สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (15 สิงหาคม 2568 )-----PR9 ผู้ให้บริการทางการแพทย์ที่หลากหลาย ครอบคลุม ทั้งการรักษาโรคทั่วไปและโรคเฉพาะทาง ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2568 กวาดรายได้ 1,296 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไร 182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีแรงหนุนสำคัญมาจากการเติบโตของผู้ป่วยต่างชาติ พร้อมเดินหน้าขยายบริการเพื่อรองรับผู้ป่วยรายใหม่

 

นพ. เสถียร ภู่ประเสริฐ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ผู้ให้บริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 โดยมีผลประกอบการเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แบ่งเป็นรายได้ 1,296 ล้านบาท เติบโต 18.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไร 182 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 30.8%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ 

 

ในไตรมาสที่ผ่านมา แม้เผชิญความท้ายทายจากจำนวนผู้ป่วยชาวจีนลดลง และต้นทุนการรักษาที่สูงขึ้น แต่บริษัท ฯ ได้วางแผนกลยุทธ์ รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่น และขยายฐานลูกค้าต่างชาติ ส่งผลให้ไตรมาสนี้ บริษัท ฯ มีสัดส่วนรายได้จากผู้ป่วยกลุ่มชาวต่างชาติ โดยเฉพาะจากภูมิภาคตะวันออกกลาง และกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 27% จากเดิม 15% แม้จะเป็นช่วง Low Season ก็ตามแต่มีปัจจัยสนับสนุนหลักจากจำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่เติบโตดีอย่างต่อเนื่อง และวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนให้ถึง 30% ภายในระยะเวลา 3 ปี 

 

นอกจากนี้ทางบริษัท ฯ ยังมีแผนเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่จะเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น 

การนำเทคโนโลยีอย่าง AI มาช่วยในการรักษาผู้ป่วย รวมถึงการลงทุนในเครื่องมือทางการแพทย์ อาทิ เครื่อง MRI รุ่นใหม่ ระดับ 3 Tesla ที่ช่วยให้การตรวจวินิจฉัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มความสะดวกสบายแก่ผู้รับบริการซึ่งตอนนี้เปิดให้บริการแล้ว รวมถึงการติดตั้ง Cath Lab เพิ่มอีก 1 เครื่อง เพื่อเสริมศักยภาพในการรักษาเส้นเลือดหัวใจและสมอง พร้อมทั้งวางแผนจัดตั้งศูนย์บริการใหม่ในระยะยาว 

 

การรีโนเวทพื้นที่เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงอีก 20 เตียง โดยคาดว่าจะเปิดใช้บริการไตรมาส 4/2568  รวมถึงปรับปรุงหอผู้ป่วยหนัก (ICU) โดยจัดตั้ง หน่วย Stroke Unit พร้อมทั้งปรับปรุงแผนกฟอกไต โดยปัจจุบันโรงพยาบาลมีเตียงให้บริการ 204 เตียง และสามารถขยายได้สูงสุดราว 300 เตียง เพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยที่สูงขึ้น 

 

และมีกลยุทธ์ในการเพิ่มรายได้จากศูนย์เฉพาะทาง เช่น สถาบันโรคไตฯ สถาบันโรคหัวใจฯ ศูนย์สมองและระบบประสาท ศูนย์กระดูกและข้อ ศูนย์ผ่าตัดแผลเล็ก ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูง รวมไปถึงการวางแผนขยายตลาดกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติไปยังกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลางและประเทศใหม่ๆ เช่น บังกลาเทศ ซึ่งมีโอกาสดันสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น

 

จากการเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ ทั้งเทคโนโลยีการรักษาโรค และการขยายขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยชาวไทย และชาวต่างชาติ เชื่อว่าทั้งหมดนี้ จะยิ่งเสริมศักยภาพให้บริษัท ฯ มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว

 

"ผลประกอบการไตรมาสนี้เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของกลุ่มผู้ป่วยชาวต่างชาติ ควบคู่กับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และภาพรวมของปี 2568 คาดว่าจะมีกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง" นพ. เสถียร กล่าว