Market Wrap-Up

• SET วันที่ 10 ก.ย.68 ปิด +1.97 จุด อยู่ที่ 1,278.05 จุด มูลค่าการซื้อขาย 42,553 ลบ.รายย่อยซื้อ 1,410 ลบ.สถาบันซื้อ 701 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 311 ลบ. และต่างชาติขาย 1,799 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 214 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น PTT,THAI,DELTA,BBL,PTTEP และยอดขายหุ้น AOT,BDMS,TRUE,BGRIM,CPAXT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,046 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ PTTGC,TU,TPIPP โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 10,194 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 46,580 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,835 ลบ.
• ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.48%, S&P500 +0.30%, Nasdaq +0.03% ได้แรงหนุนจาก Oracle +36% ตอบรับรายได้จากธุรกิจคลาวด์ขยายตัวดี กอปร US PPI ส.ค. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ขณะที่ Apple -3.2% หลังการเปิดตัว Iphone 17 ไม่น่าสนใจ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.02% หลังกลุ่มเทคโนโลยี -1.65%, ท่องเที่ยว -1.4% ขณะที่กลุ่มกลาโหม +1.44% หลังโปแลนด์ยิงสกัดโดรนรัสเซีย
• Market View
• ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดทรงตัว DJIA -0.48% นำโดย Apple -3.2% หลังการเปิดตัวของ Iphone 17 ยังไม่มีฟีดเจอร์ใหม่ ๆ แต่ยังได้แรงหนุนจาก Oracle +36% หลังรายได้จากธุรกิจคลาวด์อยู่ที่ $8 หมื่น ล. +77% สูงกว่าคาดที่ +70% ซึ่งส่งผลบวกไปยังหุ้นกลุ่ม Ai อื่น ๆ ด้วย เช่น Nvidia, Broadcom ขณะที่ข้อมูล US PPI ส.ค. อยู่ที่ 2.6% ต่ำกว่าคาดที่ 3.3% & ก.ค. 3.1% YoY ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 92% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17 ก.ย. และคาดโอกาสลดดอกเบี้ยต่ออีก 2 ครั้งในปีนี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตาม US CPI ส.ค. คาด 2.9% & ก.ค. 2.7% YoY ซึ่งจะบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐ   
• ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิด -0.02% ได้แรงหนุนจากกลุ่มค้าปลีกแฟชั่นของสเปน Inditex +6.4% จากคาดการณ์ยอดขาย ส.ค. – ก.ย. ปรับดีขึ้น ขณะที่กลุ่มอวกาศ & กลาโหม +1.44% หลังโปแลนด์ได้ยิงสกัดโดรนของรัสเซียได้รุกล้ำน่านฟ้าของโปแลนด์ ส่วนประเด็นการเมืองของฝรั่งเศส ปธน.มาครง แต่งตั้งนายเซบาสเตียน เลอกอร์นู เป็นนายก ฯ คนที่ 5 ในรอบไม่ถึง 2 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณปีนี้คาดที่ 5.4% ต่อ GDP ส่งผลให้ Ftich เตรียมทบทวนอันดันเครดิตในวันศุกร์นี้ ส่วนค่ำวันนี้ติดตามผลการประชุม ECB คาดจะคงดอกเบี้ย
• ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.13% หลัง NBS เผย CPI จีน ส.ค. -0.4% หดตัวมากกว่าคา -0.2% YoY ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และ PPI จีน ส.ค. -2.9% YoY หดตัวเป็นเดือนที่ 35 บ่งชี้ภาวะเงินฝืดในจีน ส่วนดัชนีนิเกอิ +0.87% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ & AI นำโดย SoftBank Group Corp. เช่นเดียวกับ Kospi เกาหลีใต้ +1.67% ทำจุดสูงสุดใหม่ หลัง ปธน.อี แจ-มยอง อาจยกเลิกข้อเสนอที่จะปรับลดเกณฑ์การเรียกเก็บภาษีกำไรจากการลงทุนในหุ้น ตามนโยบาย Kospi 5,000 ของเขา
• SET +0.15% ปริมาณการซื้อขาย 2 หมื่น ลบ. รายย่อยซื้อ 1,410 ลบ. สถาบันซื้อ 701 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 311 ลบ. และต่างชาติขาย 1,799 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มปิโตรเคมี +3.07% นำโดย PTTGC ปรับขึ้นรับข่าวการซื้อคืน Dollar Bond มูลค่า 142 ล.ดอลลาร์ ซึ่งคาดจะมีกำไรพิเศษราว 600 – 700 ลบ. และสามารถประหยัดดอกเบี้ยจ่ายได้ปีละ 470 ลบ. ส่งผลบวกต่อแนวโน้มกำไรปีนี้ ขณะที่ IVL +3.8% หลังสหรัฐเตรียมเก็บภาษีตอบโต้การนำเข้าพลาสติก PET ส่งผลบวกต่อโรงงานผลิต PET ของ IVL ในสหรัฐ ส่วนกลุ่มอิเล็ก ฯ ก็ปรับขึ้นนำโดย DELTA +1.72% จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อการประเมินมูลค่าของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี จากดอกเบี้ย Discount Rate มีแนวโน้มลดลง ส่วนปัจจัยในประเทศอยู่ระหว่างรอรายชื่อ ครม.ชุดใหม่ ซึ่งมีชื่อคุณเอกนิติ เป็นว่าที่ รมว.คลัง และคุณศุภจี CEO ดุสิตธานี เป็นว่าที่ รมว.พาณิชย์ ซึ่งเป็นรายชื่อ ครม.คนนอกที่จะเข้ามาบริหารด้านเศรษฐกิจ ส่วนผลการประชุม GBC ไทย – กัมพูชาวานนี้เริ่มมีสัญญาณบวก หลังกัมพูชาเผยจะถอนอาวุธหนัก, เก็บกู้ทุ่นระเบิด, ปราบสแกมเมอร์ และบริหารพื้นที่พิพาท โดยอาจเริ่มจุดผ่านแดนที่มีความเสี่ยงน้อยก่อน โดยภาพรวมนักลงทุนยังรอ ม.กระตุ้นเศรษฐกิจาก ครม.ชุดใหม่    

Daily Strategy

• ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,260 - 1,270 แนวต้าน 1,280 - 1,290 คาดจะได้แรงหนุนจาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ แนะนำซื้อเก็งกำไรกลุ่มค้าปลีก, อุปโภค, ไฟแนนท์ เข่น CPALL,CPAXT,BJC,TNP/ CBG,OSP,ICHI/SAWAD,MTC,TIDLOR,SINGER,AEONTS / SCC,PTTGC,IVL จาก ม.ปรับลดกำลังการผลิตส่วนเกินของจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลีต็ / GPSC,BGRIM คาดได้ประโยชน์จากการปรับสูตรค่าก๊าซอิงต้นทุนอ่าวไทยเป็นราคากลาง
• IVL* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 23.20 บาท) เป็นหุ้นในกลุ่ม China Play มี sentiment บวกจากการความคาดหวังรัฐบาลจีน-อินเดียออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับได้ sentiment บวกจากความพยายามควบคุมกำลังการผลิตส่วนเกินของจีน-เกาหลีใต้-ญี่ปุ่น รวมถึงประเด็นใหม่ที่สหรัฐฯ รวมเม็ดพลาสติก PET เข้าไปในรายการสินค้าที่ถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้มีผล 8 ก.ย.68 ส่งผลบวกต่อธุรกิจของ IVL ในสหรัฐฯ ที่แข่งขันได้ดีขึ้น ในแง่ผลประกอบการแนวโน้ม 2H68 คาดฟื้นตัวได้ HoH โดยปริมาณขายจากธุรกิจ CPET จะเพิ่มขึ้นเพราะผ่านการปิดซ่อมบำรุง ขณะที่ Integrated PET Spread ทยอยฟื้นตัว ส่วนผลประกอบการในปี 68 ตลาดคาดพลิกเป็นกำไรสุทธิ 1 พันล้านบาท จากปี 67 ที่ขาดทุน 1.9 หมื่นล้านบาท หลังผ่านการทำ asset optimization ปิดโรงงานที่ไม่ทำกำไรทำให้ค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง
• GULF* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 61.70 บาท) 2Q68 แม้ตัดกำไรพิเศษจากการควบรวมธุรกิจGULF-INTUCH ราว 5.4 หมื่นลบ.ออกไป กำไรปกติยังสามารถ +YoY +QoQ ได้ มีแรงหนุนจากปริมาณขายไฟที่สูงขึ้น รวมถึงส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจาก ADVANC, และโครงการ Jackson ในสหรัฐฯ ส่วนการดำเนินงานการดำเนินงานปกติในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าจะยังมีปัจจัยบวกต่อเนื่องจาก ADVANC และโรงไฟฟ้า Jackson นอกจากนี้จะมีการ COD โซลาร์ฟาร์ม 5 โครงการ/โซลาร์แบตตเตอร์รี่ 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 597 MW ทั้งนี้ BB Consensus คาดว่าในปี68 และ69 Profit ของ GULF* จะอยู่ที่ 25,803 ลบ. และ 29,151 ลบ.(+13%YoY) ตามลำดับ

 

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ต.ค.+$1.04 อยู่ที่ $63.67 / บาร์เรล, Brent พ.ย. +$1.10 อยู่ที่ $67.49/บาร์เรล หลังเกิดเหตุอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศเป้าหมายสำนักงานของกลุ่มฮามาสในกรุงโดฮา และโปแลนด์ยิงสกัดโดรนของรัสเซียที่รุกล้ำน่านฟ้า ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์สูงขึ้น ขณะที่ EIA รายงานสต็อคน้ำดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.9 ล.บาร์เรล ลดลงมากกว่าที่ 1.9 ล.บาร์เรล

 

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$0.20 อยู่ที่ $3,682.00 /ออนซ์ รอข้อมูล US CPI ส.ค. ก่อนการประชุมเฟดวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% หลังข้อมูลการจ้างงานสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัว

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -136.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -56.52 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -79.09 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -0.72 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.047 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +33 อยู่ที่ 2,112

(+) BitCoin เช้านี้ +2.74% อยู่ที่ 114,057 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที2 สภาธุรกิจตลาดทุนไทย แถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและ

อัพเดตสถานการณ์ลงทุน

ม.หอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค, ดัชนีความเชื่อมั่น

หอการค้าไทย

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

 

ต่างประเทศ

05 ก.ย.     US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)

                US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ( ส.ค.)

10 ก.ย.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ( ส.ค.)

11 ก.ย.     EU การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย (ก.ย.)

EU การแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของธนาคารกลางแห่งยุโรป

US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ( ส.ค.)

US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th