Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

115


AT THE OPEN (#ATO)


SET Index ยังมีแรงส่ง
เลือกหุ้น Domestic Play

Market Strategy
SET Index ยังมี Momentum ไปต่อตามกรอบ 1255-1275 จุด จากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น และแนวโน้มดอกเบี้ยฯ ขาลงของสหรัฐฯ หุ้นเด่นวันนี้เลือก SAK และ CPAXT

ประเด็นการเมืองที่ชัดเจนมากขึ้นหลังจากคุณอนุทินได้รับเลือกนายกฯ ถัดไปเป็นการตั้ง ครม.และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ที่เป็นจุดบ่งชี้กรอบนโยบายที่รัฐบาลต้องการผลักดัน โดยการปรับนโยบายในเชิงโครงสร้างมองคงเป็นไปได้ไม่มากเนื่องจากข้อจำกัดด้านเวลา แต่ให้น้ำหนักไปที่การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเผยว่าเตรียมพิจารณามาตรการคนละครึ่ง ซึ่งคงต้องตามรายละเอียด อาทิ เม็ดเงินของโครงการ เงื่อนไขสินค้าที่เข้าโครงการ รวมถึงระยะเวลาที่เริ่มใช้เป็นต้น

หากอิงรอบโครงการคนละครึ่งรอบก่อนระหว่างปี 63-65 มี 5 เฟส โดยแต่ละเฟสให้วงเงินในช่วง 800-4500 บาทต่อคน โดยการใช้รัฐบาลช่วยไม่เกิน 150 บาท/วัน สำหรับร้านที่ร่วมโครงการที่เป็นร้านค้ารายย่อย ผู้ประกอบการท้องถิ่น ซึ่งส่งผลบวกต่อการกระจายรายได้สู่แหล่งชุมชน หากรอบนี้เงื่อนไขไม่แตกต่างจากเดิม เรามองเป็นบวกกับหุ้นกลุ่ม F&B เพราะราคาต่อชิ้นไม่มาก เช่น OSP CBG ICHI และกลุ่มค้าปลีกที่อิงที่เป็นผู้ค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภค CPAXT และ BJC

การรายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเกษตรสหรัฐฯ เดือน ส.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 หมื่นตำแหน่งต่ำกว่าตลาดคาด 7.5 หมื่นตำแหน่งและ Unemployment Rate เพิ่มขึ้นมา 4.3% จากเดือนก่อนที่ 4.2% สะท้อนภาคแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ ทำให้ตลาดคาดคาด FED จะปรับลดดอกเบี้ยฯ ใน 17-18 ก.ย. 100% แบ่งเป็นการลด 25 bps โอกาส 92% และล 50 bps โอกาส 8% การตอบสนองของตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับลง -0.3% จากความกังวลต่อเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ Bond Yield 2 ปีที่ปรับลง 8 bps Dollar Index อ่อนค่า -0.5% สวนทางเงินบาทเช้านี้แข็งค่าใกล้ 32 บาท/usd มองเป็นสัญญาณบวกต่อทิศทาง Fund Flow ที่มีโอกาสไหลเข้ามายัง EM และบ้านเรา ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์ มองกลุ่มไฟแนนซ์ MTC SAWAD SAK หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC CKP


Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 12.25 จุด ตอบรับคุณอนุทินได้รับเลือกเป็นนายกฯ กลุ่มนำตลาด คือ กลุ่มรับเหมาฯ STECON +14% CK +6% กลุ่มไฟแนนซ์จากความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น MTC +3.7% SAWAD +2.7% กลุ่มได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลงอย่างโรงไฟฟ้า GPSC +2.5% BGRIM +4% ตรงข้ามกับกลุ่มน้ำมัน PTTEP -1.3% ทีกดดันจากราคาน้ำมันดิบ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1 พันล้านบาท สถาบันในประเทศ 551 ล้านบาท

DAILY Stock Pick
SAK
รับอานิสงค์ Bond Yield ปรับตัวลง
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.60 บาท
วันศุกร์ที่ผ่านมา Bond Yield สหรัฐ 10 ปี ปรับตัวลดลง 8.5 bps หลังสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรอยู่ที่ 2.2 หมื่นตำแหน่ง เทียบกับที่ตลาดคาด 7.5 หมื่นตำเเหน่ง สะท้อนภาคการจ้างงานที่ชะลอตัว โดยการลดลง Bond yield หนุนให้กลุ่มการเงินอย่าง SAK ที่มีสัดส่วนหนี้สินหมุนเวียนสูงถึง 70% ได้รับอานิสงส์ต้นทุนทางการเงินลดลงในระยะถัดไป
ในขณะที่ Valuation PE’68 ที่ 8.8 เท่า ต่ำที่สุดในกลุ่ม (ค่าเฉลี่ยกลุ่มอยู่ที่ 10.5 เท่า) พร้อมกับอัตราเงินปันผลสูงถึง 5.2% ช่วยจำกัด Downside

 

WEEKLY Stock Pick
CPAXT
ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 26.00 บาท
วันศุกร์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎร มีมติโหวต 311 เสียงต่อ 152 เสียง เลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกคนที่ 32 ของไทย ส่งผลให้ความชัดเจนทางการเมืองมากขึ้น พร้อมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ โครงการเงินกู้ฉุกเฉิน, พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย (อ้างอิง : นโยบายหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย) หนุนให้กลุ่มค้าปลีก CPAXT ได้รับอานิสงส์จากกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น
เราคาด CPAXT กำไรใน 2H68 เติบโต HoH จาก Synergy ที่มากขึ้น ผ่านทั้งต้นทุนและค่าใช้จ่ายดำเนินการ ประกอบกับการเปิดสาขาใหม่ ณ ราคาปัจจุบันถูกซื้อขายที่ PE’68 ที่ 17.6 เท่า (-1SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) ประกอบกับอัตราเงินปันผลที่ 3.7%

KEY FACTOR
การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 2.2 หมื่นตำแหน่ง ในเดือน ส.ค. ต่ำกว่าที่ Consensus คาดการณ์ไว้ 7.5 หมื่นตำแหน่ง ในขณะที่อัตราการว่างงานอยู่ที่ 4.3% สูงกว่าคาด 4.2% เช่นกัน ตอกย้ำภาพตลาดแรงงานที่อ่อนแอในเดือน ส.ค.

ในสัปดาห์นี้ให้น้ำหนักที่การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ส.ค. (วันที่ 11 ก.ย.) โดย Consensus คาดว่าจะ +2.9% YoY และ +0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจาก +2.7% YoY และ +0.2% MoM ในเดือนก่อนหน้า ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) คาด +3.1% YoY และ +0.3% MoM เท่ากับเดือนก่อนหน้า ถือเป็นข้อมูลชุดสุดท้ายที่มีผลต่อการพิจารณาดอกเบี้ยของ Fed ก่อนการประชุมวันที่ 16–17 ก.ย. ทั้งนี้ มุมมองตลาดล่าสุดให้น้ำหนักโอกาส Fed ลดดอกเบี้ย 25 bps มากกว่า 90% ในการประชุมครั้งนี้ และ ค่าเฉลี่ยของช่วงที่เหลือในปีนี้เร่งตัวแตะ 2.75 ครั้ง ตอบรับตัวเลขภาคแรงงานที่อ่อนแอดังกล่าว

 

EYES ON
8 ก.ย. ตัวเลขส่งออก-นำเข้าของจีน เดือน ส.ค.
10 ก.ย. ดัชนี PPI และ CPI จีน เดือน ส.ค.,
11 ก.ย. การประชุม ECB, ดัชนี CPI สหรัฐฯ เดือน ส.ค., ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

 

นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้