วันพฤหัสบดีที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน เนื่องจากนักลงทุนจับตาการไต่สวนคดีคลิปเสียงนายกฯ และการประชุมประจำปีของเฟดในวันพรุ่งนี้ มีแรงซื้อนeโดยหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และปิโตรฯ มีแรงขายนำโดยหุ้น กลุ่มขนส่ง ธนาคาร และพลังงาน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,244.79 จุด -3.34 จุด -0.27% มูลค่าการซื้อขาย 49,180.56 ลบ. Program Trading -2,064.57 ลบ. ต่างชาติ -2,810.75 ลบ.TFEX -13,312 สัญญา ตราสารหนี้-1,359.14 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 81 เซนต์ หรือ +1.29% ปิดที่ 63.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน หลังจากรัสเซียและยูเครนต่างกล่าวโทษกันว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้กระบวนการสันติภาพหยุดชะงัก ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าคาดซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันยังคงแข็งแกร่ง
+ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.4 ในเดือนส.ค. สูงสุดในรอบ 8 เดือนจากระดับ 55.1 ในเดือนก.ค. ส่วนยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2%MoM สู่ระดับ 4.01 ล้านยูนิตในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.92 ล้านยูนิต
+ สหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐฯ เปิดเผยรายละเอียดของกรอบการค้าซึ่งได้บรรลุไว้เมื่อเดือนก.ค. โดยมีการกำหนดเพดานอัตราภาษีศุลกากร แต่ยังไม่ครอบคลุมภาคส่วนสำคัญอย่างไวน์และกฎเกณฑ์ด้านดิจิทัล
+ เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลสั่งการให้เจ้าหน้าที่เริ่มต้นเจรจาโดยทันทีเพื่อปล่อยตัวประกันในฉนวนกาซาและยุติสงคราม
+ ผลสำรวจของ GfK ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ GfK ในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -17 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. จากเดิมที่ระดับ -19 ในเดือนก.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากมุมมองด้านการเงินส่วนบุคคลของภาคครัวเรือน

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 152.81 จุด หรือ -0.34% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเจอโรม พาวเวล ประธาน FED อาจส่งสัญญาณสนับสนุนการคุมเข้มนโยบายการเงิน (hawkish) ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในวันนี้ และผิดหวังผลประกอบการของวอลมาร์ท(Walmart) บริษัทค้าปลีกรายใหญ่
- อิสราเอลได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีครั้งใหม่ต่อกาซา ซิตี้ เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส
- ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ของสหรัฐ ปรับตัวลง 0.1% ในเดือน ก.ค . สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์
ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมิ.ย.
- ญี่ปุ่นรายงานดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ปรับตัวขึ้น 3.1%YoY ในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3%YoY และสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กำหนดไว้ที่ระดับ 2% สนับสนุนคาดการณ์ว่า BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนจับตาการเมืองในประเทศ ประเด็นศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในคดีนายทักษิณ ชินวัตร และถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคาร ในวันนี้ คาดกรอบดัชนีวันนี้ที่
1,240-1,250 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-เที่ยวไทยคนละครึ่ง : AWC MINT ERW CENTEL SHR
- หุ้นที่ได้ประโยชน์จากมาตรการภาษีที่ต่ำกว่า 36% : AMATA WHA ROJNA TU ITC AAI HANA KCE DELTA
-MSCI ปรับน้ำหนักวันที่ 26 ส.ค. : MSCI Thailand เข้า - ออก HMPRO, OR MSCI Global Small Cap
เข้า KTC, HMPRO ออก ICHI, SISB, TPIPL
-หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : SAWAD TIDLOR THANI NCAP SAK
- รัฐบาลเปิด Sandbox ให้ชาวต่างชาตินำคริปโตแลกเงินบาทผ่านโครงการ TouristDigiPay : ธนาคาร KBANK SCB BAY โรงแรม MINT CENTEL ERW AWC สายการบิน AAV BA บันเทิง MAJOR
- ผู้ให้บริการระบบเสนอขาย G-Token : SCB KBANK XPG