Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

95

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 25 ก.ย.68 ปิด +9.85 จุด อยู่ที่ 1,288.26 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,348 ลบ. ต่างชาติซื้อ 840 ลบ.สถาบันซื้อ 750 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 101 ลบ. และรายย่อยขาย 1,489 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 750 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTTEP,SCGP,PTT,GULF,TRUE และยอดขายหุ้น ADVANC,CPALL,BDMS,CPN,COM7 มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,184 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ BCP,RATCH,SIRI โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 5,287 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 32,072 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 2,185 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.38%, S&P500 -0.50%, Nasdaq -0.50% จากแรงขายกลุ่มบริการสุขภาพ -1.67%, สินค้าฟุ่มเฟือย -1.4% ขณะที่พลังงาน +0.9% นักลงทุนกังวลเฟดอาจชะลอลดดอกเบี้ย หลังข้อมูล US GDP Q2/68 +3.8% ดีกว่าคาดที่ +3.3% QoQ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.66% จากแรงขายกลุ่มบริการสุขภาพ -1.9%, ก่อสร้าง & วัสดุ -1.5% และอุตสาหกรรม -0.8%
  • Market View
  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง หลัง ก.พาณิชย์สหรัฐรายงาน US GDP Q2/68 +3.8% สูงกว่าครั้งที่ 2 ที่ +3.3% QoQ ได้ปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริการและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้น กอปรจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 14,000 ราย อยู่ที่ 218,000 & คาด 235,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวได้ดี ส่งผลให้เฟดอาจชะลอการปรับลดดอกเบี้ย ขณะที่หน่วยงานราชการสหรัฐมีโอกาส Shut Down หากรัฐสภา ฯ สหรัฐไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณในช่วงปลายเดือนนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามค่ำวันนี้ คือรายงาน US PCE ส.ค. คาด 2.7% & ก.ค. 2.6% YoY และ Core PCE ส.ค.คาดทรงตัวอยู่ที่ 2.9% YoY ซึ่งเป็นตัวเลขที่เฟดใช้วัดเงินเฟ้อของสหรัฐ    
  • Stoxx600 ยุโรปวานนี้ -0.66% ปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากแรงชายกลุ่มบริการสุขภาพ -1.9% นำโดย Siemens Healthineers ของเยอรมัน -3.4% หลังถูกสหรัฐสอบสวนการนำเข้าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล, สินค้าทางการแพทย์ และหุ่นยนต์ ซึ่ง ปธน.ทรัมป์เตรียมจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ายา & อุปกรณ์ทางการแพทย์ในอัตราที่สูงถึง 100% ส่งผลให้หุ้น Coloplast เดนมาร์ก, Philips เนเธอร์แลนด์ปรับลดลง -3% ขณะที่ H&M ของสวีเดน +9.8% หลังรายงานกำไร Q3 ดีกว่าคาด และกลุ่มเหมืองแร่ +0.6% ปรับขึ้นตามราคาทองแดง
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ปิดทรงตัว หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถูกแรงขายทำกำไร ก่อนจะถึงวันหยุดยาวในช่วงสัปดาห์ Golden Week ต้นเดือน ต.ค. เช่นเดียวกับ Kospi เกาหลีใต้ปิด -0.03% โดยนักลงทุนรอข้อมูล US PCE ส.ค. ที่จะรายงานในช่วงค่ำวันนี้ เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยต่อใน ต.ค. นี้ ขณะที่ดัชนีนิเกอิวานนี้ปิด +0.27% ทำจุดสูงสุดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มส่งออก หลังค่าเงินเยนอ่อนค่า ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารญี่ปุ่นก็ปรับขึ้น จากคาดการณ์ BOJ มีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม ต.ค.
  • SET วานนี้ +0.77% ปริมาณการซื้อขาย 5 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 840 ลบ. สถาบันซื้อ 750 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 101 ลบ. และรายย่อยขาย 1,489 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก, ไฟแนนท์ และท่องเที่ยว ที่คาดจะได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick Win เช่น โครงการคนละครึ่งที่จะเสนอเข้า ครม.ในช่วงกลางเดือน ต.ค., ม.ลดค่าครองชีพ เช่น ค่าโดยสารจะยกเลิกโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท เป็นการปรับแพ็คเกจช่วยเหลือค่าโดยสารผ่านรถเมล์ปรับอากาศ, รถเมล์ร้อน และค่าทางด่วนขั้นที่ 1 – 2 ซึ่งจะครอบคลุมการเดินทางมากกว่า ส่วน ม.ด้านพลังงานจะดูแลราคาพลังงาน, ส่งเสริมพลังงานสะอาดผ่านโครงการโซลาร์ภาคประชาชน 1,500 เมกะวัตต์ ขณะที่การหารือระหว่างคณะนายก ฯ กับ Fetco วานนี้ได้รับข้อเสนอเกี่ยวกับ ม.ยกเว้นภาษีเงินปันผลที่ลงทุนระยะยาว, การให้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีกองทุน Thai ESG แบบถาวร, การลดกฏระเบียบที่ไม่จำเป็น และการดึงธุรกิจ New-Economy เข้าตลาดหุ้น โดยรัฐบาลอยู่ระหว่างรอการแถลงนโยบายต่อสภา ฯ ในวันที่ 29 ก.ย. และประชุม ครม.นัดพิเศษในวันที่ 30 ก.ย.  

    Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,270 - 1,280 แนวต้าน 1,290 - 1,300 คาดดัชนีทรงตัวระหว่างรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจหลังการแถลงนโยบายต่อสภาฯ ในวันที่ 29 – 30 ก.ย. แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีกอุปโภค CPALL,CPAXT,TNP,ICHI,COCOCO/ ไฟแนนท์ SAWAD,MTC,TIDLOR,KTC,TISCO,SGC คาดได้จะประโยชน์จาก ม.กระตุ้นกำลังซื้อ / GUNKUL,EA,SSP คาดได้ประโยชน์จากโครงการโซลาร์ภาคประชาชน 1.5 พัน เมกะวัตต์
  • COCOCO* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.25 บาท) แนวโน้มกำไร 3Q68 คาดฟื้นตัว QoQ ได้ต่อจากการเข้าสู่ช่วง high season ของธุรกิจที่เป็นช่วงหน้าร้อนของยุโรปและสหรัฐฯ ตลาดส่งออกน้ำมะพร้าวขยายตัวได้ดี และแนวโน้ม margin น่าจะฟื้นตัวจากต้นทุนมะพร้าวที่ปรับลดลงต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี รวมถึงการทยอยปรับเพิ่มราคาขาย 5-10% ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 68 ที่ราว 7-8 พันล้านบาท และปี 69 ที่1 หมื่นล้านบาท หนุนจากการออกสินค้าใหม่ ขณะที่การไปผลิตกะทิที่ฟิลิปปินส์ 1Q69 จะช่วยให้ต้นทุนของธุรกิจนี้ลดลง ตลาดคาดการณ์กำไรปี 68-69 ที่ 519 ล้านบาท -24%YoY และ 835 ล้านบาท +61%YoY
  • SHR* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมายBloomberg Consensus 2.14 บาท)กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 24 ลบ.(พลิกกำไรจากขาดทุนใน 2Q67 ที่ -72 ลบ., -86%QoQ)หนุนจาก Operation ที่แข็งแกร่งของโรงแรมทราย ลากูน่า ภูเก็ต,SAii Lagoon Maldives, และ Hard Rock Hotel Maldives ด้านการดำเนินงานในช่วงไตรมาส3/68 ยังดูดี ช่วง 1ก.ค.-22ก.ย.68 นักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ยัง +11%YoY ขณะที่เดือนก.ค.-ส.ค.เป็นHigh Season ของโรงแรมใน UKนอกจากนี้โรงแรมในไทยยังมีปัจจัยบวกจาก “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ปัจจุบัน ตลาดคาด Profit ปี68และ69 ของ SHR* ที่ 363 ลบ.(+126%YoY) และ 434 ลบ.(+20%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(0) WTI พ.ย.-$0.01 อยู่ที่ $64.98 / บาร์เรล, Brent พ.ย. +$0.11 อยู่ที่ $69.42/บาร์เรล หลังรองนายกฯ รัสเซียประกาศห้ามส่งออกน้ำมันดีเซลบางส่วนจนถึงสิ้นปีนี ขณะที่ข้อมูล US GDP Q2/68 ที่ดีกว่าคาด อาจส่งผลให้เฟดชะลอการลดดอกเบี้ย

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+3.00 อยู่ที่ $3,771.10 /ออนซ์ ทรงตัวรอรายงาน US PCE ส.ค.ในช่วงค่ำวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิ -23.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +26.12 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -59.82 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +9.89 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 32.18 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.172 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +26 อยู่ที่ 2,266

(-) BitCoin เช้านี้ -2.85% อยู่ที่ 109,440 ดอลลาร์สหรัฐ

(0)Tokyo Core CPI ก.ย. อยู่ที่ 2.5% ทรงตัวเมือเทียบกับ ส.ค.

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

23 ก.ย.     ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์

และชิ้นส่วนยานยนต์

30 ก.ย.     ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

สัปดาห์ที4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

23 ก.ย.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ก.ย.) 

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ก.ย.) 

24 ก.ย.     US ยอดขายบ้านใหม่ ( ส.ค.)

                US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

25 ก.ย.     US ดัชนีจีดีพี (ไตรมาสต่อไตรมาส) (ไตรมาส 2)

US ยอดขายบ้านมือสอง (Existing Home Sales) ( ส.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

26 ก.ย.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ( ส.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio September 2025: SEAFCO*, CPN*, PTTGC*, GULF*, CBG*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้