Company Note
SAPPE
สรุปประชุมนักวิเคราะห์
บริษัทยังคงเป้ารายได้ปี 2025F ลดลง 10-20%YoY และแนวโน้ม 3Q25 ยังอ่อนตัวจากเดิมที่คาดว่าจะดีขึ้น QoQ จากทวีปอเมริกาและทวีปเอเชียที่อ่อนตัวลงเป็นหลัก
บริษัทยังคงคาดรายได้ปีนี้ลดลง 10-20% จากสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ค่าเงินบาทที่แข็งค่า การส่งออกลดลงทุกทวีปโดยลดลงมากที่สุดได้แก่
กลุ่มทวีปยุโรป เนื่องจากประเทศอังกฤษมีปัญหาการขยายช่องทางจำหน่ายเข้าทาง modern trade จากการบริหารจัดการไม่เป็นไปตามคาด และประเทศฝรั่งเศสจากยอดขายชะลอตัวทำให้มีสินค้าค้างซึ่งได้เคลียร์จบได้ในครึ่งปีแรกและคาดจะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลัง
กลุ่มทวีปเอเชีย ประเทศเกาหลีใต้ยังเผชิญปัญหาภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการแข่งขันสูงขึ้น ประเทศอินโดนีเซียรับผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจ และปัญหาจากตัวแทนรุ่นใหม่แทนรุ่นเดิมซึ่งยังอ่อนประสบการณ์ในการบริหารจัดการ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับตัวแทนรายใหม่เพิ่มขึ้นจะเห็นในปีนี้
อเมริกา มีผลกระทบจากภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ส่งผลต่อการชะลอออเดอร์จากการปรับขึ้นราคา
ประเทศไทย คาดรายได้ปีนี้ยังเติบโตได้ 15-20% จากการออกสินค้าใหม่ โดยครึ่งปีแรกเติบโต 29% YoY และครึ่งปีหลังจะมีอัตราเติบโตน้อยกว่าจากจำนวนสินค้าใหม่ที่น้อยกว่า
อัตราทำกำไรขั้นต้นคาดทั้งปีบริษัทคาดลดลง 1-2% จากอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ลดลงตามรายได้และค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น บริษัทคาดที่ 33 บาท/US$ และอัตราการใช้กำลังการผลิตคาดลดลงเทียบกับปีที่ผ่านมา
ค่าใช้จ่ายในการขายทรงตัว 13% แต่ค่าใช้จ่ายในการบริหารคาดมูลค่าคาดลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 5%
แนวโน้ม 3Q25F บริษัทมองอ่อนตัวทั้ง YoY และ QoQ (บริษัทมองผ่านจุดพีคใน 2Q25 และใน 1Q25 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำสุด) จากการส่งออกที่ลดลงเป็นหลักจากในทวีปอเมริกาจากผลกระทบภาษีนำเข้าสหรัฐฯ และเอเชียจากประเทศอินโดนีเซียลดลง เนื่องจากตัวแทนจำหน่ายรุ่นใหม่ที่ยังอ่อนประสบกาณณ์ สำหรับกลุ่มประเทศที่มีแนวโน้มดีขึ้นได้แก่ทวีปยุโรป จากการเคลียร์สต๊อกสินค้าจบลงแล้ว และตะวันออกกลางเริ่มดีขึ้น ในส่วนประเทศไทยยังเติบโตจากการออกสินค้าใหม่
บริษัทเลื่อนเปิดโรงงานใหม่จาก 1Q26 เป็นปลายปี 2026 เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และกำลังการผลิตปัจจุบันที่ยังพอเพียง โดยคาดค่าเสื่อมจะอยู่ที่ 10 ล้านบาท/เดือน
เราคาดผลประกอบการปีนี้อ่อนตัว จากการส่งออกไม่เป็นไปตามคาดจากเศรษฐกิจชะลอตัว
คาดการณ์ของบริษัทใกล้เคียงกับประมาณการของเราที่เราคาดรายได้ปีนี้ลดลง 19%YoY และอัตรากำไรขั้นต้นที่เราคาดลดลงประมาณ 1.2% จากปีที่ผ่านมาจากผลกระทบค่าเงินบาทแข็งค่า ในขณะที่ SG&A อยู่ในกรอบของบริษัท
เรายังคงประมาณการเดิมคาดกำไรปี 2025-26F อยู่ที่ 995 ล้านบาท (-20%YoY) และ 1.1 พันล้านบาท (+11%YoY) ตามลำดับ จากคาดรายได้ส่งออกลดลง 29% จากการส่งออกไปทวีปยุโรปในประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสที่มี demand ที่ลดลง การขยายช่องทางจำหน่ายใน modern trade ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และประเทศเกาหลีใต้ที่อ่อนตัวลงจากภาพรวมเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ประเทศอินโดนีเซียมีปัญหาจากเรื่องตัวแทนจำหน่ายมีการเปลี่ยนทีมผู้บริหารใหม่ ความชำนาญด้านการตลาดยังมีไม่มาก สำหรับในประเทศคาดเพิ่มขึ้น 20% จาก
การทำการตลาดออกสินค้าใหม่ คาดอัตรามาร์จิ้นลดลงจากสัดส่วนการส่งออกที่ลดลงและคาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ
ยังคงคำแนะนำ “ถือ” จากแนวโน้มผลประกอบการปีนี้อ่อนตัว และคาดจะเริ่มกลับดีขึ้นในปีหน้า ราคาเป้าหมาย 37.5 บาท อ้างอิง PER-1.5SD เฉลี่ยที่ 11.5X จากผลประกอบการที่มีความผันผวนจากการส่งออกจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทั่วโลก ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย PER25F อยู่ที่ 11.6X Dividend Yield 25F อยู่ที่ 7.2% ROE25F อยู่ที่ 22.5% ฐานะการเงินแข็งแกร่ง D/E เพียง 0.3X ความเสี่ยง : เศรษฐกิจชะลอตัวและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น