Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

100

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม


สรุปภาพตลาดวานนี้

หุ้นไทยย่อก่อน แล้วเด้งกลับแรง โดยมีแรงหนุนจากปิโตรเคมี SCC PTTGC IVL หนุนขึ้นมาแรง (จากข่าวเกาหลีใต้ เตรียมลดกำลังการผลิต) กลุ่มไอซีที TRUE ADVANC และการรีบาวน์ของห้างฯ CRC CPN ขณะที่การขายกดดันดัชนีไม่มาก แม้ว่า THAI DELTA CCET จะลบพร้อมกัน (แต่ไม่แรง)

แนวโน้มตลาดวันนี้
1230 เอาอยู่รับแล้วบวกเลย
หุ้นไทยเอาอยู่ไม่หลุดกรอบแนวรับย่อย 1230 จุด และรีบาวด์กลับทันทีตามแรงซื้อหุ้นกลุ่ม ปิโตรเคมี โรงกลั่น (นำโดยหุ้น SCC PTTGC IVL TOP ฯลฯ) ตลอดจนหุ้นรายตัว เช่น TRUE SAWAD WHA
จากประเด็นต่างประเทศที่เซอร์ไพร์สตลาด เช่น ธนาคารกลางอินโดนีเซียสั่งลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 0.25% เหลือ 5% หวังกระตุ้นเศรษฐกิจอินโดฯ และเกาหลีใต้สั่งบริษัทปิโตรเคมีปรับลดกำลังการผลิต

จากข่าวดังกล่าว เราคาดกลุ่มเด่นที่บวกขึ้นก่อนหนีไม่พ้นหุ้นปิโตร โรงกลั่น ที่เชื่อมโยงตรง ทั้งโอกาสเพิ่มคำสั่งซื้อ และ ราคาส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่ จะเพิ่มขึ้นหาก อุปทานในตลาดภูมิภาคลดลง กอปรกับ บจ.ปิโตร โรงกลั่น ไทยมีการลงทุนในอินโดนีเซียค่อนข้างมีนัยยะต่อสัดส่วนรายได้ จะได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจอินโดฯที่ ได้แรงกระตุ้นจากนโยบายดอกเบี้ย แถมการส่งออก และอุปทานตึงตัว

กระแสการลงทุนลักษณะนี้ เราคาดหุ้นกลุ่มถัดไปที่น่าจะเล่นตามน้ำได้ ได้แก่ นิคมฯ, หุ้นส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรฯ และผลิตผลต่อเนื่องปิโตรฯ, โรงไฟฟ้า จากโอกาสเพิ่มกำลังการผลิตในฝั่งนี้เพื่อชดเชยกำลังผลิตภูมิภาค และการขยายตัวของเศรษฐกิจภูมิภาค

กลยุทธ์การลงทุน

กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ ถือหุ้นปันผล สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลงมาตามแนรับ เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลระหว่างกาลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค

SET เริ่มรีบาวด์ภายหลังปรับฐานลงมาเทสตำแหน่ง Fibonacci retracement 1,228 จุด (low ของวัน)และเข้าใกล้เส้น EMA 25 วัน นอกจากนี้ดัชนีปรับตัวลงมาแล้วทั้งสิ้น 4 วันติดต่อกัน อย่างไรก็ตามเราคาดว่าดัชนียังอยู่ในคลื่นขาลง corrective wave a-b-c ล่าสุดเข้าสู่โซนรีบาวด์ “b” wave โดยคุณสมบัติของคลื่นนี้ จะเป็นสัญญาณฟื้นตัวระยะสั้น จุดสังเกต ดัชนีจะขึ้นแต่ไม่สามารถทำจุด high ใหม่หรือเกินกว่า 1,283 จุด หลังจากนั้นจะมีการปรับตัวลงอีกครั้ง ทิ้งไผ่ใบสุดท้าย wave (c) นั่นเอง...ดังนั้นการดีดตัวขึ้นเข้าใกล้โซนต้าน 1,270 ขึ้นไป อาจต้องระมัดระวัง แรงขายทำกำไรระยะสั้น! ส่วนมุมมองระยะกลางยังมองขึ้นได้อีก เป้าหมาย 1,330 จุด มีขึ้นบ้างสลับลงบ้างก่อนถึงเป้าหมายที่ปักธงไว้....
ไฮไลท์หุ้นแนะนำ: SCC ไปต่อ อาจยังไม่พอแค่นี้/ รีวิว หุ้นตระกูล “K” ยังไปได้สวย/ หุ้นเด่นเลือก CPF, BBL และ TOP ติดตามกลยุทธ์การเทรดในหน้าเลือกหุ้นเด่นประจำวันครับ

 


What to watch
ศาลรัฐธรรมนูญนัดลงมติคดีปมคลิปเสียงนายกฯ วันที่ 29 สค.และ วันที่ 9 ก.ย. เวลา 10:00 น. ศาลฏีกาได้นัดฟังคำสั่ง คดี”ทักษิณรักษาตัวชั้น 14” การสะดุดของรัฐบาลอาจมีผลผูกพันไปยังงบประมาณที่กำลังจะผ่านสภาฯ-อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณปี 68-69
สภาล่าง (สส.) ผ่านร่างงบประมาณปี 69 แล้ว ลำดับถัดไปคือ การพิจารณาของ สภาสูง
สภาพัฒน์รายงาน GDP ไทยไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 2.8% y-y ดีกว่าที่ตลาดคาด 2.5-2.7%
ครม.ไฟเขียว ร่าง พ.ร.บ.สถาบันค้ำประกันเครดิต...เพื่อก่อตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) ให้เป็นกลไกสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SME โดย NaCGA ในอยู่ในฐานะหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ แหล่งทุนของ NaCGA ประกอบด้วย 1. เงินอุดหนุนจากรัฐบาล 2. ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันจากผู้ประกอบการ และ 3. เงินสมทบจากธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนตามเงื่อนไข ทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพางบประมาณภาครัฐเพียงอย่างเดียว


FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92.6% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.นอกจากนี้ FedWatch Tool บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมเดือนต.ค.

หุ้นแนะนำวันนี้
WHA กระแสเงินลงทุนดาต้าเซนเตอร์ในไทยจากทั้ง GOOGL AWZ ฯลฯ กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง จากความชัดเจนเรื่องมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลตามข้อตกลงการค้าสหรัฐล่าสุด แนวรับ 3.55 / 3.50 ต้าน 3.70 - 3.80 Stop loss 3.40

Tactical port เพิ่ม WHA AMATA

 

 


รายงานพื้นฐานวันนี้

Bank Sector

สิ่งที่เปลี่ยนไป หลัง กนง. หั่นดอกเบี้ย
หลังที่จาก กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา สิ่งที่แตกต่างจากการปรับลดดอกเบี้ยรอบก่อน คือเราเห็นธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงขึ้นเมื่อเทียบกับการปรับลดดอกเบี้ยในช่วง 3 ครั้งที่ผ่านมา

โดยเราเห็น BBL นำร่องประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bps สำหรับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง M-rate (MLR, MRR และ MOR) ในคืนวันที่ 13 ส.ค. และธนาคารอื่นก็ปรับลดลงในอัตราเดียวกัน โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบก่อนหน้านี้ ธนาคารจะใช้เวลาราว 1 สัปดาห์ ในการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่กนง. ปรับลดดอกเบี้ยไปแล้ว และก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียงราว 5-15bps เท่านั้น

ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของเราได้มีการปรับมุมมองการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ และอีก 1 ครั้ง ในต้นปีหน้า ลงมาที่ 1% ซึ่งเราคาดว่าธนาคารจะมีการส่งผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใกล้เคียงกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในรอบนี้


โดยประมาณการ NIM ปัจจุบันของเรายังอิงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ณ สิ้นปีนี้และปีหน้า ทำให้เราเห็น downside risks ของประมาณการกำไรปีนี้ราว 1-2% และปีหน้าราว 8-10%

เราประเมินว่าราคาหุ้นกลุ่มธนาคารที่ยืนได้ตอนนี้ เพราะความคาดหวังเรื่องอัตราเงินปันผลระหว่างกาลที่ราว 1-3% ทำให้เราไปศึกษาข้อมูลในอดีต ซึ่งเป็นการศึกษาผลตอบแทนของหุ้นกลุ่มธนาคารในช่วง XD ในช่วงปี 2017-20 (เพราะเป็นช่วงที่ bond yields เป็นขาลง ซึ่งมีความใกล้เคียงสถานการณ์ bond yield ในปัจจุบัน)
Fundamental view: เราพบว่าราคาหุ้นกลุ่มธนาคารมักจะให้ผลตอบแทนติดลบและ underperform SET หลังจากผ่านวัน XD ไปแล้ว ทำให้เรามองว่านี่เป็นโอกาสที่ดีในการ ขายทำกำไร หุ้นกลุ่มธนาคารก่อนวัน XD

PTG
(Visit Note)
พีทีจี เอ็นเนอยี
แนวโน้ม 3Q25 ชะลอตัว QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่ระยะยาวมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง
จากการประเมินเบื้องต้น ผลการดำเนินงาน 3Q25 มีแนวโน้มชะลอตัว QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของทั้งธุรกิจ Oil และธุรกิจ Non-Oil

สำหร้บปี 2025 บริษัทปรับลดเป้าหมายการเติบโตของปริมาณขายน้ำมันลงมาอยู่ที่ 1-3% YoY (จากเดิม +5-10%) เนื่องจากเศรษฐกิจไทยชะลอตัว แต่คงเป้าหมายการขยายสถานีบริการไว้ที่ 50 แห่งเป็น 2,279 แห่ง

ในส่วนของธุรกิจ Non-Oil บริษัทคงเป้าหมายการขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยไว้ที่ 600 สาขา เป็น 1,947 สาขา แต่ปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของยอดขายธุรกิจ Non-Oil เป็น 50-60% YoY (จากเดิม +40-50%) นำโดยธุรกิจกาแฟพันธุ์ไทย (มีแผน spin off ใน 2-3 ปีข้างหน้า) และคงเป้าหมายการเติบโตของ EBITDA ไว้ที่ 8-12% YoY ในปีนี้

Our view: แนวโน้มมการเติบโตระยาวยังแข็งแกร่งและมูลค่าหุ้นไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายที่ PE ปี 2025 ที่ 10.7 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 18.6 เท่าอยู่ 42%) เราจึงมองว่าเป็นระดับที่น่าสนใจลงทุน

 

สรุปประเด็นจาก Quick take

BBIK
บลูบิค กรุ๊ป
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
2H25 ทิศทางน่าจะดีกว่าครึ่งปีแรก การปิดงานที่ปกติจะจบใน 2Q น่าจะปิดได้ช่วงปลาย 3Q25 เป็นส่วนใหญ่ สภาวะตลาดยังไม่ได้ฟื้นมาก งานส่วนใหญ่ยังไม่ได้เร่งกลับมา (ลูกค้าและคู่แข่งของลูกค้าไม่รีบ การลงทุนก็ยังเลื่อนได้)
View from fundamental: เรายังมองว่ากำไรของ BBIK ใน 2H25 น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง และยืนระดับได้ แต่ภาวะอุตสาหกรรมยังไม่เอื้อสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

PTT
ปตท
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
ธุรกิจก๊าซ: แนวโน้มปี 2025 ปริมาณขายของโรงแยกก๊าซคาดว่าเพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้นทุนก๊าซคาดว่าจะลดลง แต่ปริมาณขายก๊าซอาจลดลง
View from fundamental: ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งรวมทั้งอัพไซด์ต่อประมาณการกำไรจากการปรับโครงสร้างธุรกิจน่าจะหนุนความสามารถในการจ่ายเงินปันผลและหนุนให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

GULF
กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี
ดีเวลลอปเมนท์
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
ส่วนแบ่งกำไรจาก Jackson มีแนวโน้มโตต่อเนื่อง 2–3 ปีข้างหน้า Data Center เฟสแรก secure demand ได้ตามเป้า, เฟส 2 กำลังก่อสร้าง, มองโอกาสขยายอีก 200–300MW
View from fundamental: หากมีการประกาศ M&A ตลาดน่าจะตอบรับเชิงบวก เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตระยะยาว

CK
ช.การช่าง
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
2H25 มี Upside จากการรับรู้ส่วนต่างราคาขาย LPCL (ไม่เกิน 700-800 ลบ. ก่อนภาษี + ยังไม่รวมตี Fair Value) มากกว่า Downside จาก GMT เพียง 10-20 ลบ.
View from fundamental: เรายังมอง CK เป็นหุ้นรับเหมาฯ ที่ปลอดภัยในเชิงพื้นฐานสุดจาก Business Model ที่มี Recurring Business ดี และ Backlog งานก่อสร้างสูง

CCET
แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์(ประเทศไทย)
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
ยอดขาย -YoY ในเดือน ก.ค. จากลูกค้ารายหนึ่งถึงรอบเปลี่ยนรุ่นสินค้าน่าจะกลับมาเดือน ก.ย. ภาษีนิ่งไม่ได้เสียเปรียบตลาดคู่แข่ง คาดลูกค้าจะเริ่มกลับมาสั่งสินค้า โดยโรงงานใหม่มี 2 ลูกค้า 3 สินค้าใหม่ทยอย Mass production ตั้งแต่ มิ.ย.
View from fundamental: ยอดขายรายเดือนน่าจะฟื้น MoM ได้ในเดือน ส.ค. แต่เรายังมองว่าจาก อัตรากำไรที่ต่ำจะมีความเสี่ยงสำหรับการเจรจาราคาในอนาคตโดยเฉพาะกลุ่ม Consumer electronics และ printer ที่อุปสงค์ไม่ได้แข็งแกร่ง ในขณะที่รายละเอียดสัดส่วนรายได้ในกลุ่มที่มีอนาคตดีอย่าง SSD/HDD ไม่สามารถแยกออกมาได้ชัด


OKJ
ปลูกผักเพราะรักแม่
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
เราคาด 3QTD SSS -12-15% YoY เทียบ SSS -22% YoY สำหรับ 2Q25 มีขยายอีก 8 สาขาใน 2H25 คือ OKJ 2, OHJ 2 และ Joe Wings 4 สาขา
View from fundamental: ยอดขายสาขาเดิมที่อ่อนแอ การแข่งขันที่รุนแรง และสภาพเศรษฐกิจที่เปราะบาง กดดันการฟื้นตัวในระยะสั้น ขณะที่มูลค่าหุ้นปัจจุบันยังถือว่าแพงเมื่อเทียบกับปัจจัยเสี่ยงต่อการฟื้นตัวใน 2H25

MAGURO
มากุโระ กรุ๊ป
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
เราคาด 3QTD SSS -5% YoY จาก -10% YoY ใน 2Q25 เน้นขยายสาขาแบรนด์ใหม่ เช่น Hitori Shabu, AOKI, Bincho ใน 2H25 ซึ่งแบรนด์ใหม่ๆ รวมกันเป็น 50% ของรายได้รวม และเป็นแบรนด์ที่มี GM สูง (>50%) สูงกว่า GM ค่าเฉลี่ยของบริษัท
View from fundamental: แม้ว่า MAGURO จะเจอการแข่งขันที่รุนแรง และสภาพเศรษฐกิจที่เปราะบาง แต่บริษัทเน้นการขยายแบรนด์ใหม่ๆ ที่เป็นกระแสนิยม และมีมาร์จิ้นสูง เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้และกำไร

TRUE
ทรู คอร์ปอเรชั่น
คำพิพากษาคดี TA 1234
ศาลปกครองกลางพิพากษาเพิกถอนคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการคดี TA 1234 ทำให้ TRUE ไม่ต้องชำระเงินให้ NT ตามคำชี้ขาดเดิม หาก NT ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ก็อาจใช้เวลาอีก 1-3 ปี ในการพิจารณาคดี
View from fundamental: ราคาดว่าตลาดจะตอบรับเชิงบวกต่อข่าวดังกล่าว

Chemical
ผู้ผลิตปิโตรเคมีในเกาหลีใต้ประกาศลดกำลังการผลิต
ผู้ผลิตปิโตรเคมี (Naphtha crackers) ขั้นนำในเกาหลีใต้ 10 ราย เช่น LG Chem, GS Caltex, Lotte Chemical เป็นต้น ได้ลงนามในข้อตกลงลดกำลังการผลิตรวม 2.7-3.7 ล้านตัน/ปี (คิดเป็น 18-25% ของกำลังการผลิตปิโตรเคมีรวมในเกาหลีใต้) เพื่อปรับโครงสร้างการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพตามนโยบายของรัฐบาล
View from fundamental: แนวโน้มที่ดีขึ้นของตลาดปิโตรเคมีน่าจะส่งผลเชิงบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นที่มีการผลิตปิโตรเคมีและกลุ่มปิโตรเคมี ทั้ง IRPC, TOP, IVL, PTTGC, และ SCC โดยเราชอบ PTTGC และ SCC มากที่สุดในกลุ่ม

 


วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

IND โชว์ Backlog กว่า 2.5 พันลบ. หนุนผลงานปี 68 รายได้โตเกิน 10-15%

IND โชว์ Backlog กว่า 2.5 พันลบ. หนุนผลงานปี 68 รายได้โตเกิน 10-15%

รอผู้นำ By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาพรวมตลาดหุ้นไทย อยู่ในสภาวะ รอผู้นำ ซื้อหุ้น แบบไม้ใหญ่ๆ ห้วงเวลานี้ พักหุ้นตัวใหญ่....

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้