สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 30 กันยายน 2568)-------บลจ.กสิกรไทย ชูกองทุน K-VALUE เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพในการบริหารพอร์ตอย่างมั่นคงท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นไทยที่อยู่ภายใต้เศรษฐกิจเติบโตต่ำ ด้วยกลยุทธ์การคัดเลือกหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งที่มีการจ่ายเงินปันผลสูงและสม่ำเสมอ กองทุนมีผลตอบแทนจากเงินปันผลที่โดดเด่นและได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar สะท้อนถึงคุณภาพการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ ทั้งยังมีความสามารถในการรับมือกับภาวะตลาดขาลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายวิน พรหมแพทย์ CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ท่ามกลางภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังคงเผชิญกับความผันผวนและความไม่แน่นอนจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ บลจ.กสิกรไทย ขอแนะนำ กองทุนเปิดเค หุ้นปันผล หรือ K-VALUE เป็นตัวเลือกที่มีศักยภาพในการบริหารพอร์ตการลงทุนหุ้นไทยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยกองทุนดังกล่าวมีแนวทางการลงทุนที่เน้นคัดเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีความสามารถในการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอและสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด พร้อมให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลประกอบการและความมั่นคงทางการเงินของบริษัทที่ลงทุน เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงและลดความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะยาว
นายวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-VALUE เป็นกองทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นไทยชั้นนำซึ่งมีประวัติการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง โดยมีการบริหารจัดการที่คำนึงถึงความผันผวนที่ต่ำกว่าในภาวะตลาดขาลง (Downside Resilience) เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ลงทุน ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา กองทุน K-VALUE มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) อยู่ที่ 6.2% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนี SET Index ที่อยู่ที่ 4.1% อีกทั้งยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลังที่โดดเด่นเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มกองทุนหุ้นไทยขนาดใหญ่ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยกองทุนได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar ซึ่งสะท้อนถึงคุณภาพและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกองทุนอย่างมืออาชีพ (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 31 กรกฎาคม 2568)
“แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงระยะ 6 เดือนข้างหน้า (ไตรมาส 4/25 - 1/26) สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากขึ้น โดยความเสี่ยงด้านขาลงเริ่มถูกจำกัดจากการฟื้นตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และสัญญาณการปรับประมาณการกำไรที่เริ่มแตะระดับต่ำสุด อย่างไรก็ดี ปัจจัยเชิงโครงสร้าง อาทิ โครงสร้างประชากร ความสามารถในการแข่งขัน และประสิทธิภาพด้านธรรมาภิบาล ยังคงเป็นข้อจำกัดต่อศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ขณะที่แรงสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ ทั้งในด้านการผ่อนคลายทางการเงินและการเบิกจ่ายงบประมาณ มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบนี้ โดยการฟื้นตัวของตลาดจากจุดต่ำสุดในปี 2025 ได้รับแรงหนุนจากการลดภาษีและความเสี่ยงทางการเมืองที่ลดลง แม้ตลาดยังซื้อขายในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวโดยมองเป้าหมายดัชนีปลายปีอยู่ที่ระดับ 1300-1340 จุด” นายวินกล่าว
นายวินกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทุนที่กำลังมองหาแนวทางในการปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับความผันผวนและความไม่แน่นอน การเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนหุ้นไทยทั่วไปสู่กองทุน K-VALUE ถือเป็นตัวเลือกที่มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตการลงทุน โดยกองทุน K-VALUE สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ซื้อง่ายอย่างปลอดภัยด้วย App K PLUS และ K-My Funds หรือ ธนาคารกสิกรไทย และ ผู้แทนสนับสนุนการขาย ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกช่องทางของกสิกรไทย หรือ ผู้แทนสนับสนุนการขาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 และศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองได้ที่ www.kasikornasset.com