Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดSET วันนี้ แกว่งไซด์เวย์ รอ ครม. แถลงสภาสัปดาห์หน้า

113

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 26 กันยายน 2568)-------InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 26 กันยายน 2568 คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อ แต่ลดระดับลง นายกฯ กล่าวหลังพบ FETCO ว่าจะทำสิ่งที่ทางตลาดทุนฯ ร้องขอมาให้สำเร็จ 3-4 เรื่องเป็นปัจจัยหนุนในระยะกลาง โดยการแถลงต่อสภาจะเริ่มในวันที่ 29 ก.ย. นี้ และนโยบายใกล้เคียงกับที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ ทางเทคนิค ตลาดรีบาวด์ต่อเนื่อง 2 วัน ยังให้ติดตามที่ 1283/1293 หากยืนเหนือได้จึงจะกลับมาเป็นบวก หากยังยืนไม่ได้ยังแกว่งพักตัว การลงมีแนวรับที่ไม่ควรลงหลุดต่ำกว่าที่ 1278/1270 ต่ำกว่าจะลงรอบใหม่

 

 

ประเด็นสำคัญ
• วานนี้มีการเปิดนโยบายรัฐบาลซึ่งจะแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 29 ก.ย. นี้ ซึ่งจะแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ 5 ด้านใน 4 เดือน 1) เศรษฐกิจ 2) ความมั่นคง 3) สังคม 4) ภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ 5) การบริหารภาครัฐ การปฏิรูปกฎหมาย ในด้านเศรษฐกิจ เรามองว่า คนละครึ่งพลัสจะเป็นโครงการแรกที่ออกมาเพื่อกระตุ้น ศก. ระยะสั้น โดย รมว. คลังเตรียมเสนอที่ประชุม ครม. ช่วงกลาง ต.ค. นี้ ซึ่งจะเป็น Sentiment บวกโดยตรงต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก (CPAXT CPALL BJC TNP) และกลุ่มสินค้าบริโภคอย่างเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) โดยเราประเมินหากคนละครึ่งใช้งบราว 3-5 หมื่น ลบ. จะช่วยกระตุ้น GDP ได้ราว 0.13%
• รมว. คมนาคมเผยยุตินโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายและจะไม่ต่ออายุสำหรับรถไฟฟ้าสายสีแดงและม่วงที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย. นี้ แต่เตรียมแพ็กเกจลดค่าครองชีพด้านการเดินทางที่ครอบคลุมมากขึ้นทดแทนนโบบายเดินที่รัฐต้องชดเชยกว่า 2 หมื่นลบ. ต่อปี
• นายกฯ นำทีมเศรษฐกิจหารือกับ FETCO เดินหน้านโยบายส่งเสริมความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่องตลาดทุนไทย ยกเลิกกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคแทนการออกกฎหมายใหม่ซึ่งจะใช้เวลานาน
• GDP 2Q68 สหรัฐฯ ขยายตัว 3.8%QoQ สูงกว่าตลาดคาดและพลิกฟื้นตัวจากไตรมาสก่อนที่หดตัว หนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว 2.5%QoQ และการลงทุนธุรกิจเร่งขึ้น 7.3%QoQ ตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยี ขณะที่การนำเข้าหดตัวมากถึง 29.8%QoQ จากไตรมาสก่อนที่ได้เร่งนำเข้าไปแล้ว
• สหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีนำเข้ายามีสิทธิบัตรจากต่างประเทศ 100% มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้ เว้นแต่บริษัทยาเหล่านั้นจะมีโรงงานผลิตหรือเริ่มก่อสร้างในสหรัฐฯ

 

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐานหรือแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ ปัจจัยในประเทศยังอยู่ระหว่างรอติดตามแผนการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะมีผลต่อการเรียกความเชื่อมั่นการลงทุนให้ฟื้นตัวและการไหลเข้าของ Fund Flow ในระยะถัดไป ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ PMI และ PCE ซึ่งหากออกมาแย่กว่าตลาดคาด จะมีผลต่อการพิจารณาตัดสินใจเร่งลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในระยะถัดไป อย่างไรก็ดีมอง SET เริ่มมี Upside จำกัดและอาจชะลอการขึ้นสั้นบ้าง หลังดัชนีปรับขึ้น 19% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ Downside ยังจำกัดเช่นกัน หลังเริ่มเห็น Fund Flow ชะลอการขาย ประเมิน SET มีแนวต้านบริเวณ 1320 และมีแนวรับ 1270 ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1278/1270– 1293/1300

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET จะพักฐานหลังตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ ในประเทศติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลและมาตรการกระตุ้น ศก. ส่วนต่างประเทศติดตามตัวเลข ศก. สำคัญของสหรัฐฯ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากสถานการณ์น้ำท่วมในไทย แนะนำ TASCO BJC HMPRO GLOBAL เนื่องจากจากสถิติระหว่างปี 2558-2567 (ยกเว้นปี 2563 ที่เกิดวิกฤตโควิด-19) พบว่าราคาหุ้นจะปรับขึ้นได้ดีเมื่อซื้อลงทุนช่วงกลาง ก.ย. และไปขายต้น พ.ย. โดยคาดหวังได้ผลตอบแทนสูงสุดเฉลี่ยราว 2.6% และ 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภค ท่องเที่ยวและการลงทุน แนะนำ กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL TNP) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG OSP HTC ICHI) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA WHA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)


Daily Top Picks
CENTEL: มีปัจจัยกระตุ้นจากแจ้งลงทุนโรงแรมเพิ่มใน Centara Life Osaka ซึ่งคาดจะได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตฯ ท่องเที่ยวญี่ปุ่น และคาดได้อานิสงส์เพิ่มจากมาตรการกระตุ้น ศก. ระยะสั้นผ่านการบริโภคและท่องเที่ยวของรัฐบาลใหม่ ส่วน 3Q68-1Q69 คาดกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง QoQ ราคาเป้าหมายระยะสั้น 34 บาท

PTT: มีปัจจัยกระตุ้นจากเรื่อง Asset Monetization ที่ทยอยมีความชัดเจน และยังมีเงินปันผลจ่ายระหว่างกาลหุ้นละ 0.90 บาท (XD 1 ต.ค.) คิดเป็นให้ Div. Yield ใน 1H68 ราว 2.7% หนุนให้ระยะสั้นราคาหุ้นมี Downside จำกัด ส่วน 3Q68 คาดกำไรจะฟื้นตัวจากธุรกิจ P&R และธุรกิจ E&PPTT ดีขึ้น ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้น 34.50 บาท

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

ยืนได้ By : แม่มดน้อย

ง แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เห็นหุ้นไทย เห็นดัชนีฯยังยืนได้ เห็นวานนี้ ต่างชาติซื้อหุ้น เชื่อว่า บ่ายวันนี้ บรรยากาศ...

'เวฟ บีซีจี' ควง 'พีทีจี' รับรางวัล 'Premium T-VER Award' จาก อบก. ตอกย้ำความมุ่งมั่นผู้นำและพัฒนา สร้างคาร์บอนเครดิตระดับสากล

'เวฟ บีซีจี' ควง 'พีทีจี' รับรางวัล 'Premium T-VER Award' จาก อบก.ตอกย้ำความมุ่งมั่นผู้นำและพัฒนา สร้างคาร์บอนเครดิตร

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้