Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตสากลของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยที่ ‘BBB+’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

97

 

 

ฟิทช์ เรทติ้งส์ – กรุงเทพฯ/สิงค์โปร์ – 12 กันยายน 2568: บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating หรือ IDR) ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) ที่ ‘BBB+’ และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ  สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย

 

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

 

อันดับเครดิตอยู่ในระดับเดียวกันกับรัฐบาล: อันดับเครดิตของ EXIM มีปัจจัยสนับสนุนจากอันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาล (Government Support Rating หรือ GSR) และอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวและระยะสั้นของธนาคารอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของรัฐบาลไทย ซึ่งสะท้อนมุมมองของฟิทช์ว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนเป็นกรณีพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปรกติแก่ EXIM เนื่องจากบทบาทของธนาคารในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล การมีรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมด และการคุ้มครองเจ้าหนี้โดยนัยเนื่องจากสถานะทางกฎหมายของธนาคารที่เป็นธนาคารรัฐ ทั้งนี้ฟิทช์ไม่ได้ให้อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (Viability Rating) แก่ธนาคาร เนื่องจากการประเมินความแข็งแกร่งทางการเงินเฉพาะของตัวธนาคารเองอาจไม่ได้มีนัยสำคัญมากนักเมื่อเทียบกับบทบาทของ EXIM ในฐานะธนาคารรัฐ

 

อันดับเครดิตสูงที่สุดสำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศ: อันดับเครดิตภายในประเทศของ EXIM คำนึงถึงโครงสร้างเครดิตของธนาคารเมื่อเปรียบเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับภายในประเทศเช่นกัน อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ EXIM ที่ ‘AAA(tha)’ สะท้อนถึงโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับผู้ออกตราสารรายอื่นในประเทศไทย

 

มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายรัฐบาล: EXIM มีบทบาทเชิงนโยบายมายาวนานในฐานะสถาบันการเงินที่ให้บริการทางการเงินและส่งเสริมกิจกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศของไทย ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติการก่อตั้งของธนาคาร EXIM ให้บริการทางการเงินและบริการธุรกรรมธนาคารที่หลากหลายเพื่อสนับสนุนผู้ส่งออกและภาคธุรกิจของไทย ซึ่งรวมถึงการให้วงเงินสินเชื่อและการค้ำประกันเครดิต อีกทั้ง EXIM ยังเป็นธนาคารรัฐเพียงแห่งเดียวในประเทศที่ให้บริการประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ

 

 

 

 

รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นในระยะยาว: ฟิทช์พิจารณาว่าการที่รัฐบาลถือหุ้นทั้งหมดใน นั้นเป็นไปในเชิงกลยุทธ์และไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากพระราชบัญญัติจัดตั้งของ EXIM ที่กำหนดให้มีการกำกับดูแลและควบคุมการดำเนินงานโดยรัฐบาล ทั้งนี้คณะกรรมการธนาคารประกอบด้วยผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์ อีกทั้งรัฐบาลยังได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อ EXIM จากการเพิ่มทุนให้ธนาคารเมื่อในปี 2564 และ 2566 อีกด้วย

 

รัฐบาลสนับสนุนเงินกองทุน: แม้ธนาคารจะได้รับการเพิ่มทุนมาแล้วเมื่อไม่นานนัก แต่อัตราส่วนเงินกองทุน (capital adequacy ratio: CAR) ของ EXIM ได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 12.2% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 จาก 15.1% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2562 เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นมาก อย่างไรก็ดี การเติบโตของสินเชื่อของธนาคารยังคงสอดคล้องกับวัตถุประสงค์เชิงนโยบาย ทั้งนี้อัตราส่วนเงินกองทุนของธนาคารยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 8.5% อยู่มาก และฟิทช์คาดว่าน่าจะมีการเพิ่มทุนให้แก่ธนาคารเพิ่มเติมอีกในระยะปานกลาง ในกรณีที่มีความจำเป็น

 

ความเชื่อมโยงกับรัฐบาลช่วยสนับสนุนความสามารถในการระดมทุน: ฟิทช์มองว่าความเสี่ยงด้านการรีไฟแนนซ์ของ EXIM อยู่ในระดับต่ำ และคาดว่าภาครัฐน่าจะยังคงให้การสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ธนาคารเพื่อเอื้อต่อการเติบโต ธนาคารไม่รับเงินฝากจากลูกค้ารายย่อยและมีอัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ 234% ส่งผลให้ต้องพึ่งพาแหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมเจ้าหนี้รายใหญ่และตลาดตราสารหนี้ในระดับสูง (wholesale funding) ทั้งนี้ด้วยสถานะของ EXIM ที่เสมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล นั้นเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนความสามารถในการระดมทุน และเปิดโอกาสให้ธนาคารสามารถกระจายแหล่งเงินทุนผ่านการออกตราสารหนี้ทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศได้ดีขึ้น

 

นอกจากนี้พระราชบัญญัติจัดตั้งธนาคารยังอนุญาตให้ EXIM สามารถขอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันหนี้ได้สูงสุดไม่เกิน 12 เท่าของส่วนของผู้ถือหุ้นของธนาคาร แม้ว่ายังไม่เคยมีการใช้การค้ำประกันดังกล่าวเนื่องจากธนาคารยังคงมีสถานะการเงินที่มั่นคง แต่ข้อกำหนดนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงในด้านการระดมทุนได้

 

ยังคงมีแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่อเนื่อง: ลูกหนี้ของ EXIM ครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบการรายเล็กที่ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไป จึงอาจจะมีความเปราะบางมากกว่าต่อความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจมหภาค อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมของ EXIM ทรงตัวในระดับสูงที่ 3.8% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 สะท้อนถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง และฟิทช์คาดว่าธนาคารจะยังคงต้องเผชิญแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่อไปในปี 2568 อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ถูกชดเชยบางส่วนด้วยอัตราส่วนเงินสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ 258%  ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสามารถของ EXIM ในการรองรับความเสียหายจากการปรับตัวด้อยลงของคุณภาพสินทรัพย์

 

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การเปลี่ยนแปลงในเชิงลบของอันดับเครดิตของประเทศไทยน่าจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่ออันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ EXIM อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าอันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการให้การสนับสนุนของรัฐบาล เนื่องจาก EXIM น่าจะยังคงถูกมองว่าเป็นอันดับเครดิตที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศ ตราบใดที่อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลยังอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตของประเทศไทย

 

อันดับเครดิตของ EXIM อาจถูกกดดันได้ หากฟิทช์ประเมินว่าโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารมีการปรับตัวลดลง ซึ่งอาจแสดงได้จากการลดสัดส่วนการถือหุ้นของรัฐบาลอย่างมีนัยสำคัญ ความเชื่อมโยงกับภาครัฐที่ลดลง หรือหากธนาคารถูกยกเลิกสถานะการเป็นธนาคารรัฐ แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าการไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารในระยะปานกลาง

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทยจะส่งผลให้อันดับเครดิตสนับสนุนจากรัฐบาลและอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ EXIM ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน ในกรณีที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงสมมติฐานในด้านการสนับสนุนจากรัฐบาล อย่างไรก็ตามอันดับเครดิตภายในประเทศของ EXIM ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับ เนื่องจากเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว

 

อันดับเครดิตอื่นและอันดับเครดิตหุ้นกู้

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

พันธบัตรสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ของ EXIM ได้รับการจัดอันดับในระดับเดียวกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคาร ขณะที่โครงการพันธบัตร (MTN Programme) สกุลเงินบาท และพันธบัตรสกุลเงินบาทของ EXIM ได้รับการจัดอันดับในระดับเดียวกับอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ทั้งนี้ เนื่องจากตราสารดังกล่าวเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

 

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตของพันธบัตรไม่ด้อยสิทธิของ EXIM อาจได้รับการปรับลดอันดับหากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว และ อันดับเครดิตภายในประเทศของธนาคารถูกปรับลดอันดับ

 

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวจะส่งผลไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของพันธบัตรไม่ด้อยสิทธิของธนาคาร

 

อันดับเครดิตภายในประเทศของโครงการพันธบัตรหรือพันธบัตรไม่ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทของ EXIM ไม่มีโอกาสที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิต เนื่องจากเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุดแล้ว

 

แหล่งข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิต

แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการประเมินอันดับเครดิตมีรายละเอียดเปิดเผยอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

ของฟิทช์

 

อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น

อันดับของ EXIM มีความเชื่อมโยงกับโครงสร้างอันดับเครดิตของประเทศไทย

 

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

ระดับคะแนนที่สูงที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต (หากมีการเปิดเผย) แสดงว่าระดับคะแนนจะอยู่ที่ระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร

 

ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม ระดับคะแนน ESG ของฟิทช์ไม่ได้เป็นปัจจัยหนึ่งของกระบวนการพิจารณาอันดับเครดิต ระดับคะแนน ESG เป็นการคาดการณ์ถึงความเกี่ยวข้องและความสำคัญของระดับคะแนน ESG ที่อาจจะมีผลต่อการพิจารณาอันดับเครดิต สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมหาได้จาก https://www.fitchratings.com/topics/esg/products#esg-relevance-scores.

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

หวังเฟดลดดอกเบี้ยฯ /โฉมหน้ารัฐบาลใหม่ By : แม่มดน้อย

โอมมะลึกกึ๊กกึ๋ยย์ มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์มะลึกกึ๊กกึ๋ยย์.........เพี้ยงแม่มดน้อย ใช้ลูกแก้ววิเศษ ส่อง SET เช้าที่ผ่านมา ....

สู้ชีวิตกันต่อไป By : เจ๊มดแดง

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ บนความหวัง เฟด ลดดอกเบี้ย ในสัปดาห์หน้า วงจรดอกเบี้ยขาลง นับเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย .....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้