ตลาดหุ้นเหมือน F1 เร็ว แรง มองกระจกเป็นระยะๆ

HORIZON MARKET VIEW
• วานนี้ ตลาดหุ้นโลกปรับตัวในกรอบแคบราว -0.03% ถึง +0.5% หลังไร้ปัจจัย หนุนเพิ่มเติม ท่ามกลางความเสี่ยงที่สหรัฐฯ เกิด GOVERNMENT SHUTDOWN หากสภาคองเกรสไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณก่อนวันที่ 1 ต.ค. 68 อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นจีนให้ผลตอบแทนค่อนข้างโดดเด่น โดย HSI ดีดตัวขึ้นเกือบ 2%
• ขณะที่รัฐบาลจีนประกาศอัดฉีดเงินทุน 500,000 ล้านหยวน (70,000 ล้าน ดอลลาร์) กระตุ้นการลงทุน ผ่านเครื่องมือการเงินใหม่ “NEW FINANCING POLICY TOOL” เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีน (FIXED-ASSET INVESTMENT) ชะลอตัวอย่างรวดเร็ว บวกกับรัฐบาลท้องถิ่นใช้ เงินไปกับการปรับโครงสร้างหนี้แฝง (HIDDEN DEBT) มากกว่าการลงทุน

 

REGION RADAR
• สำนักการท่องเที่ยวมาเก๊า คาดนักท่องเที่ยวมายังมาเก๊าเฉลี่ย 150,000 คน/วัน ในช่วง GOLDEN WEEK ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ เฉลี่ย 140,000 คน/วัน แนะนำเก็งกำไรต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มเกมมาเก๊า: SANDS CHINA และ GALAXY ENTERTAINMENT และหุ้นกลุ่ม OTA: TRIPCOM80 และ TONGCHENG TRAVEL
• สถิติย้อนหลัง 4 ปีพบว่าในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาล GOLDEN WEEK ของจีน และช่วง 1 สัปดาห์หลังจากเทศกาล GOLDEN WEEK ราคาหุ้น TRIP.COM มักจะปรับตัวขึ้นแรงในช่วงนั้น

 

THAI FOCUS
• 3 เดือนที่ผ่านมา เม็ดเงิน ETF ไหลเข้าตลาดหุ้นทุกทวีป โดยเฉพาะ เอเชียไหลเข้าราว 1-2 หมื่นล้านเหรียญฯต่อเดือน รวมถึงราคาทองคำ ที่มีเม็ดเงิน ETF ไหลเข้าเยอะสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน ก.ย.68
• อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นมาเร็วของสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงทองคำมี โอกาสปรับฐานช่วงสั้นๆ จากหลังตอบรับความคาดหวังการลด ดอกเบี้ยมาแล้วระดับหนึ่ง สะท้อนจาก BOND YIELD 1 ปีสหรัฐฯ ที่อยู่ ระดับต่ำกว่าดอกเบี้ยถึง 0.7% (คาดหวังการลดดอกเบี้ยไป 3 ครั้ง แล้ว)จึงอาจเห็นเม็ดเงินไหลกลับ DOLLAR INDEX ช่วงสั้นได้

 

SYNAPSE STRATEGY
• ปัจจุบันตลาดหุ้นสหรัฐฯ มี VALUATION ค่อนข้างแพงกว่าตลาดหุ้น ในฝั่ง EMERGING MARKET โดย PE ขยับขึ้นมา S&P500 ขึ้นมา จาก P/E 19 เท่า (เม.ย. 68) เป็น 24.8 เท่า (ก.ย. 68) ส่วน SET INDEX ขยับขึ้นจาก P/E 12 เท่า (เม.ย. 68) เป็น 14.4 เท่า (ก.ย. 68)
• กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นเช่าซื้อรับนโยบายการเงินผ่อนคลาย MTC และกลุ่มที่รับมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาลจีน และรับช่วง GOLDEN WEEK อย่าง ERW และ SCGP

 

HORIZON MARKET VIEW

ตลาดหุ้นตกอยู่ในสภาวะทรงตัว
วานนี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวในกรอบแคบราว -0.03% ถึง +0.5% หลังไร้ปัจจัยหนุนเพิ่มเติม ท่ามกลางความเสี่ยง ที่สหรัฐฯ เกิด GOVERNMENT SHUTDOWN หากสภาคองเกรสไม่ผ่านกฎหมายงบประมาณก่อนวันที่ 1 ต.ค. 68 อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นจีนให้ผลตอบแทนค่อนข้างโดดเด่น โดยดัชนี HANG SENG ดีดตัวขึ้นเกือบ 2%

 

ขณะที่รัฐบาลจีนประกาศอัดฉีดเงินทุน 500,000 ล้านหยวน (70,000 ล้านดอลลาร์) กระตุ้นการลงทุน ผ่าน เครื่องมือการเงินใหม่ “NEW FINANCING POLICY TOOL” ซึ่งเม็ดเงินจะถูกจัดสรรเป็น “ทุนร่วม” โดยธนาคาร นโยบาย 3 แห่งของจีนจะระดมทุนผ่านการออกพันธบัตรและเข้าลงทุนในโครงการต่าง ๆ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีน (FIXED-ASSET INVESTMENT) ชะลอตัวอย่างรวดเร็ว บวกกับรัฐบาล ท้องถิ่นใช้เงินไปกับการปรับโครงสร้างหนี้แฝง (HIDDEN DEBT) มากกว่าการลงทุน

 

สำหรับประเด็นการพิจรณาความผิดทางกฎหมายของมาตรการภาษีที่บังคับใช้ภายใต้กฎหมาย IEEPA ขณะนี้ อยู่ในกระบวนการชั้นศาลฎีกา มีกำหนดนัดไต่สวนวันที่ 5 พ.ย.68 ซึ่งตาม TIMELINE คาดว่าจะทราบผลการ ตัดสินของศาลสูงสุดก่อนเดือน มิ.ย. 68 ทำให้ในช่วง 4Q68 รัฐบาลสหรัฐฯ อาจยังได้ประโยชน์จากมีรายได้ที่ เพิ่มขึ้นผ่านการเรียกเก็ยภาษีศุลกากร รวมถึงการขาดดุลการค้าที่ลดลง

 

ในแง่มุมตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้จะมีความผันผวนในช่วงสั้นหลัง ปธน. ทรัมป์ประกาศภาษี “LIBERATION DAY” แต่ ภาพรวมนับตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. เป็นต้นมา ตลาดหุ้นมีการตอบสนองในเชิงบวก โดย S&P500 INDEX พุ่งขึ้นราว +17.9% ส่วน SET INDEX ปรับตัวขึ้นมาแค่ +9.5% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่มประเทศหลักๆ ที่เกินดุลการค้ากับ สหรัฐฯ ที่ระดับ +14.6% ทำให้ตลาดหุ้นไทยอาจจะยังมีROOM ในการขยับขึ้นได้ต่อ

 

REGION RADAR
การท่องเที่ยวของจีนในช่วง GOLDEN WEEK ปีนี้คึกคัก
สำนักการท่องเที่ยวมาเก๊าเผย คาดนักท่องเที่ยวเฉลี่ย 150,000 คน/วัน ตลอดช่วงหยุดยาววันชาติ–ไหว้ พระจันทร์ (1–8 ต.ค.) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่เฉลี่ย 140,000 คน/วัน นอกจากนี้ โรงแรมในมาเก๊าคาดอัตราการ เข้าพักสูงต่อเนื่องราว 90% ใกล้เต็มแทบตลอดปี

 

จากการท่องเที่ยวในมาเก๊าที่ดูสดใส คาดเป็นแรงหนุนต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวในจีน โดยเฉพาะกลุ่มเกมมาเก๊าและ กลุ่ม OTA ที่มีแนวโน้มจะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวที่มากขึ้น แนะนำเก็งกำไรต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มเกมมาเก๊า: SANDS CHINA และ GALAXY ENTERTAINMENT และหุ้นกลุ่ม OTA: TRIPCOM80 และ TONGCHENG TRAVEL

 

TRIP.COM มักขึ้นแรงในช่วง +- 1 สัปดาห์ของ GOLDEN WEEK
จากสถิติในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา พบว่าในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนเทศกาล GOLDEN WEEK ของจีน และช่วง 1 สัปดาห์ หลังจากเทศกาล GOLDEN WEEK ราคาหุ้น TRIP.COM มักจะปรับตัวขึ้นแรงในช่วงนั้น

 

THAI FOCUS

LIQUIDITY DRIVEN RALLY มาสักระยะ อาจเห็นการพักฐานของสินทรัพย์เสี่ยง
การลงทุนภาพใหญ่ยังอยู่ภายใต้ LIQUIDITY DRIVEN หลังเห็นสัญญาณการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินออกจากตรา สารหนี้ และหนุนสภาพคล่องไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น โดย 3 เดือนที่ผ่านมา เม็ดเงิน ETF ไหลเข้าตลาดหุ้นทุกทวีป อาทิ สหรัฐฯ ยุโรป โดยเฉพาะเอเชียไหลเข้าโดดเด่นราว 1-2 หมื่นล้านเหรียญฯต่อเดือน (ภาวะปกติไหลเข้า1-5 พันล้าน เหรียญฯ) รวมถึงราคาทองคำ(GOLD SPOT) ที่ทำ ALL TIME HIGH อย่างต่อเนื่อง โดยมีเม็ดเงิน ETF ไหลเข้า เยอะสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน ก.ย.68 กว่า 1.59 หมื่นล้านเหรียญฯ (ภาวะปกติเม็ดเงินเข้าเฉลี่ย 5-9 พันล้าน เหรียญฯ)

 

อีกทั้งข้อมูลเดือน ก.ย. 68ของFUND MANAGER SURVEY แสดงให้เห็นว่ากองทุนถือเงินสด 3.9% เท่านั้น แทบ จะต่ำที่สุดในรอบ 25 ปี ผิดกับตอนหลังเกิดวิฤตที่มีสัดส่วนการถือเงินสดเกิน 5% จึงเห็นการโยกย้านเม็ดเงิน ทะลักเข้าสู่สินทรัพย์อื่นๆมากผิดปกติ

 

อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นมาเร็วของสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงทองคำมีโอกาสปรับฐานช่วงสั้นๆ จากหลังตอบรับ ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยมาแล้วระดับหนึ่ง สะท้อนจาก BOND YIELD 1 ปีสหรัฐฯ ที่อยู่ระดับต่ำกว่า ดอกเบี้ยถึง 0.7% (คาดหวังการลดดอกเบี้ยไป 3 ครั้งแล้ว) จึงอาจเห็นเม็ดเงินไหลกลับ DOLLAR INDEX ช่วงสั้นได้

 

SYNAPSE STRATEGY

SET INDEX ยังน่าลงทุนเมื่อเทียบกับ S&P500
หลังจากที่ TRADE TARIFF 2.0 ส่งสัญญาณผ่อนคลายลง โดยธีมการลงทุนภายใต้ LIQUIDITY DRIVEN(ตาม หัวข้อด้านบน)จนทำให้ปัจจุบันตลาดหุ้นสหรัฐฯ มี VALUATION ค่อนข้างแพงมาก ผ่านการวัดในด้านต่างๆ ไม่ว่า จะเป็น TRAILING P/E, FORWARD P/E, P/B, EV/EBITDA และอื่นๆ พบว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในตอนนี้อยู่ใน PERCENTILE ใกล้ระดับ 100% ซึ่งเป็นค่าสูงสุดในรอบกว่า 100 ปี

 

หากเปรียบเทียบ เทียบ P/E ตลาดหุ้นทั่วโลก ในแนวกว้าง และลึก พบว่า ระดับ P/E ของตลาดหุ้นในฝั่ง DEVELOPED MARKET มี VALUATION แพงกว่าตลาดหุ้นในฝั่ง EMERGING MARKET อย่างมีนัยสำคัญ โดย PE ขยับขึ้นมา S&P500 ขึ้นมาจาก P/E 19 เท่า (เม.ย. 68) เป็น 24.8 เท่า (ก.ย. 68) ส่วน SET INDEX ขยับ ขึ้นจาก P/E 12 เท่า (เม.ย. 68) เป็น 14.4 เท่า (ก.ย. 68)ซึ่งถือว่ายังมี PE ที่ถูกกว่าพอควร

 

กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นเช่าซื้อรับนโยบายการเงินผ่อนคลาย MTC และกลุ่มที่รับมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาล จีน ERW SCGP เป็น TOPPICKS

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์