สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(21 สิงหาคม 2568)-------------บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) TRUE เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้ยื่นคําร้องขอเพิกถอนคําชี้ ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการในคดีที่บริษัท ทีโอทีจํากัด (มหาชน) (“ทีโอที”) (ปัจจุบัน คือ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จํากัด (มหาชน)) ยื่นคําเสนอข้อพิพาทเรียกร้องค่าเสียหายจากการสูญเสียรายได้ตั้งแต่วันที่16 พฤศจิกายน 2543 ถึงเดือนมิถุนายน 2548 อันเนื่องมาจากบริษัทฯ ลดค่าบริการโทรศัพท์ทางไกลในประเทศภายใต้โครงการ TA 1234 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รายงานความคืบหน้าที่สําคัญของคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2567 รายละเอียดตามเอกสารที่อ้างถึง และ ตามที่บริษัทฯ ได้เปิ ดเผยข้อมูลไว้แล้วในรายงานประจําปี 2567 (แบบ 56-1 One Report) นั้น

บริษัทฯ ขอแจ้งความคืบหน้าที่สําคัญว่า เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ศาลปกครองกลางได้มีคําพิพากษาให้เพิกถอนคําชี้ ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ เนื่องจากเป็ นกรณีที่ทีโอทียื่นคําเสนอข้อพิพาทต่อคณะอนุญาโตตุลาการเมื่อพ้นกําหนดเวลาตามที่กฎหมายกําหนด การที่คณะอนุญาโตตุลาการรับคําเสนอข้อพิพาทและมีคําชี้ ขาดจึงเป็นการกระทําที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ศาลปกครองกลางยังวินิจฉัยว่าการให้บริการ TA 1234 ของบริษัทฯเป็นเพียงการกระทําเพื่อบรรเทาความเสียหายอันเกิดจากการปฏิบัติผิดสัญญาของทีโอทีเท่านั้น ถือไม่ได้ว่าบริษัทฯ ปฏิบัติผิดสัญญา ดังนั้น การที่คณะอนุญาโตตุลาการชี้ ขาดว่าบริษัทฯ เป็นฝ่ ายผิดสัญญาและให้บริษัทฯ ชําระเงินนั้น เป็ นการวินิจฉัยชี้ ขาดที่ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและข้อสัญญาร่วมการงานและร่วมลงทุน คําชี้ ขาดดังกล่าวย่อมเป็นคําชี้ ขาดที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนซึ่งมีผลให้การยอมรับหรือบังคับตามคําชี้ ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการจะเป็ นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตามมาตรา 40 วรรคสาม (2) (ข) แห่งพระราชบัญญัติอนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 ศาลจึงมีคําพิพากษาให้เพิกถอนคําชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการและบริษัทฯ ไม่ต้องชําระเงินให้แก่ทีโอทีตามคําชี้ ขาดดังกล่าว

ทั้งนี้ คู่กรณี ฝ่ายที่ไม่พอใจกับคําพิพากษาสามารถอุทธรณ์คําพิพากษาของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ทราบผลคําพิพากษา