Thailand Food & Beverage
ใครแกร่งที่สุดในช่วงโลว์ซีซัน

ยังเลือก ICHI เป็นหุ้นเด่น
เรายังคงเลือก ICHI เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มเครื่องดื่ม จากยอดขายที่คาดว่าจะฟื้นตัวใน 2H68 และมูลค่าที่น่าสนใจ ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 69 ที่ 12 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ -1SD พร้อมให้อัตราเงินปันผลถึง 9% ขณะเดียวกัน เรายังชอบ CBG จากการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศใน 3Q68 แนวโน้มกำไร 2H68 ที่ยังแข็งแรง และโอกาสเติบโตจากการขยายตลาดต่างประเทศ

ICHI น่าจะทำผลงานเด่นสุดใน 3Q68
แม้อยู่ในช่วงโลว์ซีซันของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม เราคาดว่า ICHI จะมีกำไรหลักแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มเครื่องดื่ม ที่ 364 ล้านบาท (+2% YoY, +17% QoQ) ได้แรงหนุนจากการเติมสต็อกจากร้านค้า และการขยายช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าที่เคยขายเฉพาะใน 7-Eleven ไปยังร้านค้าปลีกอื่น ขณะที่ CBG คาดว่าจะมีกำไร 788 ล้านบาท (+6% YoY, -2% QoQ) จากยอดขายในประเทศและการกระจายสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่โตแกร่ง แต่ถูกหักล้างด้วยยอดขายที่อ่อนแอในกัมพูชา จากความตึงเครียดทางการเมือง ซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวใน 4Q68 เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย ส่วน OSP คาดว่ากำไร 3Q68 จะยังโต YoY จาก GPM ที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง QoQ จากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอตามฤดูกาลในเมียนมา ด้าน SAPPE คาดว่ากำไรยังคงอ่อนแอ จากความต้องการที่ชะลอในตะวันออกกลางและเอเชีย

มาตรการ “คนละครึ่ง” อาจเป็นแรงหนุนเล็กน้อย
รัฐบาลมีแผนกลับมาใช้มาตรการ คนละครึ่ง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในเดือน ต.ค. 68 เรามองว่า ICHI, OSP และ CBG ซึ่งมีการพึ่งพาตลาดในประเทศผ่านช่องทางการค้าดั้งเดิม ค่อนข้างสูง จะได้รับประโยชน์จากมาตรการนี้ โดยเฉพาะ ICHI ที่คาดว่าจะได้อานิสงส์มากที่สุด เนื่องจากพอร์ตสินค้าอย่างชาพร้อมดื่มเหมาะกับการกระตุ้นให้ซื้อซ้ำมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลังของ CBG และ OSP มีข้อจำกัดด้านการบริโภค ซึ่งผู้บริโภคมักดื่มไม่เกินวันละ 2 ขวด

สภาพแวดล้อมธุรกิจเครื่องดื่มจะดีขึ้นในปี 69
เราคาดว่าอากาศร้อนและแห้งมากขึ้นภายใต้ภาวะ Neutral หรือ El Niño (เทียบกับ La Niña ในปี 68) จะช่วยหนุนดีมานด์เครื่องดื่มทั่วโลก โดยเฉพาะในไทยในปี 69 ซึ่งจะเป็นบวกต่อยอดขายในประเทศ เราคาดว่ายอดขายและกำไรของกลุ่มเครื่องดื่มจะเติบโตเฉลี่ย 5.6% และ 9% ตามลำดับ ขณะที่กำไรของ ICHI จะเติบโตโดดเด่นกว่ากลุ่มที่ 11% จากการมีสัดส่วนตลาดในประเทศสูง