AT THE OPEN (#ATO)

SET Index พักรอปัจจัยใหม่ขับเคลื่อน
กลยุทธ์เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

Market Strategy
SET Index คาดสร้างฐานตามกรอบ 1260-1280 จุด ตลาดยังรอปัจจัยขับเคลื่อนใหม่ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นของรัฐบาล ส่วนวันนี้ติดตามยอดส่งออกเดือน ส.ค. ของไทยคาดขยายตัว 7%YoY หุ้นเด่นเลือก SAWAD และ CKP

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ปรับลงทุกดัชนี นำโดย NASDAQ -1% S&P500 -0.6% และ Dow Jones -0.2% จากแรงขายทำกำไรหลังจากวานนี้ความเห็นของประธาน FED ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ในสหรัฐฯ ที่เผชิญความท้าทาย เนื่องจากตลาดแรงงานที่อ่อนแอสวนทางกับเงินเฟ้อฯ ที่ยังทรงตัวระดับสูง และไม่ได้มีการส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยฯ ในเดือน ต.ค. แต่อย่างใด โดยหุ้นที่ถูกกดดันหลักเป็นหุ้นในกลุ่มเทคฯ จึงอาจสร้าง Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มอิเล็คฯ บ้านเราในวันนี้ โดยเฉพาะ DELTA ที่เรายังคงมุมมองราคาหุ้นในช่วงที่เหลือของเดือนนี้ มีความเสี่ยงถูกแรงกดดันจากการปรับลดน้ำหนักในดัชนี SET50 ตามเกณฑ์ Market Cap Weight 10% โดยทุกๆ 1% ของราคา DELTA ที่เปลี่ยนแปลงจะกระทบกับ SET Index ราว 1.6 จุด

ด้านปัจจัยในประเทศวันนี้นายกฯ อนุทิน จะนำ ครม. เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณและเตรียมประชุม ครม. นัดแรก ซึ่งหนึ่งในประเด็นที่หารือคือการรับรองร่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภาฯ โดยสิ่งที่เราให้น้ำหนักประเด็นนี้มี 2 ส่วน 1) รายละเอียดของมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลขับเคลื่อน โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นระยะสั้น นอกเหนือไปจากมาตรการคนละครึ่ง 2) วันที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะหากเกิดขึ้นภายในเดือน ก.ย. ก็อาจมีโอกาสที่พิจารณานำงบกลางเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินที่เหลืออยู่ในงบปี 68 วงเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท มาใช้เพิ่มเติม หากเกิดขึ้น ถือเป็นการเปิดโอกาสต่อมาตรการกระตุ้นอื่นๆ ในอนาคต เรามองเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Domestic Consumption อย่างกลุ่มค้าปลีก CPAXT กลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD MTC เป็นต้น

Market Summary
SET Index ปรับลงต่อเป็นวันที่ 5 อีก -9 จุด หรือ -0.7% จากแรงขายทำกำไรของสถาบันฯ และต่างชาติ ส่งผลต่อการปรับลงกระจายในหลายอุตสาหกรรม โดยกลุ่มที่กดดันตลาดหลักๆ มาจากกลุ่มพลังงาน -1.6% ค้าปลีก -2% กลุ่ม ICT -1.6% ด้านกลุ่มที่ปรับขึ้นมีเพียงกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ +3.2% หนุนหลักจาก DELTA +3.4% ได้ Sentiment บวกจาก NVIDIA ลงทุน 1 แสนล้านเหรียญฯ ใน OPENAI เพื่อสร้าง Data Center ส่วนกลุ่มอื่นๆ กลุุ่ม REITs +0.6% WHART +1.6% CPNREIT +0.9% BAREIT +0.5%

DAILY Stock Pick
SAWAD
แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
และปันผลระหว่างกาล
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 31.00 บาท
เชื่อว่าราคาหุ้นระยะสั้นได้ 2 ปัจจัยหนุน 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาลที่เน้นแก้ปัญหาปากท้อง 2) วานนี้มีการประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็น เงินสดเป็นครั้งแรกที่ 0.35 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 ต.ค.68 โดยทั้งปี 68 เราคาดจ่ายปันผลอยู่ที่ 1.15 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield 3.9% ต่อปี
ในเชิงปัจจัยพื้นฐาน เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลยุทธ์ในการขยายสินเชื่อจำนำทะเบียน และการลดสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อ (HP) รถจักรยานยนต์ คาดว่าสินเชื่อจะกลับมาเติบโตตั้งแต่ 4Q68 เป็นต้นไป เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์กำลังปรับตัวดีขึ้น

WEEKLY Stock Pick
CKP
2H68 ลานีญาหนุน กอปร Valuation น่าสนใจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.70 บาท
ENSO index ประจำเดือน ก.ย. 68 ปรับเพิ่มโอกาสเกิด ลานีญา ในเดือน ก.ค. - ธ.ค. 68 โดยมีโอกาสเกิดสูงสุดถึง 70% (จาก 50% ในประมาณการเดิม) ในเดือน ธ.ค. 68 ส่งผลให้ปริมาณน้ำมี upside จากปัจจัยดังกล่าว
เราคาดกำไรปี 68 โต 40%YoY โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของโรงไฟฟ้า XPCL หลังจากที่ต้องหยุดดำเนินการไป 17 วันในปี 2567 ในขณะที่ PE ปี 68 อยู่ที่ 13.1 เท่า (-1.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) พร้อมกับเงินปันผล 3.1%

KEY FACTOR
ประธาน Fed กล่าวสุนทรพจน์เน้นย้ำความสมดุลระหว่างความเสี่ยงตลาดแรงงานที่ยังอ่อนแอ กำลังเป็นปัจจัยหลักที่ให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบายการเงิน ตอกย้ำมุมมองดอกเบี้ยที่ผ่อนคลาย เพื่อประคองเสถียรภาพการจ้างงานและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามก็ให้น้ำหนักการควบคุมเงินเฟ้อไม่ให้กลับมาเร่งตัวเช่นกัน ซึ่งโดยรวมทำให้ตลาดยังอยู่บนความคาดหวังดอกเบี้ยขาลง คงมุมมองคาดดอกเบี้ยลงอีก 2 ครั้งในปีนี้ และ 4-5 ครั้ง ในปีหน้า
ภาพรวมการส่งออกไทยเดือน ส.ค. (รายงานวันนี้) มีแนวโน้มชะลอตัวลง โดย Consensus คาดเติบโตเพียง +7.0% YoY (ช่วงประมาณการ 1.0%–12.1%) เทียบกับ +11.0% ในเดือน ก.ค. สะท้อนแรงส่งจาก front loading ก่อนความเสี่ยงสงครามการค้าเริ่มหายไป ขณะที่การนำเข้ากลับเร่งตัวขึ้น +8.2% YoY จาก +5.1% ในเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ว่าภาคการผลิตและการลงทุนยังคงมีแรงขับเคลื่อน แต่ในเชิงดุลการค้าอาจกดดันภาพรวมดุลบัญชีเดินสะพัด และเป็นตัวถ่วงต่อ sentiment เงินบาทในระยะสั้น

EYES ON
23 ก.ย. HCOB PMI ภาคการผลิตและบริการของ Eurozone
24 ก.ย. ส่งออกไทยเดือนส.ค.
25 ก.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ, GDP 2Q68 (รายงานครั้งสุดท้าย) สหรัฐฯ
26 ก.ย. Core PCE สหรัฐฯ

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ