Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.เมย์แบงก์ : AT THE OPEN

109

 


AT THE OPEN (#ATO)
SET Index ปรับขึ้น
เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัว


Market Strategy
SET Index คาดแกว่งขึ้นตามกรอบ 1250-1270 จุด หนุนจากภาวะตลาดที่มองบวกต่อการลดดอกเบี้ยฯของ FED ศาลยกฟ้องคดี ม.112 คุณทักษิณและกระแสงาน Thailand Focus ส่วนวันนี้ติดตามรายงานส่งออกเดือน ก.ค. ของไทย ตลาดคาด +9.6%YoY หุ้นเด่นวันนี้เลือก WHA และ KTC

การส่งสัญญาณของประธาน FED ในการประชุม Jackson Hole จากความกังวลต่อตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น ด้านผลกระทบจากภาษีต่อเงินเฟ้ออาจเป็นปัจจัยชั่วคราว แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะยืดเยื้อกว่าที่คิด ซึ่ง FED จะต้องสร้างสมดุลต่อความเสี่ยงทั้ง 2 ด้าน ซึ่งส่งผลให้ตลาดให้น้ำหนักว่า FED จะลดดอกเบี้ยฯ ในการประชุม ก.ย. ด้วยโอกาสเพิ่มเป็น 84% จากเดิม 75% และลดดอกเบี้ยฯ อีกครั้งในเดือน ธ.ค. ด้วยโอกาส 48% หนุนให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้น 1.5% U.S. Bond Yield 10 ปีลดลง -6.8 bps และ Dollar Index อ่อนค่า 0.9% เชื่อว่าเป็นบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นเอเชียและบ้านเราในวันนี้ มองหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง น่าจะปรับขึ้นเด่น เช่น กลุ่มไฟแนนซ์ SAWAD MTC KTC กลุ่มโรงไฟฟ้า GPSC CKP BCPG เป็นต้น

ประเด็นการเมือง วันศุกร์ที่ผ่านมา ศาลฯ ยกฟ้องคดี ม.112 ของคุณทักษิณ ช่วงสั้นมองเป็นบวกต่อสถานะของพรรคเพื่อไทยและรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ยังต้องตาม ศาลฯ นัดฟังคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงของนายกฯ ในวันที่ 29 ส.ค. 15.00 น. ต่อไป ซึ่งเราเชื่อว่าหากผลออกมาเป็นบวกต่อนายกฯ เชื่อว่าตลาดจะตอบรับในเชิงบวกระยะสั้นต่อความเสี่ยงสูญญากาศทางการเมืองที่หมดไป แต่หากออกมาเป็นลบต่อนายกฯ เรายังเชื่อว่า SET Index ผันผวนแต่ Downside ในการปรับลงจำกัดบนสมมติฐานไม่มีการยุบสภา
การจัดงาน Thailand Focus ระหว่างวันที่ 27-29 ส.ค. จากสถิติ 4 ปีที่ผ่านมา SET Index มักให้ผลตอบแทนเชิงบวกเฉลี่ย 0.7% ระหว่างการจัดงาน และสามารถปรับขึ้นต่ออีกเฉลี่ย 1.5% ในช่วง 5 วันทำการถัดไป ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อทิศทาง SET Index ช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ ทั้งนี้ หุ้นที่ร่วมงานฯ มักมีผลตอบแทน Outperform ตลาด ซึ่งเราชอบ CPN COM7 CBG AWC และ WHA รายละเอียดเพิ่มเติมติดตามบทวิเคราะห์ Strategy Update ฉบับวันนี้ (24 ส.ค. 68)

 

Market Summary
SET Index ปรับขึ้น 8.6 จุด แรงหนุนหลักมาจากกลุ่มอิเล็คฯ จากยุโรปทำข้อตกลงสหรัฐฯ จำกัดภาษีรถยนต์และเซมิคอนดักเตอร์ให้ถูกเก็บระดับ 15% หนุน DELTA +3% HANA +6.9% KCE +0.9% กลุ่มขนส่งหลักๆ มาจากหุ้นสายการบิน นำโดย THAI +7.5% AAV +1.6% BA +0.7% และกลุ่มท่องเที่ยว ERW 0.8% AWC +0.8% จากรมว.ท่องเที่ยวเตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวต่างชาติ ผ่านการซื้อตั๋ว International Flight แถม Domestic Flight ส่วนกลุ่มที่ Underperform กลุ่มปิโตรฯ สายโอเลฟินส์ PTTGC -3.6% IRPC -3.7% SCC -1.8% จากแรงขายทำกำไรหลังรับข่าวเกาหลีใต้เตรียมลดกำลังการผลิตแนฟทา


DAILY Stock Pick
KTC
เก็งกำไร หุ้นเข้า MSCI
ก่อนมีผลวันพรุ่งนี้
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 34.00 บาท
MSCI ประกาศนำ KTC เข้าไปคำนวณ MSCI Global Small Cap วันที่ 26 ส.ค. 68 ระยะสั้น หนุนให้เกิดแรงเก็งกำไร ก่อนการนำเข้าไปคำนวณ ในขณะที่ KTC ตั้งเป้าขยายธุรกิจเข้าสู่ insurance brokerage ก่อนปี 2569 หนุนกำไรในระยะถัดไป
KTC YTD -45.1% เทียบ SET Index -10.4% ในช่วงเวลาเดียวกัน ถูกกดดันจากแรงขายมหาศาล แต่อย่างไรก็ตามพื้นฐานของธุรกิจยังคงแข็งแกร่ง โดยมี ROA สูงสุดในกลุ่มการเงิน 6.7% ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ราคาปัจจุบันถูกซื้อขายใกล้เคียงระดับ -1.75SD ทั้ง PE68 และ PBV68 พร้อมกับอัตราเงินปันผลปี 68 สูงถึง 5.2% ช่วยจำกัด Downside

 

 

 

WEEKLY Stock Pick
WHA
สถิติหุ้นเข้าร่วม Thailand Focus มัก outperform
เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 4.00 บาท
จากสถิติ 4 ปีย้อนหลัง พบว่าหุ้นที่เข้าร่วมงาน Thailand Focus มักมีแนวโน้ม Outperform ตลาด โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +3.9% เทียบ SET index +3.5% ในช่วงเวลา ก่อนงานเริ่ม 3 วันทำการ (วันที่ 25 ส.ค. 68) และขายหลังงานจบ 5 วัน (5 ก.ย.68) ในปีนี้ WHA ยังคงเข้าร่วมในงาน ซึ่งเราคาดว่าจะเป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจบน theme China+1
WHA YTD -34.2% เทียบกับ SET Index -10.4% ในช่วงเวลาเดียวกัน ยังคง underperformed SET ถึง 23.8% โดยบริษัท รายงาน Backlog รวม JV ในงวด 2Q68 ที่ 1.5 พันไร่ (ไม่ถูกกระทบจากมาตรการภาษี) เทียบกับเป้ายอดขายที่ 2.4 พันไร่ WHA ตั้งเป้าในปี 68

 


KEY FACTOR
ในการประชุม Jackson Hole ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธาน Fed ส่งสัญญาณเชิงผ่อนคลายที่ชัดเจนขึ้นมากกว่าตลาดคาดการณ์ โดยให้น้ำหนักความเสี่ยงทางเศรษฐกิจเริ่มเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะตลาดแรงงานที่ยังอ่อนแอ คาดโทนดังกล่าวจะทำให้ตลาดปรับคาดการณ์ดอกเบี้ยผ่อนคลายมากขึ้น ล่าสุด Fed Fund Rate Futures สะท้อนโอกาสการลดดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 2.1 ครั้ง (จาก 1.9 ครั้ง ในสัปดาห์ที่ผ่านมา) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งกลุ่มที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากดอกเบี้ยขาลง รวมถึงโอกาสที่ Fund flow ต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาสู่ตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทย หลังจากที่ในช่วง 7 วัน ทำการที่ผ่านมาขายสุทธิต่อเนื่อง สะสมสูงถึง -7.24 พันล้านบาท

EYES ON
ในสัปดาห์ ตัวเลขส่งออกไทย
28 ส.ค. GDP 2Q68 ของสหรัฐฯ (รายงานครั้งที่สอง), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Eurozone
29 ส.ค. PCE เดือน ก.ค. ของสหรัฐฯ


นักกลยุทธ์ : ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์, ชาญชัย พันทาธนากิจ, ออมทรัพย์ โง้วศิริ

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

PTG โชว์ฟอร์ม Non-Oil โตแรง ครึ่งแรกปี 68 "กาแฟพันธุ์ไทย– สมาชิก PT Max Card" หนุนการเติบโต

PTG โชว์ฟอร์ม Non-Oil โตแรง ครึ่งแรกปี 68 "กาแฟพันธุ์ไทย– สมาชิก PT Max Card" หนุนการเติบโต

ถึงคิวโรงไฟฟ้า By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้าวันนี้ ถึงคิวธีมหุ้นโรงไฟฟ้า รับประโยชน์บาทแข็ง ดอกเบี้ยส่อแววลด ....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้