJC, CPN ส่วน DR เด่น คือ BRKB80, GRAB80, LVMH01, BABA80, TENCENT80, KUAISH80

 

รายละเอียดอื่นๆ สามารถติดตามอ่านได้ในบทวิเคราะห์ INVEST+ 4Q68

 

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

DELTA พาSETเด้ง By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้าวันนี้ ใครกัน ลาก กระชาก หุ้นDELTA พาSET เด้ง งานนี้ บริษัท DELTA ไม่รู้ แต่ ฝ่าย...

MMM ต้อนรับคณะนักลงทุน IAT อัปเดตแผนเสนอขายหุ้น PO 64.20 ล้านหุ้น ก่อนเทรดตลาด mai

MMM ต้อนรับคณะนักลงทุน IAT อัปเดตแผนเสนอขายหุ้น PO 64.20 ล้านหุ้น ก่อนเทรดตลาด mai

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้