นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจ เชื่อมั่น SET มากขึ้น
TOP PICK MTC / PTT / AAV

EXTERNAL FACTOR
• วานนี้ FED เผยรายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ค. 68 โดยมุมมองของคณะกรรมการ FED “ส่วนใหญ่” กังวลความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมากกว่าตลาดแรงงาน
• แม้รายงานการประชุม FOMC จะชี้ว่า FED กังวลเงินเฟ้อมากขึ้น แต่ตลาดการเงินมีมุมองต่อทิศทางดอกเบี้ยในสหรัฐฯ แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยยังให้น้ำหนักว่าFED จะปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ 2 ครั้ง (50 BPS.)
• ส่วนคืนพรุ่งนี้ เวลา 21.00 น. รอจับตาประธาน FED (POWELL) กล่าวสุนทรพจน์ที่JACKSON HOLE เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ

INTERNAL FACTOR
• วานนี้ SET INDEX ปรับตัวขึ้น 1.00% ปิดตัวระดับ 1248.13 จุด(ขึ้นแรงเป็นอันดับ 7ของโลก) จะสังเกตได้ว่าหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีอย่าง PTTGC, IVL, SCC เป็นกลุ่มหลักในการดันตลาดฯจาก 2 ปัจจัย คือ เกาหลีใต้ลดกำลังผลิตปิโตรเคมี และได้ SENTIMENTบวกจากนโยบาย ANTI-INVOLUTION ของจีน
• วันนี้ SET INDEX มีโอกาสพักฐานบ้าง จากความผันผวนจากศาลรธน.ไต่สวน “แพทองธาร-เลขาฯ สมช.” คดีคลิปเสียง 10.30 น. ซึ่งหากแพทองธารยังไม่ชิงลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ทำให้กระบวนการจะไปสิ้นสุด ณ วันศุกร์ที่ 29 ส.ค. 68

INVESTMENT STRATEGY
• แม้ในปีนี้ล่าสุดจะมีหุ้น IPO เข้าตลาดฯ แค่6 บริษัท ถือว่าน้อยมากๆ แต่หุ้นที่เข้ามาสร้างสีสันต่อตลาดฯได้ดีโดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากราคา IPO ถึงราคาปิดวันแรกถึง 5 บริษัท ได้แก่ PIS +20% MOTHER +15%LTMH +1% BKA +37% HANN +203% ซึ่งหลังจากนี้เห็นหลายบริษัทสนใจ IPO มากขึ้น เช่น TURBO,MRDIYT, ATLAS, SMO, TNCC รวมถึงบริษัทลูก PTT อย่าง INNOBIC เป็นต้น อิงกับในอดีต เวลาจำนวนหุ้นIPO เข้าตลาดมากขึ้น SET ก็มักขึ้นได้ดีด้วย ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นในมุมมองของเจ้าของธุรกิจเอง
• TOPPICK คือ PTT(LAGGARD หุ้นปิโตรฯ) MTC (ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง) และAAV (เตรียมได้ประโยชน์จากการแจกตั๋วบินฟรีในประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ)

จับตาสัญญาณดอกเบี้ยขาลง
วานนี้ FED เผยรายงานการประชุม FOMC เดือน ก.ค. 68 โดยมุมมองของคณะกรรมการ FED “ส่วนใหญ่” กังวลความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อมากกว่าตลาดแรงงาน หลังประเมินว่าผลกระทบของภาษีจะเริ่มผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภค ขณะที่บางส่วนมองว่าความต้องการที่อ่อนแออาจจำกัดความสามารถในการขึ้นราคา อย่างไรก็ตาม มีคณะกรรมการ FED 2 มองว่าความไม่แน่นอนทางนโยบาย จะคลี่คลายและช่วยหนุนเศรษฐกิจแม้รายงานการประชุม FOMC จะชี้ว่า FED กังวลเงินเฟ้อมากขึ้น แต่ตลาดการเงินมีมุมองต่อทิศทางดอกเบี้ยในสหรัฐฯ แทบไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยยังให้น้ำหนักว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ 2 ครั้ง (50 BPS.) ครั้งแรกในเดือน ก.ย. 68 สู่ระดับ 4.25% และปลายปีจะอยู่ที่ระดับ 4.0%

ในอีกแง่มุมหนึ่ง เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวของภาคการค้าระหว่างประเทศ ล่าสุดสะท้อนจากยอดส่งออกญี่ปุ่นเดือนก.ค.68 ลดลง -2.6%YOY หนักสุดในรอบกว่า 4 ปีอีกทั้งยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ลดลง -10.1%YOY

ส่วนคืนพรุ่งนี้ เวลา 21.00 น. รอจับตาประธาน FED (POWELL) กล่าวสุนทรพจน์ที่ JACKSON HOLE เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ
• หาก POWELL ยืนยันความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ อาจลดความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ย
• หาก POWELL เปลี่ยนท่าทีหลังข้อมูลแรงงานอ่อนแอ อาจเพิ่มความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ย และตลาดหุ้นมีโอกาสตอบรับเชิงบวก

วานนี้ SET INDEX แข็งแกร่งบวกสวนตลาดหุ้นอื่นๆ แต่เตรียมพักฐานบ้างในวันนี้
วานนี้ SET INDEX ปรับตัวขึ้น 1.00% ปิดตัวระดับ 1248.13 จุด(ขึ้นแรงเป็นอันดับ 7 ของโลก) แม้มีปัจจัยลบจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ FLOW สถาบันยังหนุนกว่า 2 พันล้านบาท โดยหุ้นใน SET INDEX ที่ผลักดันดัชนีมากสุด คือSCC ดันดัชนี 1.4 จุด,TRUE ดันดัชนี 1.3จุด, GULF ดันดัชนี 1.1จุด, PTTGC ดันดัชนี 0.8จุด, PTTEP ดันดัชนี0.7จุด และ IVL ดันดัชนี 0.5 จุด เป็นต้น ซึ่งจะสังเกตได้ว่าหุ้นกลุ่มปิโตรเคมีอย่าง PTTGC, IVL, SCC เป็นกลุ่มหลักในการดันตลาดฯจาก 2 ปัจจัย ดังนี้
เกาหลีใต้ลดผลิตปิโตรเคมี: เกาหลีใต้สั่งลดกำลังผลิตนาฟทา 2.7–3.7 ล้านตัน ต่อปี (1–1.2% ของโลก) เป็นบวกต่อ PTTGC และ IVLได้ SENTIMENT บวกจากจีนและตลาดในประเทศ : นโยบาย ANTI-INVOLUTION ของจีนช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมคุณภาพสูง หนุนความต้องการปิโตรเคมีมากขึ้น (ประชุม 20 –21 ส.ค. 68)

อย่างไรก็ตามวันนี้ SET INDEX มีโอกาสพักฐานบ้าง ตามการ TAKE PROFIT ของแต่ละนักลงทุนโดยเฉพาะฝั่งสถาบันในประเทศ รวมถึงเช้านี้ยังมีความผันผวนจากศาลรธน.ไต่สวน “แพทองธาร-เลขาฯ สมช.” คดีคลิปเสียง10.30 น. ซึ่งหากแพทองธารยังไม่ชิงลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ทำให้กระบวนการจะไปสิ้นสุด ณ วันศุกร์ที่ 29 ส.ค.68 รอฟังคำวินิจฉัยและประกาศผลโดยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากนั้นจะเห็นกระบวนการทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้นไปอีกระดับ

หุ้น IPO เตรียมเข้ามา ส่งสัญญาณ SET ดีขึ้นระยะกลาง-ยาว
แม้ในปีนี้ ล่าสุดจะมีหุ้น IPO เข้าตลาดฯ แค่ 6 บริษัท ถือว่าน้อยมากๆ เพราะนักลงทุนยังไม่ค่อยให้ความเชื่อมั่นกับตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่หุ้นที่เข้ามาสร้างสีสันต่อตลาดฯได้ดี โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นจากราคา IPO ถึงราคาปิดวันแรกถึง 5 บริษัท ได้แก่ PIS +20% MOTHER +15% LTMH +1% BKA +37% HANN +203% ซึ่งหลังจากนี้เห็นหลายบริษัทสนใจ IPO มากขึ้น เช่น TURBO, MRDIYT, ATLAS, SMO, TNCC รวมถึงบริษัทลูก PTT อย่างINNOBIC เป็นต้นที่สำคัญในอดีต เวลาหุ้น IPO ทยอยเข้ามาเพิ่มขึ้น หรือเติบโต YOY SET INDEX ก็มักจะมีโอกาสทยอยฟื้นตัวได้เช่นเดียวกัน แสดงถึงความเชื่อมั่นของเจ้าของธุรกิจ และนักลงทุนที่ทยอยกลับมา

ส่วนสัปดาห์หน้าติดตาม 2 ปัจจัยที่น่าจะเข้ามามีบทบาทต่อ SET INDEX คือ FTSE REBALANCE คืน 22 ส.ค.68,THAILAND FOCUS 27 –29 ส.ค.68
โดยกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ เน้นหุ้นขนาดกลาง-ใหญ่ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอย่าง PTT (น้ำมันโลกปรับตัวขึ้น และได้ SENTIMENT จากบริษัทลูกอย่าง PTTGC) MTC(ได้ประโยชน์จากภาวะดอกเบี้ยขาลง และราคา LAGGARD หุ้นกลุ่มเดียวกันค่อนข้างมาก) และAAV(เตรียมได้ประโยชน์จากการแจกตั๋วบินฟรีในประเทศสำหรับนักท่องเที่ยว
ต่างชาติ)

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์