Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ ตลาดแกว่งไซด์เวย์/พักฐาน นักลงทุนยังติดตามนโยบายเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่

124


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 9 กันยายน 2568)-------InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 9 กันยายน 2568 คาดตลาดแกว่งไซด์เวย์/พักฐาน นักลงทุนยังติดตามนโยบายเศรษฐกิจ แม้รัฐบาลมีเวลาเพียง 4 เดือน แต่หากมีมาตรการที่ดีอาจเป็นปัจจัยชี้นำการเลือกตั้งครั้งหน้า หนุนให้รัฐบาลใหม่มีโอกาสออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ส่วนการที่คุณศุภจีรับตำแหน่ง รมว. พาณิชย์หนุนความเชื่อมั่น อย่างไรก็ดี ค่าเงินบาทแข็งค่าเร็ว แต่ยังไม่มีเงินไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอาจไม่ได้เป็นสัญญาณที่ดีนัก ด้านเทคนิคคาดพักฐานสั้น หากไม่หลุด 1260/1250 ยังไม่เสียแนวโน้ม แนวต้านประเมินที่ 1275/1280

 


ประเด็นสำคัญ
• ปลัดคลังเผยโครงการ “คนละครึ่ง” จะพร้อมดำเนินการได้เร็วที่สุดใน ต.ค. 2568 หากรัฐบาลใหม่ตัดสินใจเดินหน้าโครงการ เนื่องจากระบบมีความพร้อมอยู่แล้ว ส่วนงบประมาณที่นำมาใช้จะสามารถใช้งบปี 2569 ได้ทันที และยังมีงบกระตุ้น ศก. ที่โยกกลับสู่งบกลางอีกราว 2.5 หมื่นลบ. เราประเมินจะมีผลต่อ GDP ราว 0.1% เป็นบวกต่อ TNP, CBG, OSP, HTC, ICHI, TVO และบวกทางอ้อมต่อ CPAXT, BJC และ CPALL
• ธปท. เผยตั้งแต่ต้นปี 2568 เงินบาทแข็งค่าขึ้นราว 7% นำสกุลเงินในภูมิภาค เป็นผลจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์, นโยบายการเงินสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นเป็นบวกต่อหุ้นที่มีหนี้หรือรายจ่ายในรูปของดอลลาร์ เช่น โรงไฟฟ้า (GPSC และ BGRIM) และสายการบิน (AAV และ THAI) และหลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ (KCE, HANA และ DELTA) และอาหาร (TU, CPF และ GFPT) ซึ่งมีรายได้ในรูปดอลลาร์
• สหรัฐฯ เริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีตอบโต้ต่อการนำเข้าเม็ดพลาสติก PET มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย. ทำให้อัตราภาษีนำเข้าดังกล่าวพุ่งขึ้นเป็น 27-28% จากเดิมที่ 6.5% มองเป็นบวกต่อ IVL ซึ่งมีฐานการผลิตรายใหญ่ในสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯ มีความต้องการเม็ดพลาสติก PET สูง
• IEA ประเมินตลาด LNG จะเข้าสู่ภาวะล้นตลาดนับตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป จากความต้องการจากตลาดหลักอย่างจีนที่ชะลอลง ขณะที่กำลังการผลิตใหม่ในสหรัฐฯ เริ่มต้นเร็วกว่าแผนและการ์ตาเตรียมกลับมาส่งออกอีกครั้งในช่วงปลายปี 2569 มองเป็นบวกในระยะยาวต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลง ได้แก่ GPSC, GULF และ BGRIM
• มูลค่าการส่งออกของจีนใน ส.ค. 2568 ขยายตัวเพียง 4.4%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนและต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ กดดันจากการส่งออกสู่สหรัฐฯ ที่หดตัวมากถึง 33%YoY เป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ส่วนนำเข้าขยายตัว 1.3%YoY ชะลอลงจากเดือนก่อนและต่ำกว่าคาด

 


กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัวขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจนขึ้น รอติดตามการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นการลงทุนฟื้นตัว โดยคาด Fund Flow จะทยอยไหลเข้าและประเมินแนวต้านที่ 1280/1300 ส่วนคำวินิจฉัยของศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองคดีชั้น 14 ในวันที่ 9 ก.ย. นี้คาดจะสร้างความผันผวนต่อตลาดน้อยลงจากที่คาดไว้เดิม ส่วนปัจจัยต่างประเทศสำคัญติดตาม ได้แก่ CPI ส.ค. ของสหรัฐฯ โดยตลาดคาดเพิ่มขึ้น 2.9%YoY เร่งตัวขึ้นจาก 2.7%YoY ใน ก.ค. ซึ่งหากเป็นไปตามคาดหรือไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อใน ก.ย. นี้ ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันที่ 11 ก.ย. นี้คาดยังคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม กลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

แนวรับ – แนวต้าน : 1260/1250– 1275/1280

 

 


ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET มีแนวโน้มจะปรับขึ้น หลังสถานการณ์การเมืองไทยมีความชัดเจน คาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC
2. หุ้นปันผลคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตในระยะสั้น คาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ PTT TTB HMPRO (XD 10 ก.ย.) และ KKP (XD 10 ก.ย.)
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play คาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อ โดยเลือกหุ้น SET50 ราคาหุ้นปรับขึ้น QTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก มี PBV และ PER 2568F <
-1SD มีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Ratings A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL CRC MTC PTT WHA 2) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและ/หรือดอลลาร์อ่อนค่า(บาทแข็ง) แนะนำ กลุ่ม REITs (DIF) กลุ่มอสังหาฯ (AP SIRI) กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) และกลุ่มโรงไฟฟ้า (GPSC BCPG GULF) และ 3) หุ้นที่ได้อานิสงส์การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล กลุ่มค้าปลีก (CPALL GLOBAL) กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL) กลุ่มนิคม (AMATA) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (SCC)

 

 

Daily Top Picks
DIF: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากดอกเบี้ยขาลง สถิติชี้ว่าราคาหุ้นมักจะปรับตัวขึ้นล่วงหน้าหนึ่งเดือนก่อนการประชุม กนง. ที่มีการลดดอกเบี้ย โดย INVX คาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย 25bps ในการประชุมวันที่ 8 ต.ค. นอกจากนี้คาดกำไรหลัก 3Q68 โต YoY และ QoQ จากดอกเบี้ยที่ทยอยลด ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 8.80 บาท

HMPRO: มองราคาหุ้นมีแรงหนุนระยะสั้นจากความต้องการซ่อมแซมที่เพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วมในบางพื้นที่ SSS โฮมโปรหดตัวลงในอัตราที่ช้าลง จากยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กลับสู่ระดับปกติ ในขณะที่ฐานต่ำของ SSS จะช่วยหนุนให้ SSS ใน 2H68 ปรับตัวดีขึ้นจาก 1H68 ประเมินราคาเป้าหมายระยะสั้นไว้ที่ 8.10 บาท

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

จำคุก ทักษิณ 1 ปี By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ข่าวใหญ่ การเมืองไทย วันนี้ ศาลฎีกาฯ สั่ง "ทักษิณ ชินวัตร" กลับเรือนจำ จำคุก 1 ปี คดีชั้น....

NKT เปิดบ้านต้อนรับนักลงทุน ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจโรงพยาบาล

NKT เปิดบ้านต้อนรับนักลงทุน ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจโรงพยาบาล

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : อัพเดทกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : อัพเดทกลุ่มฮั่วเซ่งเฮง

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้