สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(10 กันยายน 2568)--------ก.ล.ต. กล่าวโทษบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (ETL) อดีตกรรมการ กรรมการ และบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของ ETL จำนวน 9 ราย ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในความผิดกรณี ETL ปกปิดข้อความจริงเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลก่อนการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งควรบอกให้แจ้งใน “แบบ filing” ในสาระสำคัญ และในความผิดเกี่ยวกับการนำส่งเอกสารที่ปกปิดข้อเท็จจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญต่อ ก.ล.ต.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบพบว่า งบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงินไตรมาสที่ 3 ปี 2566 และงบการเงินประจำปี 2566 ของ ETL ปรากฏข้อมูลว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ETL ครั้งที่ 6/2566 เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2566 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จำนวน 67.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ ETL ณ วันเดียวกับที่ ก.ล.ต. แจ้งผลการอนุญาต IPO และ ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการพิจารณาการมีผลใช้บังคับแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวน (แบบ filing) ก่อนการเสนอขาย IPO

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ETL กลับนำส่งเอกสารรายงานการประชุมของคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 6/2566 โดยปกปิดข้อมูลการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลดังกล่าว ซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นสาระสำคัญที่ ก.ล.ต. ใช้ประกอบการพิจารณาสำหรับการเปิดเผยข้อมูลในแบบ filing ให้ถูกต้องครบถ้วน นอกจากนี้ ยังปกปิดข้อความจริงเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเดือนกันยายน 2566 ในแบบ filing เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันที่แบบ filing ฉบับที่ ETL ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งในสาระสำคัญมีผลใช้บังคับ (effective) ทำให้ข้อมูลในแบบ filing ฉบับดังกล่าวไม่มีการวิเคราะห์ผลกระทบจากการจ่ายเงินปันผลที่ส่งผลให้มูลค่าของ ETL และราคา IPO ไม่สะท้อนกับข้อมูลที่เกิดขึ้นจริง

การกระทำของ ETL ดังกล่าวข้างต้น จึงเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ) ดังนี้

1. ปกปิดข้อความจริงเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลก่อนการ IPO ซึ่งควรบอกให้แจ้งในแบบ filing ในสาระสำคัญ อันเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 278 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และการกระทำความผิดดังกล่าวของ ETL ในขณะเกิดเหตุ เกิดจากการสั่งการหรือไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำของอดีตกรรมการ กรรมการ และบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของ ETL ทั้ง 9 ราย ได้แก่ (1) นายกฤษณะ บุญยะชัย (2) นายวรพจน์ อุชุไพบูลย์วงศ์ (3) นางอารยา คงสุนทร (4) นายชูเดช คงสุนทร (5) นางสาวบุศรินทร์ ต่วนชะเอม (6) นายลี ยิค เชร์ (7) นางสาวกฤชวรรณ ซื้อเจริญชัย (8) นายเจริญเกียรติ หุตะนานันทะ และ (9) นางสาวปิญชาน์ ชัยสาม ซึ่งเป็นผู้ลงนามรับรองความถูกต้องของแบบ filing ฉบับมีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2566 จึงต้องรับโทษตามมาตรา 300 ประกอบมาตรา 278 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ)

2. นำส่งเอกสารรายงานการประชุมคณะกรรมการ ETL ครั้งที่ 6/2566 ฉบับลงวันที่ 11 กันยายน 2566 โดยปกปิดข้อความจริงเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผลของ ETL ซึ่งควรแสดงในสาระสำคัญต่อ ก.ล.ต. อันเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 302/1 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ และการกระทำความผิดดังกล่าวของ ETL ในขณะเกิดเหตุ เกิดจากการสั่งการหรือไม่กระทำการอันเป็นหน้าที่ที่ต้องกระทำของกรรมการรายนายชูเดช และอดีตกรรมการรายนางสาวกฤชวรรณ ซึ่งเป็นบุคคลซึ่งต้องรับผิดชอบในการดำเนินงานของ ETL ที่ลงนามในหนังสือมอบอำนาจของ ETL ให้มีการนำส่งเอกสารดังกล่าวประกอบการพิจารณาของ ก.ล.ต. จึงต้องรับโทษตามมาตรา 300 ประกอบมาตรา 302/1 แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ

ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษ ETL และบุคคลดังกล่าวทั้ง 9 ราย ต่อ บก.ปอศ.

ทั้งนี้ ภายหลังการกล่าวโทษของ ก.ล.ต. กระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาต่อไปเป็นการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ และการพิจารณาของศาลยุติธรรม ตามลำดับ โดย ก.ล.ต. จะติดตามความคืบหน้าในการดำเนินคดี และจะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เพื่อสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ในกระบวนการภายหลัง ก.ล.ต. ได้กล่าวโทษแล้ว