SET ย่อจาก ธ.พ. XD นิดหน่อย แต่ไปต่อได้

HORIZON MARKET VIEW
• ภาพระยะยาว ยังคงวนเวียนอยู่ท่ามกลางความคาดหวังดอกเบี้ยขาลงของ FEDโดยล่าสุดมีสัญญาณปรากฏเพิ่มเติม จากตลาดแรงงานอ่อนแอกว่าที่เคยประเมินไว้จากการจ้างงานในระบบช่วง เม.ย. 2024 – มี.ค. 2025 ลดลง 911,000 ตำแหน่ง
• ภาพระยะสั้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสผันผวน ได้รับแรงกดดันจากความงงงวยเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเพราะผลกระทบมาตรการ TARIFF เพิ่มระดับ
ความกังวลภาวะ STAGFLATION
• นอกจากนี้ DOLLAR INDEX ยังปรับตัวแข็งค่าขึ้นใกล้แตะ 98 จุด คาดมีผลต่อราคาทองคำในระยะสั้น รวมถึงระยะกลางอาจย่อ หลังขึ้นมาแรง ทองขึ้นมาแรงขึ้นมาแรงเป็นเท่าๆ ตัว ทุกปี ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

REGION RADAR
• XPENG รายงานยอดส่งมอบรถยนต์เดือน ส.ค. ทำสถิติใหม่ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 อีกทั้งบริษัทวางแผนเปิดตัวรถยนต์ซีรีส์ MONA ในยุโรปปี 2026 โดยล่าสุดราคาหุ้นอยู่ที่บริเวณแนวรับ แนะนำเข้าทยอยสะสมจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง
• ASML ประกาศลงทุน 1.3 พันล้านยูโรใน MISTRAL AI ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปด้าน AI จากฝรั่งเศส ส่งผลให้ ASML ครองสัดส่วนหุ้นประมาณ 11% และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท

THAI FOCUS
• ศาลฎีกาฯ มีมติให้ทักษิณ ชินวัตร กลับเข้ารับโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปีโดยไม่นำระยะเวลาที่รักษาตัวใน รพ.ตำรวจมาหักล้าง อย่างไรก็ตามไม่กระทบกับการทำงานและเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้แกนนำพรรคภูมิใจไทย และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยฯ
• ส่วนโครงการคนละครึ่งตลอดเฟส 1-5 สามารถกระตุ้น GDP ได้ราว0.2%-0.4% ส่วน “คนละครึ่ง” ครั้งนี้ มีแบบ 60:40 ด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน

SYNAPSE STRATEGY
• วันนี้หุ้น ธ.พ. ถึง 5 บริษัท ขึ้น XD อาทิ BAY 0.4 บาท ,BBL 2 บาท, KBANK 2 บาท, KKP 1.5 บาท, TISCO 2 บาทรวมกดดัน SET1.1 จุด
• หากดูข้อมูลเชิงเทคนิคผ่าน RRG ยังเห็นกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสขึ้นได้เด่น PROP, FIN, COMM, HELTH ซึ่งกลุ่มดังกล่าวได้SENTIMENT ดอกเบี้ยขาลง, นโยบายภาครัฐ และเข้าช่วง HIGHSEASON แนะนำ AP, MTC, CPAXT, CPALL, BCH, BDMS

HORIZON MARKET VIEW
ภาพสั้นจับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ ท่ามกลางการเดินหน้าเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลง
ภาพระยะยาว ยังคงวนเวียนอยู่ท่ามกลางความคาดหวังดอกเบี้ยขาลงของ FED โดยล่าสุดมีสัญญาณปรากฏเพิ่มเติม จากตลาดแรงงานอ่อนแอกว่าที่เคยประเมินไว้ โดยวานนี้ BLS เผยการปรับตัวเลขจ้างงานในระบบช่วงเม.ย. 2024 – มี.ค. 2025 ลดลง 911,000 ตำแหน่ง หรือเฉลี่ย 76,000 ตำแหน่ง/เดือน (ปรับลดครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์) จากเดิมที่เคยรายงานว่า จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านตำแหน่ง หรือเฉลี่ย 149,000 ตำแหน่ง/เดือน

ภาพระยะสั้น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสผันผวน ได้รับแรงกดดันจากความงงงวยเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเพราะผลกระทบมาตรการ TARIFF เพิ่มระดับความกังวลภาวะ STAGFLATION (เงินเฟ้อสูงขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว) โดนคืนนี้รอจับตาการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ PPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค. 68 คาดการณ์ทรงตัวอยู่ที่ +3.1%YOY ส่วนในวันพรุ่งนี้มีรายงงานเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค. 68 คาดการณ์ปรับตัวสูงขึ้นเป็น+2.9%YOY

นอกจากนี้ DOLLAR INDEX ยังปรับตัวแข็งค่าขึ้นใกล้แตะ 98 จุด คาดมีผลต่อราคาทองคำในระยะสั้น ซึ่งมักกลัวเงินเฟ้อ ใน 4 รอบที่ผ่านมา ก่อนประกาศเงินเฟ้อสหรัฐ 1 วัน ทองลงทุกครั้ง และครั้งนี้เงินเฟ้อมีโอกาสสูงขึ้น จากTARIFF เริ่มมีผล ส่วนราคาทองคำในระยะกลางอาจย่อ หลังขึ้นมาแรง ทองขึ้นมาแรง ขึ้นมาแรงเป็นเท่าๆ ตัว ทุกปีตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เช่น ปี 2023 +240 เหรียญ, 2024 +561 เหรียญ และปีนี้ 2025YTD +1009 เหรียญ หรือ38% เป็นต้น แต่ที่ต้องระวัง เวลาทองขึ้นแต่ละปีมักไม่เกิน 30% ในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มผันผวน อาจหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดหุ้น EM เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงได้ในช่วงสั้นๆ

REGION RADAR
XPENG รายงานยอดส่งมอบรถยนต์เดือน ส.ค. ทำสถิติใหม่ยอดส่งมอบรถยนต์ของ
XPENG มีการเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่มีการเปิดตัว MONA M03 เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ล่าสุดตัวเลขยอดส่งมอบรถยนต์ในเดือน ส.ค. อยู่ที่ 3.77 หมื่นคัน +168% YOY ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็นเดือนที่ 2ติดต่อกัน

นอกจากนี้ XPENG วางแผนเปิดตัวรถยนต์ซีรีส์ MONA ในยุโรปปี 2026 เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ราคาถูกที่มีการแข่งขันสูงสู่ตลาดต่างประเทศ โดยรถยนต์รุ่น MONA M03 นับเป็นการเปิดตัวรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในจีน ส่งผลให้ยอดส่งมอบรถยนต์ของ XPENG มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่เปิดตัว MONA M03 อีกทั้งHE XIAOPENG ซีอีโอของบริษัท กล่าวกับ CNBC ว่า "ในปี 2026 คุณสามารถคาดหวังว่าจะมีผลิตภัณฑ์ MONAต่างๆ เปิดตัวทั้งในจีน ยุโรป และตลาดส่วนอื่นๆ ทั่วโลก”

ราคาหุ้น XPENG (9868 HK) ย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับพอดี และภาพรวมยังเป็นลักษณะยก LOW ขึ้น แนะนำทยอยสะสมในช่วงนี้โดยรายได้ในไตรมาส 3 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้จะอยู่ที่ 2.07 หมื่นล้านหยวน+14% QOQ และ +105% YOY

ASML ลงทุน 1.3 พันล้านยูโรใน MISTRAL AI สตาร์ตอัปด้าน AI จากฝรั่งเศส
ASML ประกาศลงทุน 1.3 พันล้านยูโรใน MISTRAL AI ซึ่งเป็นสตาร์ตอัปด้าน AI จากฝรั่งเศส ส่งผลให้ ASMLครองสัดส่วนหุ้นประมาณ 11% และกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท นอกจากเงินลงทุนแล้ว ทั้งสองบริษัทยังตั้งความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อสำรวจการใช้งานโมเดล AI ในผลิตภัณฑ์ การวิจัย และการพัฒนาของ ASML ซึ่งจะช่วยเร่งเวลาเข้าสู่ตลาดและยกระดับประสิทธิภาพของระบบ LITHOGRAPHY ที่ใช้ในการผลิตชิป

THAI FOCUS
ประเด็นในประเทศที่ควรทราบมีอะไรบ้าง ... มาดูกัน
วานนี้ศาลฎีกาฯ มีมติให้นายทักษิณ ชินวัตร กลับเข้ารับโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งการนับโทษจำคุกจะเริ่มนับใหม่ทั้งหมด โดยไม่นำระยะเวลา 120 วันที่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจมาหักล้าง โดยได้ส่งตัวเข้า เรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมตัวสำหรับนักโทษคดีเด็ดขาด อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวไม่กระทบกับการทำงานและเสถียรภาพของรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้แกนนำพรรคภูมิใจไทย รวมถึงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยฯ จึงทำให้นโยบายภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ยังคงเดินหน้าต่อไปได้ซึ่งนายกฯ ได้เปิดเผยแนวคิดในการปรับเงื่อนไขโครงการ “คนละครึ่ง 2568” ไว้ว่า บุคคลที่เสียภาษี จะได้รับสิทธิในอัตรา รัฐช่วยจ่าย 60% – ผู้ใช้จ่าย 40%(เดิมเป็น 50:50) ส่วนประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในระบบภาษี ยังคงได้รับสิทธิในอัตรา รัฐช่วยจ่าย 50% – ผู้ใช้จ่าย 50% เช่นเดิม ซึ่งกระทรวงการคลังพร้อมเริ่มโครงการภายใน 4 เดือนคือ เริ่มใช้ได้ทันทีหลังวันที่ 1 ตุลาคม 2568และงบประมาณส่วนนี้สามารถใช้จาก “งบกลางปี 2569” ที่มีจัดสรรไว้ประมาณ 25,000 ล้านบาท ได้ทันทีโดยไม่กระทบเสถียรภาพการคลังจริง โดยตัวเลขในอดีตบ่งชี้ว่าโครงการดังกล่าวตลอดการมีอยู่ตั้งแต่เฟส 1-5 ใช้วงเงินเฉลี่ยราว 2-3 หมื่นล้านบาทต่อรอบ เท่านั้น แต่สามารถกระตุ้นGDP ได้ราว 0.2%-0.4%

SYNAPSE STRATEGY
ธ.พ. ขึ้น XD กดตลาด แต่ยังมีหุ้นหลายกลุ่มเดินหน้าต่อ
วันนี้หุ้น ธ.พ. ถึง 5 บริษัท ขึ้น XD อาทิ BAY 0.4 บาท ,BBL 2 บาท, KBANK 2 บาท, KKP 1.5 บาท, TISCO 2บาทรวมกดดัน SET 1.1 จุด และปกติมักจะเห็นการขายทำกำไรสั้นๆ จากนักลงทุนบางส่วน หลังประกาศผล XDขณะที่ SET INDEX ยังมี MOMENTUM เดินหน้าต่อจากความคาดหวังการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง แนะนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายชัดเจนขึ้น

ฝ่ายวิจัยจึงทำการค้นหาหุ้นที่มี MOMENTUM เดินหน้าต่อผ่านข้อมูลเชิงเทคนิค อย่าง RRG ผลลัพธ์ยังเห็นกลุ่มหุ้นที่มีโอกาสขึ้นได้เด่นกว่าตลาด อย่าง PROP, FIN, COMM, HELTH อีกทั้งหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังได้SENTIMENT ดอกเบี้ยขาลง, นโยบายภาครัฐ และเข้าช่วง HIGH SEASON แนะนำ AP, MTC, CPAXT, CPALL,BCH, BDMS

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์