Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เอเซีย พลัส : Market Talk

121

 

คัดสรรหุ้น 3 กลุ่ม รับ LIQUIDY DRIVEN

 

HORIZON MARKET VIEW
• วานนี้ สหรัฐฯ เผยตัวเลขเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค. 68 หดตัว -0.1%MOM และขยายตัว +2.6%YOY ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาด
• เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างเงินเฟ้อ PPI และ CPI ของสหรัฐฯ มีค่าCORRELATION สูงถึง 0.93 ทำให้คืนนี้มีลุ้นว่าแรงกดดันด้านราคาจากภาคการผลิตที่เริ่มผ่อนคลาย อาจส่งผ่านไปยังเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคเดือน ส.ค. 68 ชะลอตัวลงตาม ทั้งนี้ CONSENSUS คาดการณ์ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 3.1%YOY หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด จะยิ่งหนุนให้วงจรดอกเบี้ยขาลงชัดเจนขึ้น
• อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ที่ยกระดับความรุนแรงขึ้น มักมีผลต่อราคาน้ำมันที่อาจดีดตัวสูงขึ้น

 


REGION RADAR
• ORACLE +35.9% แม้ผลประกอบการต่ำคาด แต่ OUTLOOKแข็งแกร่ง โดยมูลค่าการทำสัญญา (RPO) เพิ่มขึ้น 360% YOY (สูงกว่าคาด 205%) และบริษัทคาดว่ารายได้จากธุรกิจ CLOUDINFRASTRUCTURE ในปีนี้จะอยู่ที่ $1.8 หมื่นล้าน +77% YOY
• TSMC รายงานยอดขายรวมเดือน ส.ค. ที่ 0.335 TRI.TWD +34%YOY ขณะที่ยอดขายรวมในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2025 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2.43 TRI.TWD +37% YOY ซึ่งได้แรงหนุนจากความต้องการชิปที่แข็งแกร่ง แนะนำเก็งกำไร TSMC และ DR TAIWAN19

 

 

SYNAPSE STRATEGY
• หลังการประชุม JACSON HOLE เป็นต้นมา เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงชัด พร้อมกับผลักดันหุ้นขนาดเล็กวิ่งแรงและเร็วสะท้อนจากดัชนี SSET +3.9% ขึ้นแรงกว่าดัชนี SET +2.7%
• กลยุทธ์แนะ 3 กลุ่มหุ้น รับ LIQUIDITY DRIVEN คือ 1. หุ้นแกร่ง(MACD >0) มี FREE FLOAT ต่ำ AAV, BGRIM, CBG, MTC, 2.หุ้นพื้นฐานแถว 2 ยังขึ้นช้ากว่าเพื่อน BDMS, BCH, และ 3. แนะเก็งกำไรหุ้นขนาดย่อมเริ่มขึ้นแรง SINGER, PSL, THCOM, PTG


THAI FOCUS
• ผลการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 เดินหน้าคืนสันติภาพ โดยมีรายละเอียด 4 ข้อตกลงระหว่างกัน คือ 1.การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง 2.การเก็บกู้ทุ่นระเบิด 3.การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ 4.การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน
• หากประเด็นดังกล่าวผ่อนคลาย คาดทำให้การค้าระหว่าง 2 ประเทศดูดีขึ้น เนื่องด้วยไทยมีการเกินดุลการค้ากับกัมพูชามูลค่าเป็นอันดับ2 (เป็นรองเพียงสหรัฐฯ) มีสัดส่วนราว 5.1%


HORIZON MARKET VIEW
สัญญาณดอกเบี้ยขาลงนับวันยิ่งชัดขึ้น....แต่ยังต้องระวังความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์วานนี้ สหรัฐฯ เผยตัวเลขเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต (PPI) เดือน ส.ค. 68 หดตัว -0.1%MOM และขยายตัว +2.6%YOYซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดที่ +0.3%MOM และ +3.3% ตามลำดับ ทำให้ตลาดเพิ่มความคาดหวังที่จะเห็น FED เริ่มลดดอกเบี้ยในรอบการประชุมวันที่ 17 ก.ย. 68 มีน้ำหนักเกิน 90% และในปีนี้อาจเห็น FED ปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง(DOT PLOT คาด 2 ครั้ง)

 

เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างเงินเฟ้อ PPI และ CPIของสหรัฐฯ มีค่า CORRELATION สูงถึง 0.93 ทำให้คืนนี้มีลุ้นว่าแรงกดดันด้านราคาจากภาคการผลิตที่เริ่มผ่อนคลาย อาจส่งผ่านไปยังเงินเฟ้อฝั่งผู้บริโภคเดือน ส.ค.68ชะลอตัวลงตาม ทั้งนี้ CONSENSUS คาดการณ์ว่าจะทรงตัวอยู่ที่ 3.1%YOY หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดจะยิ่งหนุนให้วงจรดอกเบี้ยขาลงชัดเจนขึ้น

นอกจากนี้ จีนยังมีการเผยตัวเลขเงินเฟ้อเช่นกัน โดยตัวเลข CPI ในเดือน ส.ค.68 พลิกลับมาหดตัว -0.4%YOYต่ำกว่าตลาดคาดที่ -0.2%YOY และยังต่ำกว่ากรอบเป้าหมายมากที่ 2% สะท้อนภาวะเงินฝืดยืดเยื้อ ส่งผลให้มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการการคลังเพิ่มเติมเพื่อประคองเศรษฐกิจ

 

ขณะเดียวกัน ยังต้องติดตามความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์ที่ยกระดับความรุนแรงขึ้น มักมีผลต่อราคาน้ำมันที่อาจดีดตัวสูงขึ้น ล่าสุดมี 2 ประเด็นหลัก ได้แก่
▪ โปแลนด์ยิงสกัดโดรนรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าครั้งแรกหลังบุกยูเครน และต่อมาโปแลนด์ร้อง NATO ใช้มาตรา 4 ของสนธิสัญญานาโต พร้อมกับอยู่ระหว่างการหารือกับชาติพันธมิตร เพื่อยกระดับการป้องกันภัยทางอากาศของประเทศ
▪ กองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศในกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ (9 ก.ย. 68) หวังสังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาส โดยไม่สนแม้การ์ต้าจะเป็นพันธมิตรสหรัฐฯ


REGION RADAR
ORACLE +35.9% แม้จะรายงานผลประกอบการต่ำคาด แต่ให้ OUTLOOK แข็งแกร่งมาก
ผลประกอบการไตรมาส 1 ปีบัญชี 2026 บริษัทรายงานรายได้และกำไรออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยรายได้รวมอยู่ที่ $1.49 หมื่นล้าน +12% YOY (ต่ำกว่าคาด 0.7%) ขณะที่ EPS อยู่ที่ $1.47 +6% YOY (ต่ำกว่าคาด 0.7%) อย่างไรก็ตาม HIGHLIGHT ในไตรมาสนี้คือ มูลค่าการทำสัญญา (RPO) เพิ่มขึ้น 360% YOY (สูงกว่าคาด 205%) นอกจากนี้ บริษัทคาดว่ารายได้จากธุรกิจ CLOUD INFRASTRUCTURE ในปีนี้จะอยู่ที่ $1.8หมื่นล้าน +77% YOY การปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงของหุ้น ORACLE วานนี้ ส่งผลให้ LARRY ELISON ซึ่งเป็นCO-FOUNDER ของบริษัท กลายมาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกแซงหน้า ELON MUSK ไปเป็นที่เรียบร้อย

 

TSMC รายงานยอดขายในเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 34%
TSMC รายงานยอดขายรวมในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 3.35 แสนล้านดอลลาร์ไต้หวัน +34% YOY และเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 3.9% ขณะที่ยอดขายรวมในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2025 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2.43 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน +37% YOY ซึ่งได้แรงหนุนจากความต้องการชิปที่แข็งแกร่ง โดยลุกค้าหลักของ TSMC อาทิAPPLE,NVIDIA และ AMD


จากตัวเลขยอดขายรายเดือน ก.ค. และ ส.ค. ของ TSMC ที่ออกมาแข็งแกร่ง ส่งผลให้แนวโน้มในไตรมาส 3 คาดผลประกอบการจะเติบโตต่อเนื่อง แนะนำเข้าเก็งกำไรในหุ้น TSMC (TSM US) และ DR TAIWAN19 เนื่องจาก DR ตัวนี้มีการลงทุนใน TAIWAN TOP 50 ETF ซึ่ง ETF นี้มีสัดส่วนการถือครอง TSMC กว่า 58%

 

THAI FOCUS
ไทย-กัมพูชา มีแนวโน้มผ่อนคลายลง ... มีประโยชน์กับสินค้าตัวไหนบ้าง
ความขัดแย้งระหว่างทั้ง 2 ประเทศบริเวณชายแดน และเข้มข้นที่สุดในรอบกว่า 10 ปี ตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.68 ได้มีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1เดินหน้าคืนสันติภาพ โดยมีรายละเอียด 4 ข้อตกลงระหว่างกัน ดังนี้ 1.การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูง ออกจากพื้นที่ชายแดนกลับสู่ที่ตั้งปกติ2.การเก็บกู้ทุ่นระเบิด 3.การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ 4.การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน ซึ่งต้องติตตามหลังจากนี้ว่ากัมพูชาจะลเมิดข้อตกลงหรือไม่ สำหรับการประชุม GBC สมัยพิเศษครั้งต่อไป จะกำหนดให้เกิดขึ้นภายใน 30 วันหลังจากนี้ โดยมีฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งคาดว่าทั้ง 2 ประเทศ จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้โดยสันติวิธีและกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้งซึ่งหากประเด็นดังกล่าวผ่อนคลาย คาดทำให้การค้าระหว่าง 2 ประเทศดูดีขึ้น และหนุน GDP ไทยอย่างมีนัยฯเนื่องด้วยไทยมีการเกินดุลการค้ากับกัมพูชามูลค่าเป็นอันดับ 2 (เป็นรองเพียงสหรัฐฯ) มีสัดส่วนราว 5.1%

 

ซึ่งหากพิจารณา 10 สินค้าที่มีมูลค่าส่งออกสูงสุดจากไทยไปกัมพูชา คือ อัญมณี/เครื่องประดับ น้ำตาลทรายอุปกรณ์รถยนต์ เครื่องจักรกล ผลิตภัณฑ์รักษาผิว เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ และแผงวงจร เป็นต้น ซึ่งหุ้นที่น่าจะได้รับSENTIMENT เชิงบวก(แม้อาจมีสัดส่วนรายได้จากกัมพูชาน้อย) อาทิ KSL SAT OSP CBG DELTA KCE

 

SYNAPSE STRATEGY
คัดสรร 3 กลุ่มหุ้นมีโอกาสรับ LIQUIDITY ซิ่งแรงแกว่าตลาด
หลังการประชุม JACSON HOLE เป็นต้นมา (ช่วง 20 ส.ค. – 9 ก.ย. 68) เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงชัดเจนพร้อมกับผลักดันหุ้นขนาดเล็กวิ่งแรงและเร็วกว่าหุ้นใหญ่ สะท้อนจากตลาดหุ้นสหรัฐดัชนี S&P 600 SMALL+3% ขึ้นแรงกว่า S&P500 ที่ +2.5% เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย ดัชนีSSET +3.9% ขึ้นแรงกว่าดัชนี SET +2.7%

 

กลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัยทำการคัดสรรหุ้น 3 กลุ่ม รับ LIQUIDITY DRIVEN หวังจะ OUTPERFORM SETINDEX ได้ในช่วงต่อจากนี้ คือ
▪ หุ้นแกร่ง มี FREE FLOAT ต่ำ ถ้ามีเม็ดเงินไหลเข้าต่อเนื่องก็ยังมีโอกาสขึ้นได้แรงกว่าตลาดได้
O เงื่อนไข -> มี FREE FLOAT < 30% และ มี MACD > 0
O ผลลัพธ์แนะนำ AAV, BGRIM, CBG, MTC


▪ หุ้นพื้นฐานแถว 2 ยังขึ้นช้ากว่าเพื่อน ทั้งในระยะสั้นและยาว
O เงื่อนไข -> ผลตอบแทนหุ้น YTD < SET และ ผลตอบแทนหุ้นจากจุดต่ำสุดปีนี้ถึงปัจจุบันยังฟื้นน้อยกว่า SET
O ผลลัพธ์แนะนำ BDMS, BCH, CPALL

▪ แนะเก็งกำไรหุ้นขนาดย่อม (ในดัชนี SSET) เริ่มขึ้นแรง
O เงื่อนไข -> เลือกหุ้นใน SSET ที่ขึ้นมาเด่นในเดือนนี้ (MTD)
O ผลลัพธ์แนะนำ SINGER, PSL, THCOM, ASK, PTG

 


Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

พลังเทพ By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ SET พุ่งทะลุ 1,290 จุด ด้วยหุ้นพลังเทพ สูตรเดิม หุ้นใหญ่ไม่กี่ตัว บนความหวัง 1,300 จุด ..

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : อัพเดทกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : อัพเดทกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้