สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (15 สิงหาคม 2568 )-----ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ICBCT ที่ ‘AAA(tha)’ และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่‘F1+(tha)’ โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตพิจารณาจากปัจจัยสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น: อันดับเครดิตของ ICBCT สะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่ามีโอกาสที่ธนาคารจะได้รับการสนับสนุนเป็นพิเศษที่นอกเหนือจากการดำเนินงานตามปกติ (extraordinary support) จากธนาคารแม่ คือ Industrial and Commercial Bank of China (ICBC; ‘A’/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ซึ่งถือหุ้นใน ICBCT ที่ 98%
อันดับเครดิตภายในประเทศของ ICBCT ยังพิจารณาเปรียบเทียบกับโครงสร้างอันดับเครดิตของสถาบันการเงินอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศโดยฟิทช์ด้วย ทั้งนี้ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ ICBCT ที่ 'AAA(tha)' สะท้อนถึงโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ที่ต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายใน ประเทศ โดยพิจารณาจากความสามารถและโอกาสในการให้การสนับสนุนที่สูงของธนาคารแม่
มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อกลุ่ม: ฟิทช์เชื่อว่า ICBCT มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายเชิงกลยุทธ์และการขยายธุรกิจของ ICBC ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย ICBCT มีส่วนช่วยสนับสนุนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศไทยและจีน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบทบาทของธนาคารที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำเนินธุรกรรมสกุลเงินหยวนในประเทศไทย นอกจากนี้ ICBCT ยังมีความร่วมมือทางการตลาดที่สำคัญกับกลุ่ม ICBC ทั้งในด้านการสนับสนุนฐานลูกค้าและผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ซึ่งฟิทช์คาดว่าความร่วมมือดังกล่าวจะยังคงอยู่ต่อเนื่องในระยะปานกลาง
ธนาคารแม่มีความสามารถในการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง: ความสามารถของ ICBC ในการให้การสนับสนุน ICBCT อ้างอิงจากอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศของ ICBC ซึ่งพิจารณาจากการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่าการสนับสนุนเป็นพิเศษนอกเหนือจากการดำเนินงานตามปกติจะถูกส่งผ่านจากรัฐบาลจีน (A/Stable) ผ่าน ICBCไปยังธนาคารลูกในต่างประเทศที่มีความสำคัญ เช่น ICBCT ในกรณีที่จำเป็น นอกจากนี้ ICBCT มีขนาดที่ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับ ICBC —โดยมีสินทรัพย์คิดเป็นไม่ถึง 1% ของสินทรัพย์รวมของ ICBC ณ สิ้นปี 2567 ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่ค่อนข้างจำกัดต่อธนาคารแม่หากจำเป็นต้องให้การสนับสนุนแก่ธนาคารลูก
มีการผสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับ ICBC: ฟิทช์มองว่า ICBCT มีการผสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารแม่ จากการที่ ICBC มีสัดส่วนการถือหุ้นเกือบทั้งหมดใน ICBCT ซึ่งเอื้อให้เกิดการควบคุมดูแลการบริหารอย่างมีนัยสำคัญและการบริหารความเสี่ยงที่มีความสอดคล้องกับธนาคารแม่ นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมโยงด้านการดำเนินงานในระดับสูง เช่น ระบบการปฏิบัติงานและกระบวนการในดำเนินงาน
ความเชื่อมโยงด้านชื่อเสียงในระดับสูง: การใช้ชื่อและสัญลักษณ์ทางการค้าร่วมกันระหว่าง ICBC และ ICBCT ส่งผลให้เกิดการเชื่อมโยงด้านชื่อเสียงในระดับสูง หากเกิดกรณีผิดนัดชำระหนี้หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญกับ ICBCT จะมีความเสี่ยงต่อชื่อเสียงของ ICBC ในระดับสูง เนื่องจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างกัน
มีการสนับสนุนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานตามปกติอย่างต่อเนื่อง: กลุ่มบริษัทมีการเชื่อมโยงและให้การสนับสนุนด้านการดำเนินงานของ ICBCT อย่างต่อเนื่อง โครงสร้างเงินทุนของธนาคารได้รับการสนับสนุนจากวงเงินสินเชื่อภายในกลุ่มซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและเป็นเงินสำรองสภาพคล่องในกรณีที่เกิดการขาดแคลนเงินทุน
ปัจจัยที่อาจส่งผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
การปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของ ICBCT อาจเกิดขึ้นได้ หากความสามารถในการสนับสนุนของ ICBC ปรับตัวด้อยลง ซึ่งบ่งชี้ได้จากการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ICBC ลงมาในระดับเดียวกัน หรือต่ำกว่าอันดับเครดิตสากลของประเทศไทย (BBB+/ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ) ทั้งนี้การพิจารณาอันดับเครดิตจะพิจารณารวมถึงโครงสร้างเครดิตของ ICBCT เปรียบเทียบกับธนาคารและบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศด้วย
นอกจากนี้ หากมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของโอกาสในการให้การสนับสนุนของ ICBC ก็อาจส่งผลให้อันดับเครดิตของ ICBCT ได้รับการปรับลดด้วยเช่นเดียวกัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจาก การลดสัดส่วนการถือหุ้นลงต่ำกว่า 75% ประกอบกับการลดระดับของอำนาจในการควบคุมการบริหารงาน ระดับความร่วมมือและผสานการดำเนินงานระหว่างกัน และระดับการสนับสนุนทางการเงิน อย่างไรก็ตามฟิทช์ไม่คาดว่าจะมีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของโอกาสที่ ICBC จะให้การสนับสนุนแก่ ICBCT ในระยะปานกลาง
อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นอาจได้รับการปรับลดอันดับลง หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับ A-(tha) หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญเกี่ยวกับโอกาสในการให้การสนับสนุน
ปัจจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตภายในประเทศของ ICBCT ไม่สามารถปรับเพิ่มได้อีก เนื่องจากเป็นอันดับเครดิตที่อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต: อันดับเครดิตอื่น-หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ฟิทช์คงอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของ ICBCT ที่อยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตระยะยาวภายในประเทศที่พิจารณาจากปัจจัยการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้น อยู่ 2 อันดับ เพื่อสะท้อนถึงการที่หุ้นกู้ดังกล่าวมีความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity) ที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน ทั้งนี้หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้ถูกปรับลดอันดับเพิ่มเติมเพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) เช่น สิทธิในการยกเว้นหรือการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต: อันดับเครดิตอื่น-หุ้นกู้ด้อยสิทธิ
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารอาจถูกปรับลดลง หากอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคารมีการปรับลดอันดับลง
ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน):
อันดับเครดิตอ้างอิงของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ คือ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสปรับเพิ่มได้อีก
แหล่งที่มาของข้อมูลที่มีนัยสำคัญต่อปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
แหล่งที่มาของข้อมูลหลักที่ใช้ในการวิเคราะห์เป็นไปตามรายละเอียดที่อธิบายไว้ในเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
อันดับเครดิตที่มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตอื่น
อันดับเครดิตของ ICBCT มีความเชื่อมโยงกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ICBC