วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน โดยในช่วงเปิดตลาดดัชนีปรับตัวขึ้น จากแรงซื้อหนุนในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้รับ Sentiment เชิงบวกจากหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐปรับตัวขึ้น ขณะที่ Fund Flowที่ไหลออก เป็นปัจจัยกดดันดัชนี มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก อาหาร และไอซีที ส่งผลให้ดัชนีSET Index ปิดตลาดที่ 1,273.20 จุด -9.34 จุด -0.73% มูลค่าการซื้อขาย 40,147.95 ลบ. ProgramTrading -1,241.61 ลบ. ต่างชาติ-930.83 ลบ. TFEX +5,303 สัญญา ตราสารหนี้–1,612.37 ลบ

ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ หรือ +1.81% ปิดที่63.41 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากมีรายงานว่าแผนการส่งออกน้ำมันจากภูมิภาคเคอร์ดิสถานของอิรักหยุดชะงักลง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันโลกล้นตลาด
+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.6 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนจากระดับ 54.6 ในเดือนส.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อสินค้าใหม่ แต่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่า FED จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ย
+ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ ในระหว่างการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศของสหประชาชาติ (UN) ว่าด้วยการยุติปัญหาปาเลสไตน์อย่างสันติและการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ
+ ททท.เปิดตัวโครงการ "Nihao Month" (หนีห่าว มันธ์) " ในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันชาติจีน (Golden Week) ซึ่งตรงกับวันที่ 1-8 ต.ค.2568
จัดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2568 และคาดว่าจะมีการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นเนื่องจากตรงกับวันหยุดเทศกาลไหว้พระจันทร์
+/- เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า ราคาสินทรัพย์ซึ่งรวมถึงหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ กำลังอยู่ในระดับสูงเนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นว่าคณะกรรมการ FOMC จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและหลังจากที่ FOMC ตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในวันที่ 17 ก.ย.ตลาดหุ้นยังคงพุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 88.76 จุด หรือ -0.19% หลังจากนักลงทุนประเมินถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า FEDจำเป็นต้องพิจารณาทั้งในเรื่องความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่อ่อนแอลงในการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยในวันข้างหน้า
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ จะยกเลิกการประชุม กับแกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส เพียงไม่กี่วันก่อนที่รัฐบาลสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะชัตดาวน์
- ธปท. เปิดเผยว่าปัจจัยที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเป็นเพราะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงซึ่งนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ถึงปัจจุบันอ่อนค่าลงกว่า 10% เนื่องจากมีการคาดการว่าธนาคารกลางสหรัฐจะดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายส่งผลให้สกุลเงินภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับแข็งค่าขึ้น
- ส.อ.ท. เปิดเผยว่ายอดผลิตรถยนต์เดือน ส.ค.2568 อยู่ที่ 112,366 คัน ลดลง6.11%YoY จากการผลิตเพื่อส่งออกที่ลดลง 10.67% ผลิตได้ 73,956 คัน

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังอยู่ในช่วงพักฐาน โดยมีแรงกดดันจากการที่ประธานธนาคารเฟด กล่าวว่า ราคาสินทรัพย์ ซึ่งรวมถึงหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงอื่น ๆ กำลังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องจับตานโยบายรัฐบาล ที่จะแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภาอย่างใกล้ชิด คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,265-1,280 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
- กระทรวงการคลังพร้อมเดินหน้าโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP
-ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KK MOTHER