มูลค่าซื้อขายคึกคักขึ้น ต้อนรับผู้นำคนใหม่

HORIZON MARKET VIEW
• การใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของ FED ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ควรเข้ามาช่วยเหลือในยามที่เศรษฐกิจมีความเสี่ยงซบเซา ขณะที่ผลกระทบของนโยบายเรียก
เก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่มีผลบังคับใช้ช่วงต้นเดือน ส.ค. 68 เห็นการส่งผ่านไปยังภาคการค้าระหว่างประเทศ กดดันภาพรวมการส่งออกสินค้าของหลายๆประเทศเติบโตในอัตราชะลอตัวลง อาทิ จีน เวียดนาม เกาหลีใต้ เป็นต้น
• อีกทั้งเมื่อพิจารณาในมุมอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ) ของสหรัฐฯอยู่ที่ 1.8% ทำให้ยังมี ROOM ที่ FED จะยังเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยได้
• อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาวันที่ 11 ก.ย. 68 มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. 68 โดย CONSENSUS คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 2.9%YOY

REGION RALAR
•ALIBABA +4.17% หลังประกาศลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ในสตาร์ทอัพหุ่นยนต์มนุษย์จีน นอกจากนี้BAIDU (9888 HK) +9.48% หลังบริษัทประกาศแผนออกพันธบัตร SENIOR NOTES ในรูปแบบสกุลเงินหยวน
• เม็ดเงินลงทุน CAPEX ใน CLOUD ของบริษัท BIG TECH จีนยังคงอยู่ในระดับสูง คาดในปี 2025 การลงทุนใน CLOUD จะเพิ่มขึ้น 31%YOY โดยภาพรวมยังมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นที่ทำธุรกิจ CLOUDแนะนำเก็งกำไร TENCENT, ALIBABA และ BAIDU

SYNAPSE STRATEGY
• ย้อนดูผลตอบแทนกองทุน THAI ESGX ในช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา (23 มิ.ย. – 8 ก.ย. 68) ทำได้ดีอาทิ กองทุน TTHAIESGX-S+24.4%, SCBTAX(25D) +20.6%, BCAPSETTHAIESGX+18.8% เป็นต้น ขณะที่ SET +18.7% บวกเป็นอันดับ 7 ของโลก
• ปัจจุบัน SET ยังมีโอกาสเดินหน้าต่อ ในช่วงเปลี่ยนผู้นำทางการเมือง ปกติค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น มูลค่าซื้อขายเริ่มกลับมาคึกคักเกิน 5 หมื่นล้านบาท แนะนำ CPAXT, CPALL, ERW, MTC, AAV

THAI FOCUS
• ศาลฏีกาฯ นัดฟังคำสั่งบังคับโทษ นายทักษิณ คดีชั้น 14 ซึ่งกระบวนการและเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้ แบ่งเป็น 3 กรณี 1.ศาลตัดสินว่า เป็นไปตามกระบวนการ (ถูกต้องตามกฎหมาย) 2. ศาลวินิจฉัยว่า มีข้อขัดแย้งทางกฎหมายหรือกระบวนการบกพร่อง ซึ่งอาจมีคำสั่งให้ แก้ไขกระบวนการ, เช่น สั่งให้ตรวจสอบใหม่ หรือคืนตัวจำเลยกลับเข้าเรือนจำ3.ศาลเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาซึ่งกระบวนการทั้งหมดอาจล่าช้าออกไปตามระยะเวลาที่ศาลกำหนดใหม่

HORIZON MARKET VIEW
ความคาดหวังวงจรดอกเบี้ยขาลงยังไม่หมดไป
การใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายของ FED ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ควรเข้ามาช่วยเหลือในยามที่เศรษฐกิจมีความเสี่ยงซบเซา ขณะที่ผลกระทบของนโยบายเรียกเก็บภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่มีผลบังคับใช้ช่วงต้นเดือน ส.ค.68 เห็นการส่งผ่านไปยังภาคการค้าระหว่างประเทศ กดดันภาพรวมการส่งออกสินค้าของหลายๆ ประเทศเติบโตในอัตราชะลอตัวลง อาทิจีน เวียดนาม เกาหลีใต้ เป็นต้น โดยล่าสุดจีนเผยยอดส่งออกเดือน ส.ค.68 ขยายตัวแค่4.4%YOY ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาด ซึ่งการส่งออกจีนไปลดลง -33%YOY (เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันที่ลดลงในระดับเลขสองหลัก)

อีกทั้งเมื่อพิจารณาในมุมอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (ดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ) ของสหรัฐฯ อยู่ที่ 1.8% ทำให้ยังมี ROOM ที่FED จะยังเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ยได้ แม้เงินเฟ้อจะยังอยู่สูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ 2%อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตาวันที่ 11 ก.ย. 68 มีรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. 68 โดยCONSENSUS คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 2.9%YOY (เดือนก่อน 2.7%) ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ซึ่งกรณีที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ อาจสร้างความผันผวนต่อตลาดการเงินได้ในช่วงสั้นๆ แต่ในทางกลับกัน หากออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ อาจเพิ่มความคาดหวังต่อทิศทางดอกเบี้ยขาลง

REGION RADAR
UPDATE หุ้น AI จีน เด่น และงบลงทุน CAPEX ด้าน CLOUD ของจีนอยู่ในระดับที่สูง
ALIBABA ประกาศลงทุน $100 ล้านในบริษัทสตาร์ทอัพหุ่นยนต์“X SQUARE ROBOT” โดยทาง X SQUAREROBOT เปิดตัว “WALL-OSS” โมเดล AI แบบ OPEN-SOURCE ที่สามารถรวมเข้ากับฮาร์ดแวร์ อาทิหุ่นยนต์รถไร้คนขับ อีกทั้งบริษัทระบุว่า เป็นบริษัทแรกที่เปิดซอร์สโมเดล AI แบบนี้เพื่อการหุ่นยนต์ โดยตั้งเป้าว่าจะทำให้“หุ่นยนต์พ่อบ้าน” กลายเป็นจริงได้ภายใน 5 ปี

ด้าน BAIDU (9888 HK) +9.48% หลังบริษัทประกาศแผนออกพันธบัตร SENIOR NOTES ในรูปแบบสกุลเงินหยวน ทั้งนี้ บริษัทมีกำหนดจัดงานประชุมกับนักพัฒนาในปักกิ่งวันอังคารนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งคาดจะมีการเปิดตัวการอัปเกรดโมเดลการให้เหตุผล (REASONING MODELS) ทั้งนี้ BAIDU มี VALUATION ที่ถูกกว่าคู่แข่งในกลุ่มBIG TECH โดยราคาหุ้นมีการซื้อขายที่ FORWARD P/E ที่ระดับ 12เท่า (VS. TENCENT 19 เท่า และ ALIBABA15 เท่า)

หากพิจารณา งบลงทุน CAPEX ในด้าน CLOUD ของ BIG TECH จีนยังอยู่ในระดับที่สูง โดยบริษัท BIG TECHจีน อย่าง BYTEDANCE, ALIBABA, TENCENT และ BAIDU มีการเพิ่มงบลงทุนในด้าน CLOUD อย่างต่อเนื่องโดยปี 2025 คาดเม็ดเงินลงทุน CLOUD จะเพิ่มขึ้น 31% YOY นอกจากนี้ ALIBABA ได้ประกาศตั้งเป้าเงินลงทุนAI กว่า $5.3 หมื่นล้าน ภายในปี 2028 แนะนำเก็งกำไรในหุ้นกลุ่ม CLOUD ได้แก่ TENCENT, ALIBABA และBAIDU

THAI FOCUS
ศาลฏีกาฯ นัดฟังคำสั่งบังคับโทษ นายทักษิณ คดีชั้น 14 ... 10 โมงรู้กัน
คดี “ชั้น 14” (คดีการบังคับโทษจำคุกและการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ) ของนายทักษิณ ชินวัตรกำลังเข้าสู่ช่วงไฮไลต์สำคัญซึ่งศาลฎีกาฯ แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้กำหนดให้นัดฟังคำพิพากษาคดีนี้ในวันที่ 9 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. และนี่คือ กระบวนการและเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
หลังจากนี้แบ่งเป็น 3 กรณี
• ศาลตัดสินว่า เป็นไปตามกระบวนการ (ถูกต้องตามกฎหมาย) ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่งผลให้การส่งตัวไปรักษาที่รพ.ตำรวจ 180 วัน และการพักโทษเป็นไปตามระเบียบ ให้โอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก เนื่องจากพยานหลักฐานหลายส่วนชี้ถึงความผิดปกติ
• ศาลวินิจฉัยว่า มีข้อขัดแย้งทางกฎหมายหรือกระบวนการบกพร่อง ศาลอาจมีคำสั่งให้ แก้ไขกระบวนการ, เช่น สั่งให้ตรวจสอบใหม่ หรือคืนตัวจำเลยกลับเข้าเรือนจำ (ถ้าพิพากษาให้จำคุก) และเปิดโอกาสให้มีการยื่นขอทุเลาการบังคับโทษหรือพักโทษใหม่ตามกรอบที่ถูกต้อง ซึ่งอาจมีการห้ามเดินทางออกนอกประเทศจนกว่ากระบวนการใหม่จะสิ้นสุด ซึ่งสุดท้ายแล้งหากนาย ทักษิณมีส่วนรู้เห็น จึงให้กลับเข้าสู่กระบวนการบังคับโทษใหม่ แต่ด้วยอายุเกิน 70 ปี อาจได้รับการผ่อนปรน อาทิ การติดกำไล EMพร้อมสั่งสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ทั้งนี้ศาลสามารถอ่านคำสั่งได้แม้นายทักษิณไม่ปรากฏตัว
• ศาล เลื่อนนัดฟังคำพิพากษา ถึงแม้ครั้งนี้กำหนดให้ฟังคำพิพากษา 9 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น., แต่หากมีประเด็นทางเทคนิค หรือมีเอกสาร/พยานเพิ่มเติมที่ยังไม่ได้รับการพิจารณา ศาลอาจเลื่อนนัดฟังคำสั่ง ได้เหมือนที่เคยเลื่อนในบางขั้นตอนก่อนหน้านี้ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอาจล่าช้าออกไปตามระยะเวลาที่ศาลกำหนดใหม

SYNAPSE STRATEGY
ย้อนรอย ของขวัญ THAI ESGX หนึ่งในนโยบายดีๆ ต่อตลาดหุ้นของพรรคเพื่อไทยย้อนดูผลตอบแทนกองทุน THAI ESGX ในช่วง 1 เดือนครึ่งที่ผ่านมา (23 มิ.ย. –8 ก.ย. 68) ทำได้ดี อาทิ กองทุนTTHAIESGX-S +24.4%, SCBTAX(25D) +20.6%, BCAPSETTHAIESGX +18.8% เป็นต้น ขณะที่ SET+18.7% บวกเป็นอันดับ 7 ของโลก รายละเอียด 15 กองทุน THAI ESGX

ปัจจุบัน SET ยังมีโอกาสเดินหน้าต่อ ในช่วงเปลี่ยนผู้นำทางการเมือง ปกติค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้น มูลค่าซื้อขายเริ่มกลับมาคึกคักเกิน 5 หมื่นล้านบาท 2 วันทำการที่ผ่านมา หลังพรรคภูมิใจไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาลแทน แนะนำหุ้นเด่น CPAXT, CPALL, ERW, MTC, AAV

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์