สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(21 สิงหาคม 2568)------------LDC ปรับโครงสร้างภายในครั้งใหญ่ ลดขนาดหน่วยงานให้เล็กลงแต่มีประสิทธิภาพ ยุบหน่วยงานที่ไม่ทำกำไรสร้างความคล่องตัว ปรับราคา Repositioning ให้เข้าถึงลูกค้ายุคประหยัดร่วมกับระบบ CRM เตรียมพุ่งทะยาน ทำให้มีผลขาดทุนระยะสั้นในช่วงเปลี่ยนผ่าน ส่วนกลุ่มสินค้า Oral Care ภายใต้แบรนด์ "AFTERDENT" ที่ครึ่งปีแรกเติบโตโดดเด่นกว่า 47% เดินเกมขยายเครือข่ายต่อเนื่อง
ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC ผู้นำศูนย์ทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่ายในนาม "LDC Dental" เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง แม้ภาวะเศรษฐกิจยังท้าทาย แต่ LDC พร้อมต่อยอดจุดแข็งทันตกรรมแบบพรีเมียมในราคาที่เข้าถึงง่าย ตัดสินใจปรับโครงสร้างองค์กรและโมเดลธุรกิจครั้งใหญ่ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2/68 โดยปรับอัตราค่ารักษาและค่าบริการลดลงให้เหมาะสม เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่และรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง
จากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าว และมีการปิดบางสาขาที่ไม่มีศักยภาพ ทำให้รายได้จากการให้บริการรวมอยู่ที่ 78.35 ล้านบาท ลดลง 13.82% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีผลขาดทุนสุทธิ 4.04 ล้านบาทเนื่องจากกำไรต่อหน่วยลดลง 25% จากการปรับราคา และการจ่ายค่าชดเชยจากการเลิกจ้างให้กับพนักงาน แต่จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้น 2.77% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายได้จากการขายสินค้าเติบโต 47.31% โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพช่องปาก (Oral Care) ภายใต้แบรนด์ AFTERDENT ผลิตภัณฑ์เฮ้าส์แบรนด์ที่ร่วมพัฒนากับทันตแพทย์เฉพาะทาง วางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรดต่างๆ เช่น SaveDrug, Gourmet Market, ร้านยากรุงเทพ ที่มีสาขาทั่วประเทศ สะท้อนศักยภาพการขยายตัวของธุรกิจสินค้าเพื่อสุขภาพช่องปากที่มีโอกาสเติบโตสูง
อย่างไรก็ดี การขาดทุนที่เกิดจากการปรับกลยุทธ์ การ Repositioning ปรับราคาและปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น จึงต้องยอมรับผลกระทบระยะสั้นเพื่อโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าใหม่และเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว
สำหรับทิศทางในไตรมาส 3/2568 บริษัทยังคงเดินหน้าปรับโครงสร้างภายในและเปิดใช้งานโปรแกรม CRM เต็มรูปแบบเพื่อเก็บข้อมูล วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และออกแบบโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้าเก่า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการต้นทุน และเพิ่มอัตราการใช้บริการต่อสาขาให้สูงขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าขยายเครือข่ายช่องทางการจำหน่ายกลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพช่องปากภายใต้แบรนด์ AFTERDENT และเตรียมรับรู้รายได้จากสาขาสุราษฎร์ธานีที่คาดว่าจะเปิดให้บริการปลายไตรมาสนี้
ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันในตลาดทันตกรรมทั่วไปยังคงแข่งขันสูง ซึ่ง LDC Dental สามารถสร้างความแตกต่างได้ด้วยมาตรฐานการให้บริการแบบพรีเมียม แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำ คาดว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง บริษัทจึงตัดสินใจ Brand Repositioning ครั้งใหญ่ครั้งนี้
ในด้านการบริหารธุรกิจบนหลักธรรมาภิบาลที่ดี LDC ยังได้รับคะแนนประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM Checklist 2568) ระดับดีเลิศ 100 คะแนนเต็ม (5 เหรียญ) ตอกย้ำการให้ความสำคัญต่อสิทธิและการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียม โปร่งใส เป็นไปตามหลักการบริหารงานที่ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี นอกจากนี้ บริษัทฯยังสานต่อความร่วมมือกับสถาบันกวดวิชา Up Skill Center จัดกิจกรรมเวิร์กช็อป "โครงการเตรียมแพทย์" เพื่อส่งเสริมความรู้และเตรียมความพร้อมแก่นักเรียนที่สนใจศึกษาต่อด้านทันตกรรม ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมากว่า 10 ปี สะท้อนพันธกิจขององค์กรในการสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์อย่างยั่งยืน