Company Note
Asian Alliance International

สรุปการประชุมนักวิเคราะห์ (28/8/25)

บริษัทปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2025F จากเดิม 7.3 พันล้านบาท มาที่ 7.1 พันล้านบาท (+3.4% YoY) โดยบริษัทคาดผลประกอบการไตรมาส 2-3 ใกล้เคียงกัน เนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างการปรับตัวจากผลกระทบภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และคาดจะกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 4 สำหรับเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโตลดลง เนื่องจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่าเป็นหลัก และผลกระทบภาษีนำเข้าสหรัฐฯ โดย 1) ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง (Pet Food) บริษัทคาดยังเติบโตได้ 6.6% YoY แม้ว่าผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะกระทบรายได้ในเชิงมูลค่าจากการที่บริษัทมีการช่วยบรรเทาภาระต้นทุนลูกค้าที่เพิ่มขึ้นบางส่วน แต่ในเชิงปริมาณบริษัทมั่นใจว่าจะไม่ลดลง จาก demand อาหารสัตว์เลี้ยงที่ยังเติบโตตามประชากรสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น ลูกค้ามีการปรับตัวด้านผลิตภัณฑ์ออกสินค้าใหม่ที่มีราคารองรับสถานการณ์ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น 2) ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานสำหรับมนุษย์ (Human Shelf-Stable) (สัดส่วนรายได้ 10%) คาดรายได้ลดลง 13% YoY เนื่องจากตลาดหลักในตะวันออกกลางยังมีปัญหาความไม่สงบในภูมิภาค และอัตรากำไรขั้นต้นคาด 16-18% (จากเดิม 18-20%) จากค่าเงินที่อ่อนค่าของ US$ แต่ยังมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มราคาปลาทูน่าที่ลดลงช่วยชดเชยอัตราทำกำไรได้บางส่วน

งบลงทุนปี 2025 คาดที่ 700-800 ล้านบาท จากเดิม 1 พันล้านบาท แบ่งเป็น 1) คลังสินค้าอัตโนมัติแห่งที่ 2 กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาส 2 ปี 2569 2) อาคารโรงงานใหม่ เลื่อนออกไปปีหน้า คาดว่าจะรองรับกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียกได้เพิ่มอีกอย่างน้อย 21,000 ตัน รวมกำลังการผลิตเป็น 80,000 ตัน ตามแผนระยะยาวของ AAI แหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสด

เรายังคงประมาณการเดิมคาดกำไรปีนี้ลดลงและจะกลับมาดีขึ้นในปีหน้า

แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังคาดว่าจะอ่อนตัวกว่าครึ่งปีแรก จากอัตราทำกำไรจะอ่อนตัวเทียบกับครึ่งปีแรกจากการช่วย support ลูกค้าจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่า เรายังคงประมาณการปี 2025-26F คาดกำไรสุทธิปี 2025F-2026F อยู่ที่ 853 ล้านบาท (-15% YoY) และ 989 ล้านบาท (+16% YoY) คาด 1) ธุรกิจ Pet Food ปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาสินค้าใหม่ร่วมกับคู่ค้า บริษัทยังมีการออกสินค้าใหม่ Functional pet food ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น แต่ราคาขายเฉลี่ยลดลงจากการช่วยบรรเทาผลกระทบภาษีการนำเข้าสหรัฐฯกับคู่ค้า 2) ธุรกิจ Human Food คาดลดลง เนื่องจากตลาดหลักในตะวันออกกลางยังมีปัญหาความไม่สงบในภูมิภาค คาดอัตราทำกำไรลดลงอยู่ที่ 16.7% จากการช่วย support คู่ค้าด้านราคาขาย คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารปี 2024-25F ลดลงจากการลดค่าใช้จ่ายโฆษณาการทำการตลาด

ยังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 4.70 บาท อ้างอิง PER -1SD ที่ 10X เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการยังต่ำกว่าปีก่อน จากผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และปีหน้าคาดการณ์ว่าจะกลับมาเติบโตหลังสถานการณ์เริ่มปรับตัวกลับมาปกติ บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง (Net Cash) และคาดว่าเงินปันผลจะอยู่ที่ Dividend Yield’26F 4.8% ความเสี่ยงสำคัญยังคงเป็นรายได้ที่อาจต่ำกว่าคาดการณ์ ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว