Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

105

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 29 ส.ค.68 ปิด -13.48 จุด อยู่ที่ 1,236.61 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,475 ลบ. ต่างชาติขาย 3,951 ลบ. สถาบันขาย 109 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 395 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,666 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 4,265 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น CPN,COM7,TIDLOR,AWC,TFG และยอดขายหุ้น CPALL,CPF,SCC,MINT,SCB มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,111 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ MEGA,MTC,SPALI โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 7,270 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 81,689 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,846 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ -0.20%, S&P500 -0.64%, Nasdaq -1.15% จากแรงขายกลุ่มเทคโนโลยี -1.63% นำโดย Dell -9% หลังต้นทุนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้กับ Ai สูงขึ้น ขณะที่กลุ่มบริการสุขภาพ +0.73%, สินค้าอุปโภค +0.64% ส่วนข้อมูล US PCE ก.ค. +2.6% YoY ตามคาดการณ์ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.64% ถูกกดดันจากกลุ่มธนาคารยุโรป -0.90%, เทคโนโลยีปรับลดลง ASML -2.7%, SAP -1.9% ขณะที่กลุ่มป้องกันประเทศ +0.4%
  • Market View
  • DJIA -0.19%, S&P500 -0.10%, Nasdaq -0.19% WoW หลังกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง นำโดย Nvida แม้ว่ากำไร Q2/68 จะดีกว่าคาด แต่กังวลต่อนโยบายของสหรัฐที่จำกัดการส่งออกชิป AI ไปตลาดจีน รวมถึงจีนที่เน้นการใช้ชิปที่ผลิตในประเทศแทนการนำเข้า และยังกังวลต่อความเป็นอิสระของเฟด หลัง ปธน.ทรัมป์สั่งปลด Lisa Cook ผู้ว่าการเฟดจากข้อหาให้ขัอมูลเท็จในการขอสินเชื่อซื้ออสังหา ฯ โดยศาลกำลังไต่สวนคำสังของปลดของ ปธน.ทรัปม์ว่าขอบหรือไม่ ขณะที่ศาลอุทธรณ์สหรัฐมีคำสั่งชี้ ม.ปรับขึ้นภาษีศุลกากรของ ปธน.ทรัมป์นั้น ไม่ถูกต้องตาม กม. ส่วนข้อมูล US Core PCE ก.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 9% & มิ.ย. 2.8% YoY ตามคาดการณ์ ซึ่ง CME FedWatch ชี้มีโอกาส 86.4% จะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุม 17 ก.ย. หลังตลาดแรงงานสหรัฐมีแนวโน้มชะลอตัว สัปดาห์นี้วันจันทร์ ตลาดหุ้นสหรัฐปิดในวันแรงงาน และวันศุกร์ ติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ส.ค. คาดเพิ่มขึ้น 75,000 & ก.ค.73,000 ราย, อัตราว่างงาน ส.ค. คาด 4.3% & ก.ค. 4.2%
  • Stoxx600 ยุโรป -1.98% WoW จากแรงขายกลุ่มผู้ผลิตชิปที่ปรับลดลงตาม Nvidia และกลุ่มธนาคาร -0.90% นำโดย Natwest, Barclays, Lloyds หลังรัฐบาลอังกฤษจะเก็บภาษีจากดอกเบิ้ยเงินที่ฝากไว้กับ BOE ขณะที่ CAC-40 ฝรั่งเศส -3.3% WoW หลังนายก ฯ ฝรั่งเศสมีโอกาสถูกพรรคฝ่ายค้านลงมติไม่ไว้วางใจในวันที่ 8 ก.ย. เนื่องรัฐบาลกำลังพิจารณาลดค่าใช้และเพิ่มภาษีมูลค่ารวม 4 หมื่น ล.ยูโร เพื่อชดเชยกับภาระหนี้ปีนี้มูลค่า 6.6 หมื่น ล.ยูโร ส่วนข้อมูล CPI เยอรมัน ส.ค.ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.2% & ก.ค. 2.0% YoY และ CPI สเปน ส.ค. ทรงตัวอยู่ที่ 2.7% YoY บ่งชี้เงินเฟ้อยูโรโซนมีโอกาสสูงกว่า 2.0% ดังนั้นการประชุม ECB วันที่ 11 ก.ย. มีโอกาสคงดอกเบี้ย
  • MSCI Asia Pacific X Japan -0.34% WoW ทรงตัวระหว่างรอข้อมูล US PCE ก.ค. เพื่อประเมินโอกาสลดดอกเบี้ยของเฟดใน ก.ย. กอปรกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดเอเชียเหนือปรับลดลงตาม Nvidia จากความกังวลนโยบายของจีนที่เน้นการใช้ชิปที่ผลิตในประเทศ ส่วนข้อมูล Tokyo Core CPI ก.ค. อยู่ที่ 5% & มิ.ย. 2.9% YoY แต่ยังอยู่สูงกว่าเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2% ส่งผลให้ BOJ มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้
  • SET -1.34% WoW ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย/วัน 68 หมื่น ลบ.+11.9% WoW ต่างชาติขาย 12,393 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 805 ลบ. สถาบันซื้อ 2,347 ลบ. และรายย่อยซื้อ 10,851 ลบ. WoW โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงชายทำกำไรกลุ่ม Global Play เข่น ปิโตรเคมี, บรรจุภัณฑ์, ขนส่ง หลังหุ้นกลุ่มเหล่านี้ได้มีการฟื้นตัวขึ้น ตอบรับข่าว ม.ลดกำลังการผลิตส่วนเกินสินค้าอุต ฯ ของจีนและเกาหลีใต้ ขณะที่เม็ดเงินได้สลับเข้าซื้อในกลุ่มธนาคารหลังการประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปี ส่วนกลุ่มไฟแนนท์ได้ปัจจัยหนุนต้นทุนด้านการเงินมีแนวโน้มลดลง โดยสัปดาห็ก่อนดัชนีทรงตัวระหว่างรอศาล รธน.วินิจฉัยคดีคลิปเสียงของนายก ฯ กับฮุนเซน ซึ่งศาลได้มีมติ 6 – 3 ชี้การกระทำของนายก ฯ เข้าผิดจริยธรรมร้ายแรง ส่งผลให้คุณสมบัตินายก และ ครม.ทั้งคณะได้สิ้นสุดลง โดยสถานการณ์ปัจจุบันพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทยอาจจะต้องตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยอาศัยเสี่ยงจากพรรคประชาชนในการเสนอชื่อนายก ฯ ท่านใหม่ ซึ่งเป็นรัฐบาลชั่วคราวเพื่อทำประชามติเพื่อแก้ไข รธน.ผ่านทาง สสร. และยุบสภาภายใน 4 เดือน ซึ่งจะมีการเปิดสภา ฯ วันที่ 3 – 5 ก.ย. เพื่อดำเนินสรรหานายก ฯ ท่านใหม่ แต่หากสรรหานายก ฯ ไม่ได้ ยังต้องติดตามว่ารักษาการนายก ฯ คุณภูมิธรรมจะมีอำนาจเสนอกฤษฎีกาเพื่อยุบสภาได้หรือไม่

Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,210 – 1,228 แนวต้าน 1,250 คาดดัชนีผันผวนตามข่าวการฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลใหม่ก่อนการเปิดสภา ฯ วันที่ 3 ก.ย. ดังนั้นจึงแนะนำทยอยซื้อาหุ้นกลุ่มปลอดภัย เช่น GULF,GPSC,BH,CPF และกลุ่มที่จ่ายเงินปันผลสูง เช่น SCB, KBANK, TISCO, TFG, ICHI, SIRI, PTTEP
  • PTTGC (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 50 บาท) แนวโน้ม 3Q68 คาดผลการดำเนินงานฟื้นตัว QoQ มีปัจจัยหนุนจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่ผ่านช่วงการปิดซ่อมบำรุง คาดหวังมาตรการตุ้นเศรษฐกิจของจีนเพิ่มเติม ส่วนธุรกิจโรงกลั่นอยู่ในเกณฑ์ดีจาก GO spread ที่อยู่ในระดับสูง อีกทั้งคาดผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบจะลดลง อย่างไรก็ตามใน 4Q68 มีโอกาสที่ผลการดำเนินงานจะกลับไปอ่อนตัวอีกครั้งเนื่องจากมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและอะโรมาติกส์ตามแผน ส่วนในปี 68 ทยอยฟื้นตัวโดยหลักมาธุรกิจโอเลฟินส์ (Ethane feedstock เพิ่มขึ้น) และ Allnex (ปริมาณขายฟื้นตัว) รับรู้ขาดทุนของ Vencorex ลดลงและไม่มีค่าใช้จ่ายด้อยค่าก้อนใหญ่เหมือนปีก่อน
  • GULF* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 61.70 บาท) 2Q68 แม้ตัดกำไรพิเศษจากการควบรวมธุรกิจGULF-INTUCH ราว 5.4 หมื่นลบ.ออกไป กำไรปกติยังสามารถ +YoY +QoQ ได้ มีแรงหนุนจากปริมาณขายไฟที่สูงขึ้น รวมถึงส่วนแบ่งกำไรที่สูงขึ้นจาก ADVANC, และโครงการ Jackson ในสหรัฐฯ ส่วนการดำเนินงานการดำเนินงานปกติในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าจะยังมีปัจจัยบวกต่อเนื่องจาก ADVANC และโรงไฟฟ้า Jackson นอกจากนี้จะมีการ COD โซลาร์ฟาร์ม 5 โครงการ/โซลาร์แบตตเตอร์รี่ 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 597 MW ทั้งนี้ BB Consensus คาดว่าในปี68 และ69 Profit ของ GULF* จะอยู่ที่ 25,803 ลบ. และ 29,151 ลบ.(+13%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI ต.ค.-$0.59 อยู่ที่ $64.01 / บาร์เรล, Brent ต.ค. -$0.50 อยู่ที่ $68.12/บาร์เรล รอผลการประชุมโอเปกพลัสใน ก.ย. ซึ่งมีโอกาสเพิ่มกำลังการผลิตใน ต.ค. ในภาวะที่อุปทานล้นตลาด ขณะที่อุปสงค์ชะลอตัว

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$41.80 อยู่ที่ $3,516.10 /ออนซ์ หลังรายงาน US PCE ก.ค. เป็นไปตามคาดการณ์ กอปรกับนักลงทุนเลือกที่จะพักเงินในสินทรัพย์ หลัง ปธน.ทรัมป์สั่งปลด Lisa Cook ผู้ว่าการเฟด ส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อความเป็นอิสระของเฟด

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP สัปดาห์ก่อน ขายสุทธิ -357.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -382.68 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +92.27 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -67.30 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 32.28 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.234 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +8 อยู่ที่ 2,025

(-) BitCoin เช้านี้ -0.94% อยู่ที่ 108,351 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย

 

ต่างประเทศ

01 ก.ย.     US วันแรงงาน-วันหยุด

02 ก.ย.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) ( ส.ค.) 

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ( ส.ค.)

03 ก.ย.     US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( ก.ค.)

04 ก.ย.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

                US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ส.ค.)

                US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ ( ส.ค.)) 

05 ก.ย.     US อัตราการว่างงาน ( ส.ค.)

                US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) ( ส.ค.)

 

Theme Strategy

Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง,  Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง    

 

(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*

 

(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG

 

(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*

 

(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*

 

(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*

 

(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*

 

(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio September 2025: KLINIQ, ITC*, PTTGC*, GULF*, TIDLOR*

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

SSP คว้าเกียรติบัตรโครงการ “ESG DNA” ตอกย้ำพันธกิจสพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน

SSP คว้าเกียรติบัตรโครงการ “ESG DNA” ตอกย้ำพันธกิจสพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืน

รอนายกฯ-ครม.ใหม่ By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ตลาดหุ้นไทย นักลงทุน ยังชะลอลงทุน ตลาดหุ้นไทยไม่คึกคัก ด้วยตัวแปรการเมืองในประเทศ กดดัน....

LEO มั่นใจครึ่งหลังปี 68 โตต่อ! ลุย Green Logistics สร้างรายได้ยั่งยืน

LEO มั่นใจครึ่งหลังปี 68 โตต่อ! ลุย Green Logistics สร้างรายได้ยั่งยืน

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้