Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีไทยปี 2568 มาที่ 1.8% จากแรงหนุนการเร่งส่งออกก่อนการเก็บภาษีทรัมป์ที่เหลือ แต่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกและไทยยังมีความไม่แน่นอนสูง

192


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(9 กันยายน 2568)-----------ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับเพิ่มประมาณการจีดีพีปี 2568 มาที่ 1.8% จากแรงหนุนการเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อีกทั้งมีการชะลอตัวลงน้อยกว่าที่คาดในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ส่งผลให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคลดต่ำลง ขณะที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะที่เหลือของปี 2568 มองว่า กนง.มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง ซึ่งต้องมาควบคู่กับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้าของรัฐบาลใหม่


นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนสูง อีกทั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เข้ามาแทรกแซงความเป็นอิสระของเฟด จึงทำให้ตลาดการเงินคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยอย่างเร็วและแรง โดยเริ่มในเดือนกันยายนนี้ นอกจากนี้ ความผันผวนและความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจของภาครัฐ เริ่มส่งผลให้การจ้างงานในสหรัฐฯ เริ่มชะลอลงและทำให้ความเชื่อมั่นต่อสกุลเงินดอลลาร์ฯ ถูกบั่นทอนลง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนมาเกือบ 10% แล้วในปีนี้


นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 มาอยู่ที่ 1.8% จาก 1.5% จากแรงหนุนการเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ ก่อนมาตรการภาษีฯ ตามมาตรา 232 และภาษีสินค้าอ้อมผ่านประเทศที่สาม (Transshipment) มีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ การส่งออกที่ชะลอตัวลงน้อยกว่าที่คาดในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 ส่งผลให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคนั้น ลดต่ำลง อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ยังมีความท้าทายจากผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากภาษีสหรัฐฯ การท่องเที่ยวที่ชะลอตัว และปัจจัยทางการเมือง ที่ยังต้องติดตาม ขณะที่ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะที่เหลือของปี 2568 นั้น มองว่า กนง.มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งมาควบคู่กับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้าของรัฐบาลใหม่

 

นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า กลุ่มที่ใช้วัตถุดิบในประเทศน้อยกว่า 50% อาจเสี่ยงโดนภาษี Transshipment ของสหรัฐฯ ได้แก่ เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ เคมีภัณฑ์ ซึ่งมีสัดส่วนราว 27% ของสินค้าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ขณะที่ ประเมินว่าอัตราภาษีเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (Effective rate) ของไทยน่าจะอยู่ที่ราว 26% ต่ำกว่ามาเลเซีย แต่สูงกว่าเวียดนามและอินโดนีเซีย โดยไทยมีสัดส่วนสินค้าที่โดนภาษีสูงกว่า 19% เกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่าการส่งออกไปสหรัฐฯ ทำให้ยังเป็นโจทย์ที่ต้องเร่งดูแลภาคการผลิต เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบลูกโซ่ที่จะมีต่อธุรกิจและแรงงาน


ดร.รุจิพันธ์ อัสสะรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ขยายความผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ภายใต้ Section 232 ว่าจะมีผลกระทบต่อไทยชัดเจนมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสินค้าไทยเผชิญประเด็นภาษีดังกล่าวในสัดส่วนเพียง 12.3% ของมูลค่าสินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากไทยทั้งหมด มาที่สัดส่วน 19.5% หลังการประกาศเริ่มเก็บภาษีนำเข้า Semiconductor ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงราวไตรมาส 4 ของปีนี้ ทั้งนี้ Semiconductor เป็นกลุ่มสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีสูงถึง 100-300% แม้ว่าในรอบแรก ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มี Semiconductor เป็นส่วนประกอบ เช่น ฮาร์ดดิสก์ และคอมพิวเตอร์ จะยังไม่ถูกเก็บภาษีดังกล่าวก็ตาม ผลกระทบจากการเก็บภาษีข้างต้น คาดว่าจะส่งผลให้มูลค่าการส่งออก Semiconductor ของไทยพลิกจากเติบโตด้วยเลขสองหลักในปีนี้ เป็นการหดตัวลงราว 4.8% ในปี 2569 เนื่องจากตลาดสหรัฐฯ ครองสัดส่วนส่งออก Semiconductor ไทยสูงถึง 16.2%

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

จำคุก ทักษิณ 1 ปี By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ข่าวใหญ่ การเมืองไทย วันนี้ ศาลฎีกาฯ สั่ง "ทักษิณ ชินวัตร" กลับเรือนจำ จำคุก 1 ปี คดีชั้น....

NKT เปิดบ้านต้อนรับนักลงทุน ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจโรงพยาบาล

NKT เปิดบ้านต้อนรับนักลงทุน ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจโรงพยาบาล

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : อัพเดทกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : อัพเดทกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้