Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์ ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ ปตท. และ ปตท.สผ. เป็นลบ; คงอันดับที่ ‘BBB+’

126

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 30 กันยายน 2568)---------ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตสากลระยะยาว (International Long-Term Issuer Default Rating: IDR) ของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) เป็นลบ จากเดิมแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับเครดิตของทั้งสองบริษัท และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันของปตท.สผ. ที่ ‘BBB+’

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ ปตท. สอดคล้องกับการที่ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยเป็นลบ จากเดิมแนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ ขณะที่คงอันดับเครดิตที่ ‘BBB+’ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ทั้งนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตองค์กรที่มีความสัมพันธ์กับภาครัฐฯ (Government-Related Entities Rating Criteria) อันดับเครดิตสากลระยะยาว และแนวโน้มอันดับเครดิตของ ปตท. ไม่สามารถอยู่สูงกว่าอันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศได้ เนื่องจากไม่มีโครงสร้างที่จำกัดสิทธิของภาครัฐฯในการเข้าถึงเงินสดและสินทรัพย์ของ ปตท. ดังนั้น การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศจึงส่งผลโดยตรงต่อ ปตท.

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ ปตท.สผ. สะท้อนการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทแม่ คือ ปตท. เนื่องจากอันดับเครดิตและแนวโน้มอันดับเครดิตของ ปตท.สผ. อยู่ในระดับเดียวกันกับ ปตท. โดยอ้างอิงจากการประเมินของฟิทช์ว่าปตท.มีแรงจูงใจเชิงกลยุทธ์และด้านการดำเนินงาน ในการให้การสนับสนุน ปตท.สผ. ที่อยู่ในระดับสูง (High) ภายใต้หลักเกณฑ์ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทแม่และบริษัทย่อย (Parent and Subsidiary Linkage Rating Criteria)

แนวโน้มของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ ปตท. ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากอันดับเครดิตภายในประเทศเป็นการวัดความน่าเชื่อถือสัมพัทธ์ระหว่างประเทศและผู้ออกตราสารอื่นภายในประเทศไทย

ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต

แรงจูงใจภาครัฐฯ ในการให้การสนับสนุนปตท.: ฟิทช์มองว่าบทบาทของปตท. ในการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐฯ (Preservation of government policy) ทางด้านพลังงานอยู่ในระดับสูงมาก โดยปตท. มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ การผิดนัดชำระหนี้ของปตท. จะส่งผลกระทบต่อการจัดหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสำหรับประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลต่อการผลิตไฟฟ้า และทำให้ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศลดลง นอกจากนี้ ฟิทช์มองว่าผลกระทบต่อการกู้ยืมของภาครัฐฯ ในกรณีที่ปตท. ผิดนัดชำระหนี้ (Contagion risk) อยู่ในระดับสูงมากเช่นกัน เนื่องจากฟิทช์มองว่า ปตท. เปรียบเสมือนตัวแทนของภาครัฐฯ และรัฐวิสาหกิจ ที่มีการกู้เงินและออกหุ้นกู้ ดังนั้นการผิดนัดชำระหนี้ของปตท. จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการกู้ยืมเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ และต้นทุนทางการเงินของภาครัฐฯ และรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ด้วย

ความรับผิดชอบของภาครัฐฯ ในการให้การสนับสนุนปตท.: ฟิทช์ประเมินเรื่องการดูแลและการควบคุม (Decision-making and oversight) ของภาครัฐฯ ต่อปตท. อยู่ในระดับสูง เนื่องจากภาครัฐฯ โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่ร้อยละ 63 ในปตท. แม้ว่าภาครัฐฯ มีนโยบายให้ปตท. ดำเนินธุรกิจในเชิงพาณิชย์ แต่ก็มีการควบคุมนโยบายการลงทุนและกลยุทธ์หลักๆ ในภาพกว้าง นอกจากนี้ ฟิทช์มองว่าการสนับสนุนจากภาครัฐฯ (Precedents of support) ต่อปตท. อยู่ในระดับสูง ฟิทช์เชื่อว่าการที่ภาครัฐฯ ได้มีการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่รัฐวิสาหกิจในธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจที่สำคัญต่อประเทศเช่นเดียวกันกับธุรกิจพลังงาน น่าจะทำให้เชื่อได้ว่าภาครัฐฯ น่าจะให้การสนับสนุนแก่ปตท. เช่นกันในกรณีที่บริษัทฯ มีความต้องการ แม้ว่าที่ผ่านมาไม่ได้มีการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัทฯ เนื่องจากปตท. มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

แรงจูงใจของ ปตท. ในการสนับสนุน ปตท.สผ.: ฟิทช์เชื่อว่า ปตท. มีแรงจูงใจเชิงกลยุทธ์ในระดับสูง (High) ในการสนับสนุน ปตท.สผ. ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำเพียงรายเดียวและเป็นบริษัทหลักของห่วงโซ่ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแบบครบวงจรของ ปตท. โดยได้รับการสนับสนุนจากสัดส่วนการมีส่วนร่วมของธุรกิจต้นน้ำของ ปตท.สผ. ต่อ EBITDA ของกลุ่มที่อยู่ในระดับสูง คิดเป็นร้อยละ 60 ในปี 2567 ทั้งนี้ วัตถุดิบส่วนสำคัญของ ปตท. สำหรับโรงแยกก๊าซฯ รวมถึงก๊าซสำหรับโรงไฟฟ้า มาจาก ปตท.สผ.

แรงจูงใจในการให้การสนับสนุนจากโครงสร้างการบริหารและการใช้แบรนด์สินค้าร่วมกัน (Management and Brand Overlap) อยู่ในระดับสูง: ฟิทช์ยังประเมินว่าโครงสร้างการบริหารร่วมกันผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการ ผู้บริหารระดับสูง และการใช้แบรนด์สินค้าระหว่าง ปตท. และ ปตท.สผ. อยู่ในระดับสูง (High) โดยมีการสับเปลี่ยนกรรมการและผู้บริหารระหว่างบริษัทย่อยในเครือ ปตท. อย่างสม่ำเสมอ รวมถึง ปตท.สผ. นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ของ ปตท.สผ. ยังบูรณาการอย่างแนบแน่นกับยุทธศาสตร์ธุรกิจโดยรวมของ ปตท.

ความสามารถในการรองรับหนี้สินเพิ่มเติมของสถานะเครดิตโดยลำพัง (Standalone Credit Profile) ที่เพียงพอสำหรับ ปตท.สผ.: ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA net leverage) ของ ปตท.สผ. จะยังคงต่ำกว่า 0.5 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับสถานะเครดิตโดยลำพังที่ระดับ ‘bbb’ ในช่วงสองสามปีข้างหน้า แม้โครงสร้างทางการเงินจะอ่อนแอลงจากสถานะที่มีเงินสดมากกว่าหนี้สินในปัจจุบัน เนื่องจากค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนที่เพิ่มขึ้นและกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ที่ลดลง ส่งผลให้กระแสเงินสดสุทธิ (Free Cash Flow) ติดลบในช่วงปี 2568-2570

ความสามารถในการทำกำไรที่มั่นคง: ปตท.สผ. มี EBITDA และอัตรากำไรที่ดีกว่าคู่แข่งที่มีการพึ่งพาน้ำมันดิบสูงกว่า โดย ปตท.สผ. มีสัดส่วนการขายก๊าซสูง (ปี 2567: ร้อยละ 71) ซึ่งราคาส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 6-12 เดือนของราคาน้ำมันดิบ ต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำยังเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

ความสามารถในการรองรับหนี้สินเพิ่มเติมของของสถานะเครดิตโดยลำพังของ ปตท. ที่ยังอยู่ในระดับแข็งแกร่ง: ฟิทช์คาดว่าสถานะทางการเงินของ ปตท. จะยังคงสอดคล้องกับสถานะเครดิตโดยลำพังที่ระดับ ‘bbb+’ แม้ว่าความสามารถในการรองรับหนี้สินจะปรับตัวลดลง โดยคาดว่าอัตราส่วน EBITDA net leverage จะปรับขึ้นมาอยู่ราว 1.9-2.0 เท่า ในปี 2568-2569 จาก 1.6 เท่า ในปี 2567 แต่ระดับอัตราส่วนหนี้สินยังคงสอดคล้องกับสถานะเครดิตโดยลำพังปัจจุบันของ ปตท. ที่ ‘bbb+’ ฟิทช์คาดว่า EBITDA จะอ่อนตัวลงส่วนหนึ่งจากธุรกิจต้นน้ำที่ลดลงจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ต่ำลง และการฟื้นตัวของธุรกิจปิโตรเคมีที่ช้าลง ทั้งนี้ ปตท. ยังมีความยืดหยุ่นด้านการลงทุน แม้ฟิทช์ยังไม่ได้สะท้อนสมมุติฐานนี้ในประมาณการ

โปรดดูรายงานประกาศอันดับเครดิตฉบับเต็มสำหรับเหตุผลและข้อมูลเปิดเผยที่เกี่ยวข้องของผู้ออกตราสารทั้งสองฉบับดังต่อไปนี้:

Fitch Affirms Thailand-Based PTT at ‘BBB+’/‘AAA(tha)’; Outlook Stable
Fitch Affirms Thailand's PTTEP at ‘BBB+’; Outlook Stable

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตของ ปตท.
ปัจจัยบวก
- เนื่องจากแนวโน้มอันดับเครดิตของเป็นลบ ดังนั้นฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มอันดับเครดิต อย่างไรก็ตามแนวโน้มอันดับเครดิตจะถูกปรับกลับมาเป็นมีเสถียรภาพ หากแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศถูกปรับกลับมาเป็นมีเสถียรภาพ โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทฯ กับประเทศไม่เปลี่ยนแปลง
ปัจจัยลบ
- การปรับลดอันดับเครดิตประเทศไทย

ปัจจัยที่อาจมีผลต่อการปรับลดอันดับเครดิตโดยลำพังของ ปตท.:
- การลงทุนที่สูงโดยใช้เงินกู้ยืม หรือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่ต่ำกว่าที่คาด ซึ่งทำให้อัตราส่วน EBITDA Net Leverage สูงกว่า 2.5 เท่าอย่างต่อเนื่อง
- การเปลี่ยนแปลงในเรื่องกฎระเบียบ การแก้ไขสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติและการปรับค่าผ่านท่อก๊าซที่ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อ ปตท.
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตของ ปตท. สผ.
ปัจจัยลบ
- การปรับลดอันดับเครดิตของ ปตท.
- แรงจูงใจของ ปตท. ในการสนับสนุน ปตท.สผ. อ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ
ปัจจัยบวก
- เนื่องจากแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ ดังนั้นฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการปรับเพิ่มอันดับเครดิต อย่างไรก็ตามแนวโน้มจะถูกปรับกลับมาเป็นมีเสถียรภาพ หากแนวโน้มอันดับเครดิตของ ปตท. ถูกปรับกลับมาเป็นมีเสถียรภาพ โดยมีเงื่อนไขว่าแรงจูงใจในการสนับสนุน ปตท.สผ. ยังคงอยู่ในระดับเดิม

ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคตของประเทศไทย ที่ได้ประกาศในรายงานลงวันที่ 24 กันยายน 2568
ปัจจัยลบ:
- ด้านหนี้สาธารณะ: ความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อความสามารถในการทำให้สัดส่วนระดับหนี้สินของรัฐบาล (General Debt to GDP) ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า เช่น การที่รัฐบาลไม่สามารถลดการขาดดุลงบประมาณได้
- ด้านเศรษฐกิจมหภาค: ความไม่มั่นคงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในระดับที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อประสิทธิภาพในการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของรัฐบาล และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือกระทบต่อการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว
ปัจจัยบวก:
- ด้านหนี้สาธารณะ: การลดหนี้สินของรัฐบาล (General Debt to GDP) เช่นอาจเกิดจากงบประมาณขาดดุลที่ลดลง และ/หรือการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะปานกลางที่ดีขึ้น
- ด้านเศรษฐกิจมหภาค: การปรับตัวดีขึ้นของการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยไม่ทำให้หนี้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อมูลของบริษัท

ปตท. เป็นบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติครบวงจรของประเทศไทย บริษัทดำเนินธุรกิจครอบคลุมธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งหมดในธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ผ่านบริษัทลูกต่างๆ ได้แก่ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติขั้นต้น ขั้นกลาง และขั้นปลาย ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมัน ธุรกิจจำหน่ายน้ำมัน และธุรกิจปิโตรเคมี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าอีกด้วย

ปตท.สผ. ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำหลักของ ปตท. ประกอบธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โดยมีโครงการสำคัญในประเทศไทย มาเลเซีย เมียนมา และตะวันออกกลาง

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

ถอย By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย รอคอย นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จาก ครม. ตอนนี้ รัฐบาล กำลังแถลงนโยบาย..

GUNKUL คว้ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ระดับดีเด่น" สามปีซ้อน

GUNKUL คว้ารางวัล "องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ระดับดีเด่น" สามปีซ้อน

NER คว้ารางวัล CSR Award 2025 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเติบโตเคียงข้างชุมชนอย่างยั่งยืน

NER คว้ารางวัล CSR Award 2025 ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเติบโตเคียงข้างชุมชนอย่างยั่งยืน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้