Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยที่ ‘AA(tha)’; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

88

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 12 กันยายน 2568)-------บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศ

ระยะยาวของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ibank) ที่ ‘AA(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1+(tha)’

 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

การสนับสนุนจากรัฐบาลหนุนอันดับเครดิต: อันดับเครดิตของ ibank สะท้อนถึงการที่ฟิทช์ประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลไทย (BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) จะให้การสนับสนุนพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปกติ (extraordinary support) แก่ธนาคาร ในกรณีที่มีความจำเป็น เนื่องจาก ibank มีสถานะเป็นธนาคารรัฐและมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการทางการเงินตามหลักศาสนาอิสลามแก่ลูกค้าในประเทศไทย

 

ประเมินอันดับเครดิตภายในประเทศในเชิงเปรียบเทียบ: อันดับเครดิตของ ibank เป็นการพิจารณาโครงสร้างเครดิตเปรียบเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นในประเทศไทย ทั้งนี้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA(tha)' สะท้อนถึงโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับบริษัทและธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ

 

มีบทบาทเชิงนโยบายที่เฉพาะตัว (unique): ibank ถูกจัดตั้งขึ้นโดยมีกฎหมายเฉพาะรองรับและมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการเงินแก่ประชากรมุสลิมในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายย่อยและกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมทั้งประชากรในจังหวัดภาคใต้ของประเทศไทย ibank เป็นธนาคารแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการทางการเงินตามหลักชะรีอะฮ์และความเชี่ยวชาญดังกล่าวเป็นสิ่งที่ธนาคารอื่นยากที่จะดำเนินการแทนได้

 

โอกาสในการได้รับการสนับสนุนต่ำกว่า: อันดับเครดิตของ ibank อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตของธนาคารรัฐอื่นที่ได้รับการจัดอันดับโดยฟิทช์อยู่ 2 อันดับ สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่าโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารนั้นอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ทั้งนี้สัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังใน ibank ถูกจำกัดไว้ที่ 49% ตามที่กำหนดไว้ใน พรบ. จัดตั้งธนาคาร แม้ข้อจำกัดดังกล่าวได้รับการผ่อนปรนชั่วคราว แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าในระยะยาวสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังน่าจะลดลงกลับไปสู่ระดับเดิมตามเกณฑ์ นอกจากนี้ฟิทช์ยังมองว่าฐานะทางการเงินที่อ่อนแอและขนาดที่ไม่ใหญ่นักของธนาคารยังเป็นปัจจัยจำกัดความสามารถในการดำเนินนโยบายรัฐเมื่อเทียบกับธนาคารรัฐอื่น

 

ผลการดำเนินงานและเงินกองทุนที่อ่อนแอ: สถานะส่วนของผู้ถือหุ้นของธนาคารยังคงเป็นลบ โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่ -3.4% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 (สิ้นปี 2567: -3.7%) อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะยังไม่สามารถแก้ไขได้ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า และจะยังคงส่งผลต่อแนวโน้มการเติบโตของธนาคาร ผลประกอบการโดยรวมยังคงอ่อนแอต่อเนื่อง โดยธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ 0.7% ในครึ่งแรกของปี 2568 (ปี 2567: 0.7%, ปี 2566: 0.3%) ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรภายในอยู่ในระดับต่ำ

 

ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างมาก: แม้ฐานะเงินกองทุนของ ibank จะยังคงอ่อนแอ แต่ธนาคารได้รับการผ่อนผันด้านเกณฑ์การดำรงอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำและยังคงสามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ สถานะของธนาคารในฐานะธนาคารรัฐเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนความแข็งแกร่งของเครื่อขายธุรกิจด้านเงินฝากและความสามารถในการระดมเงินทุนของธนาคาร นอกจากนี้ภาครัฐยังมีประวัติในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ ibank โดยในช่วงที่ธนาคารเผชิญปัญหาทางการเงินอย่างมากในช่วงปี 2560-2561 กระทรวงการคลังได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน ibank ขึ้นเป็น 99.6% จากเดิมต่ำกว่า 50% และได้โอนสินเชื่อด้อยคุณภาพส่วนใหญ่ของธนาคารไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ

 

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ ibank ได้ หากโอกาสที่รัฐบาลจะให้การช่วยเหลือสนับสนุนแก่ธนาคารมีการปรับตัวลดลง ตัวอย่างเช่น  หากมีการเปลี่ยนแปลงสถานะทางกฎหมายของธนาคารจากการเป็นธนาคารรัฐ หรือ การลดลงของระดับความสัมพันธ์กับรัฐบาลและอำนาจในการควบคุมการดำเนินงานของรัฐ หรือการคาดว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ ibank ในระดับที่ลดลง

 

การปรับตัวลดลงของความสามารถของรัฐบาลในการสนับสนุนระบบการเงิน ซึ่งอาจสะท้อนได้จากการปรับลดอันดับเครดิตของประเทศไทย อาจส่งผลให้มีการทบทวนโอกาสที่ ibank จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเทียบกับธนาคารอื่นในประเทศ พร้อมกันนี้การปรับลดอันดับเครดิตจะพิจารณาเปรียบเทียบกับโครงสร้างเครดิตของสถาบันการเงินไทยรายอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศอาจเกิดขึ้นได้ หากฟิทช์มองว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นของโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ ibank เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้ ในกรณีเช่น ฟิทช์ประเมินว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะให้ ibank ยังคงมีบทบาทเพิ่มขึ้นในเชิงกลยุทธ์ในระยะยาว นอกจากนี้หากธนาคารมีความสามารถในการสนับสนุนนโยบายรัฐเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็น่าจะส่งผลในเชิงบวกต่ออันดับเครดิตได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนอันดับเครดิตก็จะต้องพิจารณาเปรียบเทียบกับบริษัทและธนาคารอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วยเช่นกัน 

 

แหล่งข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิต

แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการประเมินอันดับเครดิตมีรายละเอียดเปิดเผยอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้องของฟิทช์

 

อันดับเครดิตที่เชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น

อันดับเครดิตของ ibank มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างเครดิตของประเทศไทย

 

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังนี้

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว คงอันดับที่ ‘AA(tha)’; ‘แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ’

- อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น คงอันดับที่ ‘F1+(tha)’

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้