หุ้นไทยยังดูแกร่ง หุ้น LUXURY ดูดี

HORIZON MARKET VIEW
ปัจจัยแวดล้อมยังไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น โดยมีเรื่องที่น่าสนใจหลักๆ 3 ประเด็น ได้แก่
• ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นกับความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยวานนี้ BRENT ดีดตัวราว1% จากความกังวลเรื่องอุปทานส่วนเกินในอนาคต (SUPPLY)
• สัญญาณการฟื้นตัวภาคการผลิตจีน โดย PMI MANUFACTURING เดือน ส.ค. 68ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 50.5 จุด อย่างไรก็ดียังต้องติดตามถึงความเนื่องของการฟื้นตัว
ภาคการผลิต ซึ่งจะสะท้อนถึงการฟื้นตัวภาพรวมเศรษฐกิจจีนในอนาคตได้
• ผู้นำกลุ่ม BRICS นัดประชุมหารือภาษีมทรัมป์ในวันที่ 8 ก.ย. 68 พร้อมส่งเสริมแนวทางพหุภาคี (MULTILATERALISM) ในการรับมือกับแรงกดดันจากสหรัฐฯ หลังเห็น
สัญญาณสหรัฐฯ พยายามกีดกันทางการค้าของประเทศสมาชิกในกลุ่ม BRICS

REGION RALAR
• ธุรกิจ LUXURY ดูมีความน่าสนใจในการลงทุนมากขึ้น หลังจากราคาหุ้นย่อลงมาเยอะ (YTD) อาทิ 1913 HK -25%, MC FP -21%, RMSFP -11%, KER FP -4% เทียบกับ MSCI ACWI +13.2%
• การนำเข้ากระเป๋าในจีนพลิกกลับมาเติบโต 7% ในเดือน ก.ค. หลังชะลอลงมาตลอด 1 ปีรวมถึงจีนนำเข้าสินค้า COSMETICS เติบโตต่อเนื่องตลอด 7เดือน แนะเก็งกำไรMC PF (DR: LVMH01) เพิ่งเปิดตัวลิปสติกในไลน์เครื่องสำอาง LA BEAUTÉ และยังชอบ 1913 HK

THAI FOCUS
•ทางออกที่เป็นไปได้ในการแก้ปัญหาวิกฤตทางการเมืองของไทยในปัจจุบัน ได้แก่ 1. พรรคประชาชนลงคะแนนให้นายอนุทินจากพรรคภูมิใจไทย 2. พรรคประชาชนยอมลงคะแนนให้นายชัยเกษมจากพรรคเพื่อไทย 3 พรรคเพื่อไทยประกาศยุบสภาเอง โดยอาศัยอำนาจของนายกรัฐมนตรีรักษาการ 4. พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจับมือกันลงคะแนนให้นายกรัฐมนตรีพระราชทาน

SYNAPSE STRATEG
•การเมืองยังไม่ถึงทางตัน หนุนตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่งกว่าภูมิภาคพร้อมกับต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิ 347 ล้านเหรียญ ค่าเงินบาทอยู่ในโซนแข็งค่า พร้อมกับราคาน้ำมันเริ่มฟื้น +1.3% ในวานนี้ ดีต่อหุ้นไทยที่อิงราคา COMODITY ถึง 1 ใน 3 แนะนำหุ้นเด่น PTTEP, CPALL,SPALI และ DR : LVMH01, TENCENT80

HORIZON MARKET VIEW
ปัจจัยแวดล้อมยังมีอะไรน่าตื่นเต้น
ปัจจัยแวดล้อมที่น่าสนใจหลักๆ มี 3 ประเด็น ได้แก่

1. ราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นกับความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยวานนี้BRENT ดีดตัวราว 1% จากความกังวลเรื่องอุปทานส่วนเกินในอนาคต (SUPPLY) หลังยูเครนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียหลายแห่ง เพิ่มความตึงเครียดในตลาดพลังงาน อีกทั้งอินเดียปฏิเสธแรงกดดันจากสหรัฐฯ ให้หยุดนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

2. สัญญาณการฟื้นตัวภาคการผลิตจีน โดย PMI MANUFACTURING เดือน ส.ค. 68 ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 50.5 จุด สูงกว่าตลาดคาด และพลิกกลับมาอยู่ในโซนขยายตัวมากสุดในรอบ 5 เดือน (PMI> 50) โดยได้แรงหนุนจากยอดสั่งซื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดียังต้องติดตามถึงความเนื่องของการฟื้นตัวภาคการผลิต ซึ่งจะสะท้อนถึงการฟื้นตัวภาพรวมเศรษฐกิจจีนในอนาคตได้

3. ผู้นำ BRICS นัดประชุมหารือภาษีมทรัมป์ ในวันที่ 8 ก.ย. 68 พร้อมส่งเสริมแนวทาง พหุภาคี(MULTILATERALISM) ในการรับมือกับแรงกดดันจากสหรัฐฯ หลังเห็นสัญญาณสหรัฐฯ พยายามกีดกันทางการค้าของประเทศสมาชิกในกลุ่ม BRICS สะท้อนจาก
• ทรัมป์ขู่จะขึ้นภาษีต่อบราซิลเป็น 50% หากศาลสูงไม่หยุดการพิจารณาคดีอดีตประธานาธิบดีJAIR BOLSONARO ที่ถูกกล่าวหาว่าพยายามก่อรัฐประหาร
• ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีอินเดียสูงถึง 50% แม้อินเดีจะเสนอลดภาษีให้สหรัฐฯ เหลือ 0% เนื่องจากถูกอินเดียเอาเปรียบมาโดยตลอด

REGION RADAR
ธุรกิจ LUXURY เริ่มน่าซื้อ (หุ้น) แล้วนะ
ราคาหุ้นในกลุ่ม LUXURY ปรับตัวลงมาเยอะในปีนี้นำโดย 1913 HK -25%, MC FP -21%, RMS FP -11%, KER FP -4% ขณะที่MSCI ACWI +13.2%โดยหุ้นที่ยังมี VALUATION น่าสนใจเมือ่เทียบกับคู่แข่งได้แก่ LVMH (MC FP) ที่มี P/E FORWARD อยู่ที่ระดับ 23 เท่า และ PRADA (1913 HK) มี P/EFORWARD ที่ระดับ 14 เท่า เปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง HERMES (RMS FP) 47 เท่าและ KERING (KERFP) 38 เท่า

ขณะเดียวกัน ความต้องการสินค้า LUXURY ของจีนเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัว สะท้อนผ่านการนำเข้ากระเป๋าหนังจากยุโรปไปจีนเพิ่มขึ้น +7% YOY ในเดือน ก.ค. ถือเป็นเดือนแรกที่กลับมาเป็นบวกตั้งแต่เดือน ม.ค. 24 นอกจากนี้ พร้อมกับยอดขายปลีกจีนในเดือน ก.ค. ก็สนับสนุนภาพการฟื้นตัวของกลุ่มLUXURY โดยยอดขายปลีกเครื่องประดับ +8% YOY และเครื่องสำอาง +5% YOY

ส่วน LOUIS VUITTON มี SENTIMENT บวก หลังประกาศเปิดตัว LA BEAUTÉ LINE ภายใต้การกำกับของ DAME PAT MCGRATH เมกอัพอาร์ติสต์ชื่อดังชาวอังกฤษ โดยสินค้าเปิดตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาประกอบด้วยลิปสติกและลิปบาล์มราคา $160 อีกทั้งยังมีพาเลตต์อายแชโดว์ราคา $250รวมถึงกล่องมินิทรงตู้ LOUIS VUITTON ราคา $2,990 ที่ใส่ได้เพียงลิปสติก 1 แท่ง และเคสเครื่องสำอางราคา $870 ที่ใส่ได้อีก 4 ชิ้น

THAI FOCUS
จุดเปลี่ยนทางการเมืองไทย ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
สถานการณ์ทางการเมืองไทยอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงเสถียรภาพ ประสิทธิภาพ และความชอบธรรม พรรคประชาชนได้นำเสนอโมเดลที่ไม่ร่วมรัฐบาล แต่ใช้เสียงที่มีอยู่เป็นอำนาจต่อรองเพื่อให้เกิดการยุบสภาภายใน 4 เดือน จัดประชามติแก้รัฐธรรมนูญ และไม่เข้าร่วมรัฐบาลโดยการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ มีหลายทางเลือกที่เป็นไปได้ พร้อมข้อจำกัดและความเสี่ยงที่แตกต่างกัน :
• ทางเลือกที่ 1: ชัยเกษมเป็นนายกฯ (เพื่อไทย + พรรคประชาชน)ข้อดี: เสียงเกิน 247 แน่นอน
ข้อเสีย : เงื่อนไขของพรรคประชาชน ก็จะขี่คอและเป็นคู่แข่ง และ "ถ้าแก้รัฐธรรมนูญมีประเด็นแตะสถาบันหรือเอื้อประโยชน์นักการเมืองก็จะทำให้วุ่นวายในสภา
• ทางเลือกที่ 2: อนุทินเป็นนายกฯ (ภูมิใจไทย + พรรคประชาชน+ พรรคร่วมเดิมบางส่วน)ข้อดี: เสียงเกิน 247เช่นกัน
ข้อเสีย : รัฐบาลใหม่ก็จะติดเงื่อนไขพรรคประชาชนเหมือนทางเลือกที่ 1 จะทำอะไรในสภาต้องขอพรรคประชาชน พรรคประชาชนก็จะคุมเกม คุณอนุทินจะเป็นเหมือนผู้บริหารบริษัท แต่มีพรรคประชาชนที่ถือเสียงส่วนใหญ่
• ทางเลือกที่ 3: พรรคเพื่อไทยยุบสภา (จากอำนาจรักษาการนายกฯ) ข้อเสีย: นักกฎหมายใหญ่ 2ท่าน (อ.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ และ อ.ปกรณ์ นิมปันธ์) ระบุว่ารักษาการนายกฯ ไม่มีอำนาจยุบสภาหากฝืนจะถูกตีตกได้
• ทางเลือกที่ 4: เพื่อไทย + ภูมิใจไทย ร่วมกันโหวตนายกฯ มาตรา 5(นายกรัฐมนตรีพระราชทาน)
ข้อเสีย : "ไม่เกิดผลประโยชน์กับทั้งพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย"และหากพรรคประชาชนไม่เลือกใครเลย อาจนำไปสู่ 3 สถานการณ์ที่พรรคไม่ต้องการ:
• พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำชุดเดิม
• พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ (โดยเพื่อไทยและภูมิใจไทยจับมือกัน)
• เกิดสุญญากาศทางการเมือง นำไปสู่ "อำนาจนอกระบบ"

SYNAPSE STRATEGY

หุ้นไทยยังแข็งแกร่ง การเมืองไม่ถึงทางตัน
การเมืองยังไม่ถึงทางตัน หนุนตลาดหุ้นไทยยังแข็งแกร่งกว่าภูมิภาค วานนี้ +0.64% เป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจาก จีน +2.2% พร้อมกับต่างชาติสลับมาซื้อสุทธิ 347 ล้านเหรียญ

ค่าเงินบาทอยู่ในโซนแข็งค่า พร้อมกับราคาน้ำมันเริ่มฟื้น +1.3% ในวานนี้ ดีต่อหุ้นไทยที่อิงราคาCOMODITY ถึง 1 ใน 3

แนะนำหุ้นเด่น PTTEP, CPALL, SPALI และ DR : LVMH01, TENCENT80

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์