Today’s NEWS FEED

ตอนนี้คุณกำลังอยู่ในเว็บไซต์สำหรับทดสอบระบบ

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET "ที่แนวรับยังลุ้นรีบาวด์ได้"

103

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 20 สิงหาคม 2568 )----- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2568 คาดว่าตลาดจะเคลื่อนไหว Sideways แต่เริ่มมีโอกาสรีบาวด์ที่แนวรับ แรงขายจากนักลงทุนสถาบันแม้ยังมีต่อแต่ลดระดับลง หุ้น THAI และพลังงานยังคงมีอิทธิพลต่อทิศทางดัชนีรวม ปัจจัยที่ตลาดติดตามเป็นคดีการเมืองวันที่ 22 ส.ค. และงานสัมมนา Jackson Hole ซึ่งมักจะใช้เป็นที่แสดงจุดยืนของเฟด เทคนิคมีแนวรับหลักที่ 1235/1230 จุดคาดว่าจะทำให้รีบาวด์สั้น ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1250/1255 จุด


ประเด็นสำคัญ
• ครม. มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) ให้เป็นกลไกสนับสนุนเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ SMEs ทำหน้าที่ประเมินความเสี่ยง และค้ำประกันเครดิตสำหรับประชาชนที่ขอสินเชื่อกับธนาคารรัฐ, ธนาคารพาณิชย์ และกลุ่ม non-bank รมช. คลังเผยว่าเบื้องต้นได้กำหนดทุนประเดิมของ NaCGA ไว้ที่ 1 หมื่นลบ.
• ธปท. เผยสินเชื่อระบบ ธพ. ใน 2Q68 หดตัวต่อเนื่องในอัตราชะลอลงที่ 0.9%YoY เกิดจากการหดตัวของสินเชื่อ SMEs (-6.2%) และสินเชื่ออุปโภคบริโภค (-2.2%) ส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่คงขยายตัวได้ (+2.7%) ด้านคุณภาพสินเชื่อด้อยลงเล็กน้อยและ NPL เพิ่มขึ้น ยกเว้น NPL สินเชื่อเพื่อการบริโภคปรับลดลงทุกประเภทจากการปรับโครงสร้างหนี้
• ส.อ.ท. เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรม ก.ค. 2568 ลงลงต่อเนื่องสู่ 86.6 ต่ำที่สุดในรอบ 36 เดือน กดดันจากสถานการณ์ข้อพิพาทบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กระทบ ศก. การค้าชายแดน, สถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ในภาคเหนือ และความกังวลต่อการเริ่มจัดเก็บภาษีศุลกากรสหรัฐฯ และการจัดทำงบประมาณปีงบฯ 2569 ที่อาจล่าช้า
• กรมธุรกิจพลังงานเผยการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เพิ่มขึ้น 0.6%YoY หนุนจากบริโภคน้ำมันอากาศยาน (Jet A1) และเบนซินที่เพิ่มขึ้น 11.2%YoY และ 0.8%YoY ส่วนการบริโภคดีเซลหดตัว 1.4%YoY ระยะสั้นยังมองไม่เห็นปัจจัยหนุนต่อกลุ่มค้าปลีกน้ำมัน แนะรอสัญญาณฟื้นตัวของปริมาณบริโภคเชื้อเพลิงที่จะสูงขึ้นตามฤดูกาลใน 4Q68
• S&P Global คงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ที่ระดับ AA+ แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือยังคงมีเสถียรภาพ หนุนจากรายได้ภาษีศุลกากรที่เก็บจากประเทศอื่นอาจช่วยชดเชยผลกระทบด้านขาดดุลงบประมาณอันเนื่องมาจาก One Big Beautiful Bill Act

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสพักฐาน หลังดัชนีปรับขึ้นต่อเนื่องจนเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ 1280/1300 จุด ซึ่งคาดได้สะท้อนถึงแรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลเข้าและการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ไปแล้วในระดับหนึ่ง สัปดาห์นี้คาดการส่งออกไทยจะออกมาดีกว่าตลาดคาดเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ 2Q68 GDP ไทยขยายตัว 2.8%YoY สูงกว่าตลาดคาด ส่วนประเด็นการเมืองที่เกี่ยวกับคดีของอดีตนายกฯ ทักษิณมองไม่มีนัยยะกับตลาด แต่ต้องจับตา ป.ป.ช. ว่าจะมีมติส่งคดีตามมาตรา 144 ซึ่งเกี่ยวกับการโยกงบประมาณไปใช้ในโครงการ Digital Wallet ให้ศาล รธน. วินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งอาจเพิ่มความผันผวนให้กับตลาดได้ กลยุทธ์ลงทุนแนะนำให้ “Selective Buy”


แนวรับ – แนวต้าน : 1235/1230– 1250/1255

 

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET มีโอกาสพักฐาน ขณะที่มีหลายประเด็นที่ต้องเฝ้าติดตาม จากก่อนหน้านี้ดัชนีได้รับแรงหนุนจาก Fund Flow ไหลเข้า กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Earnings Play ซึ่งคาด 2H68 ผลการดำเนินงานจะยังเติบโตดีทั้ง HoH และ YoY แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลและจากปัจจัยบวกที่มีเฉพาะตัว ได้แก่ ADVANC BCPG GULF SCC TIDLOR
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET100 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT SIRI TTB
3. Trading Idea : สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โดยมี PBV และ PER 2568F < -1SD อีกทั้งมีพื้นฐานดี (กำไรเติบโต ฐานะการเงินแข็งแกร่งและมี ESG Ratings A-AAA) แนะนำ BDMS CPALL MINT PTT WHA; 2) เก็งกำไรหุ้นใน SET50 ที่ทางเทคนิคยังต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และเราแนะนำ Outperform ได้แก่ BCP CBG GULF MTC; และ 3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาลงและจาก GDP 2Q68 มีโอกาสออกมาดีกว่าตลาดคาด แนะนำ กลุ่มอสังหาฯ AP SIRI, กลุ่มค้าปลีก CPALL HMPRO GLOBAL และกลุ่ม REITs ได้แก่ FTREIT LHSC

 


Daily Top Picks
HMPRO: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากเข้าสู่ช่วงประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 โดยคาดให้ Div. Yield ใน 1H68 ที่ 2.2% ขณะที่ 3Q68 คาดยอดขายสาขาเดิมหดตัวในอัตราที่ช้าลงจาก 2Q68 หลังพ้นช่วงฝนตกหนักและจะมีความต้องการซ่อมแซมเพิ่มขึ้นหลังน้ำท่วม

ADVANC: มองราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากการมีโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่ง โดยคาด 3Q68 กำไรจะยังเติบโตต่อทั้ง YoY และ QoQ จากการประหยัดต้นทุนหลังประมูลคลื่น ซึ่งจะเริ่มเห็นประโยชน์ตั้งแต่ ส.ค. นี้เป็นต้นไป รวมถึงรายได้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการ FBB จะดีขึ้นต่อเนื่อง

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้